กรุงเทพฯ 5 ส.ค.- ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงกว่า 20 จุด ตามหุ้นโลกหวั่น เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย ส่งผลดอลลาร์อ่อนค่า เงินบาทแข็งค่าขึ้น อยู่ที่ระดับประมาณ 35.23-35.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านตลาดหุ้นไทยเปิดตลาด ลดลงไปกว่า 20 จุด นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผอ.อาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้, CISA กล่าวว่าเป็นไปตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ตลาดกลับมาหวั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย หลังตัวเลขจ้างงานชะลอตัวและอัตราการว่างงานสูงสุดในรอบ 3 ปี อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องปรับลดดอกเบี้ยแรงขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาคดีการเมือง โดยเฉพาะการพิจารณาคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรีในวันที่ 14 ส.ค.นี้ อาจส่งผลกระทบต่อตลาดทุน รวมไปถึงมองเรื่องผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/67 ที่ในขณะนี้คาดว่าออกมาดีเติบโตกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วเฉลี่ย 14% จะเป็นแรงหนุนพยุงตลาดหุ้นไทย
ด้าน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าบริษัทจะเข้าซื้อสินทรัพย์ของกลุ่มคาเดเว ซึ่งดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าในประเทศเยอรมนี ได้แก่ คาเดเว กรุงเบอร์ลิน โอเบอร์ โพลลิงเกอร์ เมืองมิวนิค และอัลสแตร์เฮ้าส์ เมืองฮัมบูร์ก นั้น ไม่เป็นความจริง
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.23-35.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (10.47 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดในประเทศในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนที่ 35.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่แข็งค่ากว่าปลายสัปดาห์ก่อน โดยมีแรงหนุนบางส่วนจากปัจจัยลบของเงินดอลลาร์ฯ หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ที่รายงานออกมาเมื่อวันศุกร์ มีสัญญาณอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด และหนุนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนกันยายน นอกจากนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ “บางส่วน” ในต่างประเทศ มองว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาไม่ดี เฟดอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมากกว่าร้อยละ 0.25 ในการประชุมรอบดังกล่าวเช่นกัน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 35.15-35.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ปัจจัยทางการเมืองของไทย ตัวเลข PMI ภาคบริการเดือนก.ค. ของยูโรโซน และสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี ISM ภาคบริการเดือนก.ค. ของสหรัฐฯ. -511-สำนักข่าวไทย