“ไทยออยล์” สานต่อเฟส2 ติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ รพ.เกาะสีชัง

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.- “ไทยออยล์” สานต่อโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (ระยะที่ 2) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 52.70 กิโลวัตต์ ให้กับโรงพยาบาลเกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี แก้ปัญหาภาระค่าไฟฟ้า สร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าช่วยสนับสนุนการขยายงานบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนบนเกาะสีชังให้ดียิ่งขึ้น


นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ส่งมอบระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับทันตแพทย์หญิงอานะสิทธิ์ ศัลยพงษ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเกาะสีชัง โดยมี คุณธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี  คณะผู้บริหารของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบ ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 4 โรงพยาบาลเกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการติดตั้งระบบ และมอบถุงเติมรัก ปันสุข เพื่อสนับสนุนงานบริการทางการแพทย์ให้แก่ประชาชาชนที่มารับบริการด้านสาธารณสุขอีกด้วย

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยออยล์ดำเนินโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโรงพยาบาลและโรงเรียน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์องค์กร “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงาน และเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน” มาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน จำนวนทั้งสิ้น 12 แห่ง ในจังหวัดชลบุรี นครศรีธรรมราช แม่ฮ่องสอน และตาก รวมกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 276 กิโลวัตต์ สร้างผลประหยัดให้กับโรงพยาบาลและโรงเรียน คิดเป็นมูลค่ารวม 2.44 ล้านบาทต่อปี และยังต่อยอดสู่การสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนและสังคม เช่น โครงการธนาคารอุปกรณ์ทางการแพทย์และศูนย์ซ่อมบำรุงดัดแปลงอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการโรงพยาบาลแหลมฉบัง จัดจ้างบุคลากรและเจ้าหน้าที่สนับสนุนงานของโรงพยาบาลเกาะสีชัง เพิ่มขีดความสามารถงานบริการทางการแพทย์ ให้กับผู้ป่วยยาเสพติดของโรงพยาบาลธัญญารักษ์ ตลอดจนสร้างเสถียรภาพของพลังงานไฟฟ้าและสามารถเก็บรักษาวัคซีนเซรุ่ม ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่า 295 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี


default

สำหรับการดำเนินงานให้กับโรงพยาบาลเกาะสีชังนั้น ในปี พ.ศ. 2561 ไทยออยล์ ได้เคยส่งมอบโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 53.46 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการฯ ที่ไทยออยล์ กับ บริษัท จีพีเอสซี จำกัด (มหาชน) ดำเนินการร่วมกัน สำหรับโครงการฯ ระยะที่ 2 ในครั้งนี้ โรงพยาบาลเกาะสีชังได้ประสานมายังไทยออยล์โดยตรงเมื่อปี พ.ศ.2566 เพื่อขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติม ไทยออยล์จึงได้เข้าสำรวจ ออกแบบ และติดตั้ง ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 52.70 กิโลวัตต์ เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 300,624 บาทต่อปี และลดก๊าซเรือนกระจกได้ 32.15 ตันต่อปี โดยไทยออยล์ดำเนินการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รวมกำลังการผลิตติดตั้งทั้งสองระยะมีกำลังผลิตอยู่ที่ 106.16 กิโลวัตต์ คุณบัณฑิต กล่าวเสริม

ทันตแพทย์หญิงอานะสิทธิ์ ศัลยพงษ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเกาะสีชัง กล่าวขอบคุณ ไทยออยล์ ที่สนับสนุนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กับโรงพยาบาลฯ โดยที่ผ่านมา “โรงพยาบาลเกาะสีชัง ประสบปัญหาภาระค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นในแต่ละเดือน เนื่องจากมีการขยายงานบริการทางการแพทย์และปรับปรุงอาคารเพิ่มขึ้น อีกทั้งบนเกาะยังประสบปัญหาไฟฟ้าตกและดับบ่อย โรงพยาบาลฯ จึงขอความช่วยเหลือมายังไทยออยล์อีกครั้ง”

การดำเนินโครงการดังกล่าว ถือเป็นการเสริมสร้างศักยภาพ ในการดำเนินงานด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลฯ รวมทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านกระแสไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลฯ โดยจะนำผลประหยัดค่ากระแสไฟฟ้าในปีแรกไปต่อยอด “โครงการลดเสี่ยง ลดโรค ห่างไกลโรคหลอดเลือดสมอง” ด้วยการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อช่วยบรรเทาอาการผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนนำส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัด และช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของคนไข้ ที่มีอาการมาจากโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) หรือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ซึ่งส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย การทำงานของสมองหยุดชะงัก ความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง จากนั้นผลประหยัดในปีถัดไป จะนำไปจัดทำ “โครงการพัฒนาระบบงานสุขภาพกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อ (NCDs :Noncommunicable diseases) และกลุ่มเสี่ยง รวมถึงจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่จำเป็นต่องานบริการทางการแพทย์ต่อไป” ทันตแพทย์หญิงอานะสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติม


ก่อนหน้านี้ ไทยออยล์ได้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (ระยะที่ 1) ให้กับโรงพยาบาลเกาะสีชัง ไปเมื่อปี 2562 โดยร่วมมือกับ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ดำเนินโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 53.46 กิโลวัตต์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากผลประหยัดค่าไฟฟ้าราว 300,000 บาทต่อปี โดยโรงพยาบาลสามารถนำไปใช้ปรับปรุงงานบริการ จัดจ้างบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยงาน จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ชำรุด และนำมาใช้ในโครงการป้องกันโรคส่งเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูให้กับประชาชนเกาะสีชัง รวมทั้งช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับโรงพยาบาลฯ

การต่อยอดความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลเกาะสีชังไปสู่สังคมและชุมชน ถือเป็นแนวทางที่สอดคล้องเจตนารมย์ของไทยออยล์ ในการดำเนินโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้แนวคิด “Sustainable Energy for Healthcare & Education” ด้วยการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับหน่วยงานสาธารณสุขและสถานศึกษา เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านกระแสไฟ และยังเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์และรักษาประชาชนให้กับโรงพยาบาล ตลอดจนเสริมสร้างประสิทธิภาพการเรียนการสอนของครูและนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล รวมทั้งสร้างโอกาสให้กับหน่วยงานสาธารณสุข และสถานศึกษาเข้าถึงการใช้พลังงานทางเลือก ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งถือเป็นการนำองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรไทยออยล์ในเชิงวิศวกรรม มาสร้างและทำประโยชน์เพื่อตอบแทนสังคม . 511 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]