กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – กระทรวงการคลัง จับมือ ธ.กรุงไทย รวมหนี้ข้าราชการคลัง ผ่อนชำระสูงสุดถึงอายุ 80 ปี เตรียมวงเงินรองรับหน่วยงานรัฐ 1.4 แสนล้านบาท
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือใน “โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง” เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารกรุงไทย และ 9 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง เพื่อร่วมมือแก้ไขปัญหาหนี้ โดยเฉพาะข้าราชการกลุ่มเปราะบาง เงินเดือนถูกหักเงินไปใช้หนี้จนเกือบหมด มีเหลือใช้ในแต่ละเดือนไม่ถึงร้อยละ 30 ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ทำให้ต้องไปกู้เพิ่มเพื่อมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนมีหนี้อยู่หลายแห่ง กระจัดกระจาย และอยู่ในวงจรหนี้ไม่จบไม่สิ้น
นายพิชัย กล่าวว่า เมื่อนำร่องแก้หนี้ในสหกรณ์สังกัดกระทรวงคลังประสบความสำเร็จ จากนั้นจะขยายความร่วมมือกับยังหน่วยงานอื่นอีกหลายกระทรวง โดยยอดหนี้ข้าราชการมีภาระหนี้ถึง 3 ล้านล้านบาท และต้องการให้แยกความเสี่ยงตามกลุ่มลูกหนี้ข้าราชการในเครดิตบูโร เพราะบางคน ค้างชำระเพียงบางงวด บางคนติดค้างเป็นเวลานาน ปัจจุบันกระทรวงการคลังมีข้าราชการ สมาชิกสหกรณ์กว่า 36,000 คน มีปัญหาเจ้าหนี้มากกว่า 1 ราย ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ มีเงินเดือนเหลือไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า “สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง” มุ่งเน้นรวมหนี้รายย่อยทุกประเภท ทั้งสินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต และสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ จากทั้งธนาคารกรุงไทยและสถาบันการเงินอื่น ดังนี้
1.สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งสินเชื่อบ้าน (พร้อมขอกู้เพิ่ม) และสินเชื่อบ้านแลกเงิน (พร้อมขอกู้เพิ่ม) อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3.50% ต่อปี 3 ปีแรก หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา โดยคำนวณจากวงเงินกู้ 1 ล้านบาท อายุสัญญาสูงสุด 40 ปี ผ่อนชำระ 4,700 บาท/เดือน ได้รับยกเว้นค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ประกัน 2.สินเชื่อแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
จุดเด่นโครงการเมื่อคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ “คงที่” ตลอดอายุสัญญา ไม่ผันผวนไปตามทิศทางของดอกเบี้ย วางแผนการบริหารหนี้ระยะยาวและสภาพคล่องได้ดียิ่งขึ้น ชำระสูงสุดถึงอายุ 80 ปี จากเดิมกำหนดอายุถึง 60 ปี เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับข้าราชการ ธนาคารกรุงไทย ร่วมมือกับเครดิตบูโร ซึ่งได้พัฒนาเครื่องมือในการแจ้งเตือน หากลูกหนี้มีการก่อหนี้เพิ่มและร่วมมือกับสหกรณ์ในการแชร์ข้อมูลสถานะหนี้ โดยได้รับความยินยอมจากลูกหนี้ ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (iLock Bureau)
ธนาคารกรุงไทยได้ออกแบบ เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดปัญหาเชิงโครงสร้าง จากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90.8% ต่อ GDP สอดคล้องกับแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรี อยากให้ร่วมมือของหลายภาคส่วน อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมบัญชีกลาง และเครดิตบูโร รวมถึงสหกรณ์ที่ข้าราชการเป็นสมาชิก ผลักดันให้การแก้ไขปัญหาเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยใน 3 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารจับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์เดินสายไปแล้วกว่า 10 จังหวัด มีความร่วมมือกับสหกรณ์กว่า 550 แห่ง ลูกค้าข้าราชการสนใจติดต่อเข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 คน ยอดหนี้เฉลี่ย 1.64 ล้านบาทต่อคน ธนาคารกรุงไทย ได้เตรียมวงเงินสำหรับโครงการนี้ 5 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือข้าราชการ 50,000 คน ปัจจุบันเตรียมวงเงินสนับสนุนสหกรณ์ทั้งระบบ 140,000 ล้านบาท
สำหรับร่วมมือกับกระทรวงการคลังในครั้งนี้ ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ กรมบัญชีกลาง กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ 7 สหกรณ์ในสังกัด เพื่อช่วยเหลือข้าราชการกลุ่มเปราะบาง แก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน. -515-สำนักข่าวไทย