2 ประเทศกระชับความสัมพันธ์ด้านการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์

นนทบุรี 26 ก.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์เดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ ร่วมมือทางการค้าและการลงทุนผ่านการควบคุมสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items: DUI) หวังเพิ่มการค้าและการลงทุนระหว่างกันทุกมิตรให้มากขึ้น


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และนายกอนซาโล สวอเรซ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประจำสำนักความมั่นคงปลอดภัยนานาชาติและการไม่แพร่ขยายอาวุธ โดยทราบว่าผู้แทนสหรัฐฯ มีความห่วงกังวลในเรื่องการควบคุมรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงที่จะถูกนำไปใช้เพื่อผลิตเป็นอาวุธที่คุกคามความมั่นคงปลอดภัยระหว่างประเทศโดยเฉพาะในรายการสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง (Common High Priority List: CHPL)

ทั้งนี้ ตนได้ให้ความมั่นใจกับสหรัฐฯ ในฐานะพันธมิตรสำคัญว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการดำเนินการควบคุมกิจกรรมการส่งออกที่จะไม่ไปเกี่ยวข้องกับการแพร่ขยาย WMD ตามข้อมติของนานาชาติ โดยเฉพาะมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1540 และจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ไทยเป็นประเทศทางผ่านสินค้าดังกล่าวตามกรอบของกฎหมาย อย่างไรก็ดี ในการกำหนดมาตรการ ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของไทยร่วมด้วย ซึ่งขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างดำเนินการใช้ระบบการออกใบอนุญาต (Licensing) และจะมีการทบทวนบัญชีรายการสินค้า DUI ให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าของไทยถูกส่งผ่านไปยังปลายทางที่มีความเสี่ยง โดยจะนำร่องด้วยสินค้ากลุ่มนิวเคลียร์ในระยะแรก คาดว่าจะเริ่มมีผลใช้บังคับกลางปี 2568


นอกจากนี้ ยังได้หยิบยกเรื่องที่ไทยให้ความสำคัญมากคือกรณีสหรัฐฯ เปิดไต่สวนและใช้มาตรการเยียวยาทางการค้า (AD และ CVD) กับประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทย ในสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจและการลงทุนจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ได้ย้ำว่าได้แจ้งความกังวลเรื่องที่มีการปนสินค้าขยะอันตราย (ขยะเทศบาล) มากับสินค้าประเภทอื่น จากสหรัฐฯ มายังไทย โดยขอให้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยควบคุมด้วย ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ยินดีประสานงานต่อไป

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า มาตรการทางการค้าและการลงทุนที่มีอยู่เดิมอาจไม่เพียงพอในโลกการค้าปัจจุบัน โดยเฉพาะประเด็นด้านความมั่นคงและสันติสุขของโลก มาตรการควบคุมสินค้า DUI ถือเป็นมาตรการใหม่ ในประเทศไทยที่ภาคเอกชนไทยควรให้ความสำคัญและตอบสนองด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าและเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความปลอดภัย ปราศจากการก่อการร้ายหรือการแพร่ขยาย WMD เป็นต้น .-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย