นนทบุรี 2 ส.ค.-รัฐและเอกชน หวั่นแพลตฟอร์ม “Temu” จีนเข้ามาทำตลาดออนไลน์ไทย ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยช้อปด้วยราคาสินค้าถูกและโปรโมชั่นเพิ่มต่อเนื่อง แนะแพลตฟอร์มไทยต้องหาพันธมิตรร่วมช่องทางขยายในแพลตฟอร์มต่างชาติเพื่อขยายฐานลูกค้า ส่วนกลุ่ม SME ไทยภาครัฐต้องเป็นพี่เลี้ยงดันให้สินค้าไทยเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มต่างชาติ
นางสาวกุลธิรัตน์ ภควัชร์ไกรเลิศ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กล่าวยอมรับว่ากรณีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซน้องใหม่ Temu (เทมู) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งยอดนิยมในประเทศจีนที่ได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้วยราคาสินค้าที่ถูกและโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ทำให้หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงแพลตฟอร์มในไทยที่มีอยู่รวมถึงกลุ่ม SME ไทยที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านราคา และอาจต้องลดราคาสินค้าลงเพื่อแข่งขันไปด้วยนั้น
ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนไทยจะต้องปรับตัว แม้จะสู้ในเรื่องของราคาค่อนข้างลำบาก แต่คงต้องเร่งหาแนวทางที่จะเปิดลู่ทางหรือหาพันธมิตรกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่จะเร่งกระจายความเสี่ยง เพราะแพลตฟอร์มไทยที่มีอยู่จะต้องเชื่อมโยงขายสินค้าร่วมกับแพลตฟอร์มในตลาดต่างประเทศ เพราะหากเทียบแพลตฟอร์มไทยมีฐานลูกค้าอยู่เพียงไม่กี่สิบล้านคน แต่หากเป็นแพลตฟอร์มในต่างประเทศมีคนซื้อขายแต่ละวันมากนับเป็น 100 ล้านคนขึ้นไป ดังนั้น ทางรอดแพลตฟอร์มไทยต้องเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รวมถึงภาครัฐจะต้องเร่งส่งเสริมอย่างจริงจังที่จะนำสินค้าในกลุ่ม SME ไทยเข้าไปอยู่แพลตฟอร์มในต่างประเทศมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเพื่อขยายฐานลูกค้าไทยในต่างประเทศ ที่สำคัญต้องกำหนดทิศทางสินค้าที่จะนำไปแข่งขันในแพลตฟอร์มจะเน้นด้านราคาหรือคุณภาพ เพราะหากเน้นด้านราคาสินค้าไทยอาจจะแข่งขันลำบาก เพราะในแพลตฟอร์มต่างประเทศที่เข้ามาในไทยส่วนใหญ่เน้นราคาต่ำยิ่งช้อปราคายิ่งถูกลง ที่ภาคธุรกิจของไทยจะต้องปรับตัวหาจุดที่เหมาะสมและถึงเวลาที่กลุ่ม SMEไทยต้องปรับตัวขยายช่องทางการตลาดไปตลาดต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ พร้อมทำสินค้าที่มีคุณภาพสูงเพื่อแข่งขันกันต่อไป.-514-สำนักข่าวไทย