รอลุ้น กกพ.ประกาศรับซื้อ RE รอบใหม่ ไตรมาส 4/67

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – สำนักงาน กกพ.คาดเปิดรับซื้อไฟฟ้า โครงการพลังงานหมุนเวียน สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ระยะที่สอง 3,668.5 เมกะวัตต์ ตาม มติ กบง.ในไตรมาส4/67 ส่วน Direct PPA 2,000 เมกะวัตต์ คาดเริ่มประกาศเกณฑ์ซื้อปีหน้า


นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) กล่าวว่า หลังจาก คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมีรัฐมนตรีพลังงานเป็นประธาน วานนี้ (31 ก.ค.) เห็นชอบหลักเกณ์โครงการพลังงานหมุนเวียน สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ระยะที่สอง 3,668.5 เมกะวัตต์ โดยให้โควตาสำหรับผู้ยื่นคำเสนอที่ผ่านหลักเกณฑ์ในรอบแรกที่ไม่ได้รับการคัดเลือก ในส่วนพลังงานลมไม่เกิน 600 เมกะวัตต์ และแสงอาทิตย์ไม่เกิน 1,580 เมกะวัตต์ สำหรับโควตาส่วนที่เหลือราว 1,488.5 เมกะวัตต์ จะเปิดรับซื้อเป็นการทั่วไปนั้น ในส่วนนี้ ทางสำนักงาน กกพ.ก็จะนำมติไปดำเนินการ โดยการพิจารณาจะเป็นไปอย่างโปร่งใส เพราะมีคะแนนการคัดเลือกที่ดำเนินการในรอบแรกอย่างชัดเจน สามารถอธิบายต่อสังคมได้ โดยภาพรวมทั้งหมดและการเปิดรับซื้อจากรายใหม่ก็คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 4/67 โดยพลังงานหมุนเวียนจะประกอบไปด้วย ลม,แสงอาทิตย์ที่ไม่รวมแบตเตอรี่,ขยะภาคอุตสาหกรรมและไบโอก๊าซ

“แม้ว่าในขณะนี้ยังมีการฟ้องร้องสำหรับการรับซื้อพลังงานทดแทนรอบแรก 5,203 เมกะวัตต์ มีผู้ได้รับการคัดเลือก 175 ราย แต่การรับซื้อรอบ 2 ก็เดินหน้าต่อไปตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมพลังงานสะอาดและดึงดูดการลงทุนที่มีความต้องการพลังงานสะอาดมากขึ้น โดยรอบ 2 นี้ ทาง กกพ.ก็ได้ปลดล็อคให้ผู้ที่ยื่นฟ้องร้องต่อ กกพ.ก็จะได้รับการพิจารณาด้วยเช่นกัน โดยทุกอย่างจะเป็นไปอย่างโปร่งใส” นายพูลพัฒน์ กล่าว


ส่วนที่ ครม.เห็นชอบ โครงการการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) 2,000 เมกะวัตต์ เพื่อส่งเสริมการลงทุนของกลุ่มเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ดาต้าเซนเตอร์และอื่นๆ นั้น ในเรื่องนี้ กกพ.ก็กำลังรอมติ ครม.เพื่อที่จะได้ร่างระเบียบดำเนินการต่อไป โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 2568 ซึ่งเป็นโครงการนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรงผ่านการขอใช้บริการระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แก่บุคคลที่สาม (Third Party Access: TPA) โดยจะต้องมีการหารือกำหนดค่าบริการสายส่ง (วิลลิ่งชาร์จ) จาก 3 การไฟฟ้าด้วย โดยจะต้องพิจารณาให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”