ธ.ออมสิน 25 ก.ค. – แบงก์ออมสินปล่อยกู้ซอล์ฟโลนให้แบงก์พาณิชย์-แบงก์รัฐ รวม 16 แห่ง นำปล่อยกู้เอสเอ็มอี คิดดอกเบี้ยต่ำ 3.5% ต่อปี ช่วง 2 ปีแรก หนุน SMEs เข้าถึงแหล่งทุน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเป็นประธาน และสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up สำหรับธนาคารพาณิชย์ และแบงก์รัฐ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้เติบโต สามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคได้อย่างเข้มแข็ง หลังจาก SMEs มีปัญหาไม่สามารถชำระหนี้เดิม มีปัญหากู้เงินก้อนใหม่เพื่อใช้หมุนเวียนไม่ได้ เมื่อออมสินให้สินเชื่อซอล์ฟโลนกับแบงก์ต่างๆ แทบไม่คิดดอกเบี้ย เพราะคิดเพียงร้อยละ 0.01 เท่านั้น วงเงิน 100,000 ล้านบาท เมื่อ SMEs ได้เงินทุนเพิ่ม พร้อมกับหลายมาตรการรัฐแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างจะทำให้เศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวได้ ขณะนี้มีผู้ประกอบการสนใจขอกู้ 7-8 หมื่นล้านบาท คิดว่าใช้เวลาไม่นานคงหมดตามวงเงินที่จัดสรรไว้
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินเข้าช่วยเหลือ SMEs ให้มีสภาพคล่อง ด้วยการปล่อยสินเชื่อวงเงิน 100,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยกับแบงก์ต่างๆ ร้อยละ 0.01 ต่อปี และปล่อยกู้ต่อให้เอสเอ็มอี คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 3.5% ต่อปี ในช่วง 2 ปีแรก หลังจากนั้นให้แก่สถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ และแบงก์รัฐ พิจารณาลูกค้าตามความเสี่ยง ในปีที่ 3 สำหรับลูกค้าเดิมหรือลูกค้าใหม่ที่ไม่ใช่การรีไฟแนนซ์ ปล่อยกู้สูงสุดต่อรายรวมทุกสถาบันการเงินไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อราย จึงอยากให้แบงก์ต่างๆ กำหนดเงื่อนไขให้ผ่อนปรนตามนโยบายรัฐ ใช้แนวทางแบงก์ใดยื่นขอวงเงินก่อนได้รับกู้ก่อนจนกว่าจะหมด 1 แสนล้านบาท
โดยโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up มีสถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการ รวม 16 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ธนาคารยูโอบี ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ธนาคารทิสโก้ และธนาคารไทยเครดิต ทั้งนี้ สามารถติดต่อยื่นขอสินเชื่อได้ที่สถาบันการเงิน ที่เข้าร่วมโครงการฯ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าจะครบวงเงิน. – 515-สำนักข่าวไทย