โออาร์ เปิดตัวร้าน found & found ร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงาม

กรุงเทพฯ 18 ก.ค.- โออาร์ เสริมความแข็งแกร่งด้านไลฟ์สไตล์ เปิดตัวร้าน found & found อย่างเป็นทางการ ก้าวสู่มิติใหม่ของ เฮลท์แอนด์บิวตี้รีเทล ใน พีทีที สเตชั่น และคอมมูนิตี้มอลล์ ด้วยคอนเสปต์ “SIMPLE. EASY. EVERYSKIN.” เอาใจคนรักสุขภาพและความงาม ตั้งเป้าเปิดครบ 10 สาขาในปีนี้

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พร้อมด้วย นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ OR และนายณัฐพล ชูจิตารมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออาร์ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส จำกัด หรือ ORHW ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ OR ร่วมเปิดตัว found & found ร้านค้าปลีกด้านสินค้าสุขภาพและความงาม ณ PTT Station บรมราชชนนี 97 อย่างเป็นทางการ ด้วยแนวคิด “SIMPLE. EASY. EVERYSKIN.” โดยได้รับเกียรติจาก นายจินตพันธุ์ ทังสุบุตร ประธานกรรมการ ORHW นายรวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการบริษัท ORHW พร้อมคณะผู้บริหาร OR และ ORHW รวมทั้งพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ นายคัทซึโนริ สุกิอุระ ผู้แทนประธานกรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สุกิ โฮลดิ้งส์ จำกัด และ นายคิงก้วย หวง กรรมการผู้บริหารสูงสุดและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท คอนวี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ เซย่า-ณิชฏา มิย่า-พิชชา โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ และวุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์มากมายร่วมฉลองเปิดร้านใหม่ ทั้งนี้ ร้าน found & found เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา ได้แก่ สาขา EnCo ณ ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคาร B และ สาขา พีทีที สเตชั่น สายไหม 56 ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี และเปิดให้บริการสาขาที่ 3 สาขา พีทีที สเตชั่น บรมราชชนนี 97 ในวันนี้ และมีแผนจะเปิดให้บริการครบ 10 สาขาภายในปี 2567 และขยายเป็น 500 สาขาภายในปี 2573


นายดิษทัต กล่าวว่า OR มุ่งมั่นสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านไลฟ์สไตล์ และขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ธุรกิจที่นอกเหนือจากน้ำมันให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลาย OR จึงมีกลยุทธ์ในการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพและความงาม ซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบกับเทรนด์ด้านสุขภาพและความงามกำลังเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น เพื่อเติมเต็มและสร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ของ OR โดย OR พร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ครบครันให้ลูกค้าได้เข้าถึงสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามได้อย่างสะดวกสบายผ่านช่องทางที่หลากหลายได้ทุกที่ ทุกเวลา

นายณัฐพล กล่าวว่า เพราะ found & found เชื่อว่าการดูแลตัวเองเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้ จึงเป็นที่มาของแนวคิด “SIMPLE. EASY. EVERYSKIN.” ที่ตั้งใจนำเสนอผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามจาก ไทย ญี่ปุ่น และเกาหลีที่ทันสมัย มีคุณภาพ ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ทุกเพศสภาพ และทุกวัยผ่านเครือข่ายของสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเองแบบใหม่ที่เรียบง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยสินค้าที่จัดจำหน่ายภายในร้านครอบคลุมถึงเครื่องสำอาง สกินแคร์ อาหารเสริม และวิตามิน เป็นต้น โดย ORHW ได้จับมือกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อนำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ ได้แก่ บริษัท SUGI Holdings หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจเครือข่ายร้านขายยาและผู้นำด้านแพลตฟอร์มนาโนเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดจากญี่ปุ่น นำเข้าแบรนด์คุณภาพที่เป็น Exclusives at found & found อาทิ Prieclat U, S-Select, Method, T3 เป็นต้น และบริษัท Konvy ที่เป็นผู้นำด้านบิวตี้อีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการบริหารจัดการสินค้าระบบ Supply Chain, ระบบคลังสินค้า และนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพจากแบรนด์ดัง อาทิ Skintific, COSRX, Anua, Mediheal เป็นต้น


ภายในงานยังมีการเสวนาพิเศษ โดย นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR และนายณัฐพล ชูจิตารมย์ กรรมการผู้จัดการ ORHW ร่วมพูดคุยทิศทางและเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ OR และ ORHW ในช่วง “Executive Talks: The Future of OR: Integrating Health & Wellness for Growth ต่อด้วยช่วง “Celebrity Secrets: Health and Beauty Skincare Routines” นำโดย เซย่า-ณิชฏา มิย่า-พิชชา โรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ ร่วมพูดคุยกับพิธีกรรับเชิญ ดาร์ลิ่ง อารดา – อารยวุฒิ เกี่ยวกับเคล็ดลับการดูแลตัวเองและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวอีกด้วย

found & found ได้จัดวางรูปแบบและสินค้าให้ลูกค้าสามารถค้นพบสินค้าที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถเข้าถึงการดูแลตัวเองง่าย ๆ ด้วยการจัดวางสินค้าตามการดูแลผิว 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การทำความสะอาดผิว Cleanse 2. การเตรียมผิว Prep 3. การบำรุงผิว Treat 4. การเติมผิวให้ชุ่มชื้น Moisturize และ 5. การป้องกันผิว Protect พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม (Beauty Advisor : BA) ให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละบุคคล นอกจากนี้ found & found ยังมีระบบ CRM ที่เชื่อมต่อกับระบบสมาชิก blueplus+ บนแอปพลิเคชั่น xplORe เพื่อมอบโปรโมชันและสิทธิพิเศษตามประวัติการซื้อ ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิก found & found และติดตามข่าวสาร สิทธิพิเศษ กิจกรรม และโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ทาง found & found LINE Official Account ทั้งนี้ found & found พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้บริโภค และมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านสุขภาพและความงามให้แก่คนไทยต่อไปในอนาคต.-517.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย