KKP ชี้เศรษฐกิจโลกยังโตต่อ แนะลงทุนเต็มอัตรา ควบคู่ลดความเสี่ยง

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – KKP ชี้เศรษฐกิจโลกยังโตต่อ จับตาการเมืองสหรัฐฯ แนะลงทุนเต็มอัตราควบคู่จำกัดความเสี่ยง ประเมินธีม AI ยังไปต่อได้อีกระยะ ลงทุนต่างประเทศแบบเปิดรับความเสี่ยงค่าเงิน

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มโตต่อได้แม้ไม่ร้อนแรงเท่าปีที่แล้ว และการเติบโตยังขยายวงกว้างมากขึ้น นำโดยสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่งพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังน่าจะทยอยลดลงได้อีก ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจเรื่องอัตราเงินเฟ้อให้กับ FED โดย KKP ยังคงคาดว่า FED จะลดดอกเบี้ยได้ 1-2 ครั้งในครึ่งหลังปี 2567 นี้ ขณะที่ยุโรปสามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นแม้จะไม่สดใสเท่าสหรัฐฯ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงได้เช่นกัน นอกจากนี้ ในฝั่งประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ไม่รวมประเทศจีน (Emerging Markets ex China) ก็มีแนวโน้มที่เติบโตได้ดี ถึงมีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อที่อาจลงช้ากว่าคาด แต่น่าจะลดลงได้
 
ขณะที่ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยลดลง แต่ประเด็นที่ต้องจับตาใกล้ชิดในช่วงครึ่งปีหลังคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำมาซึ่งความไม่แน่นอนทั้งในแง่ของนโยบายของประเทศเศรษฐกิจหลัก และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในมิติของนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ที่จีนจะได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเศรษฐกิจจีนยังได้รับผลกระทบจากปัญหาภายในที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าภาคอสังหาฯ ที่ซบเซา ความเชื่อมั่นในการบริโภคที่ยังไม่ฟื้น และการขาดมาตรการกระตุ้น เมื่อประกอบกับความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แนวโน้มตลาดหุ้นจีนจึงยังไม่น่าสนใจ
 
แนะลงทุนเต็มอัตราควบคู่จำกัดความเสี่ยง (Grow-Protect)
นายทวีศักดิ์ เผ่าพัลลภ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล.เกียรตินาคินภัทร ให้มุมมองว่าการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกยังไปต่อได้ แต่ด้วยความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เพิ่มขึ้นและคาดเดาได้ยาก บล.เกียรตินาคินภัทรจึงแนะนำว่านักลงทุนควรจัดสรรการลงทุนอย่างรอบคอบ เน้นหุ้นคุณภาพสูง และการกระจายการลงทุนในพอร์ต โดยมีการลงทุนทั้งแบบเชิงรุก (Grow) และแบบจำกัดความเสี่ยง (Protect) ควบคู่กัน
 
สำหรับการลงทุนเชิงรุก (Grow) หุ้นที่น่าสนใจคือ หุ้นกลุ่มที่มีการเปลี่ยนแปลงตามวัฏจักรเศรษฐกิจ(Cyclical growth) ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ไม่รวมประเทศจีน (Emerging Markets ex China) เนื่องจากวงจรเศรษฐกิจเอื้ออำนวยและโมเมนตัมกำไรแข็งแกร่ง และกลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials) เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมและคุณภาพสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนกลุ่มที่เหมาะกับการลงทุนในระยะยาวคือ หุ้นอินเดีย และกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวโยงกับห่วงโซ่อุปทานของ AI (AI Value Chain) นอกเหนือจากเซมิคอนดักเตอร์เนื่องจากการลงทุนด้าน AI ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อ
 
ส่วนการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Protect) แนะนำลงทุนในตราสารหนี้โลกคุณภาพดีเพราะให้ผลตอบแทน (yield) สูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ แต่จำกัดความเสี่ยงจากความผันผวนของ yield โดยเน้นการลงทุนที่อายุ 3-5 ปี นอกจากนั้น เนื่องจากความเสี่ยงยังไม่ถูกสะท้อนอยู่ในราคาหุ้นในตลาดทั้งหมด จึงควรลงทุนในอนุพันธ์ที่ป้องกันเงินต้น แต่ยังเปิดช่องให้รับUpside อาทิ Principal Protected Note on S&P 500 Index หรือ Principal Protected Note on Dollar Index
 
สำหรับการลงทุนแบบผสมผสาน (Grow/Protect)แนะนำการจัดสรรพอร์ตแบบ Prudent Asset Allocation และลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะทนทานที่สุดในกรณีที่มีสงครามการค้า นอกจากนั้น ธุรกิจที่มีลักษณะตั้งรับในตัวอย่างธุรกิจสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน ก็น่าสนใจ เพราะมีความทนทานต่อผลกระทบในทางลบ แต่ยังสามารถได้ประโยชน์จากพัฒนาการของ AI เช่นความต้องการใช้พลังงานที่มากขึ้นจาก data center
 
การลงทุนในหุ้นกลุ่ม AI  ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อได้อีก เนื่องจากการลงทุนพัฒนายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังมีศักยภาพรอนำไปใช้ โดยจะได้เห็นการขยายการใช้งานไปยังกลางน้ำ-ปลายน้ำของห่วงโซ่อุปทานของ AI (AI Value Chain) ด้านการประเมินมูลค่าหุ้นไม่ถือว่าราคาถูกแต่ยังไม่แพงจนถึงระดับฟองสบู่
 
สำหรับการลงทุนต่างประเทศ ความผันผวนของ Forex (Foreign Exchange) สูงในระยะสั้นแต่ระยะยาวไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อผลตอบแทน ประกอบกับต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (hedging cost) ที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการลงทุนต่างประเทศโดยเป็นแบบเปิดรับความเสี่ยงค่าเงิน (unhedged) จึงน่าจะทำให้ได้ผลตอบแทนในระดับสูงในต่างประเทศอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย บล.เกียรตินาคินภัทรคาดว่า hedging cost USD/THB จะมีแนวโน้มแพงไปอย่างน้อยอีก 2-3 ปี เนื่องจากปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยที่ด้อยลงและเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ค่อนข้างแข็งแกร่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเทียบกับสหรัฐฯน่าจะอยู่ในช่วง 2-3%
 
ทั้งนี้ แนะนำลงทุนในกองทุนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ Grow and Protect ได้แก่ Mandate Service ของ KKP หรือกองทุน KKP-SGAA* กองทุน TUSFIN-A และกองทุน KKP EMXCN-UH*.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]