ศาล รธน.วินิจฉัย พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.- ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัย พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ สะท้อนการใช้อำนาจตามกฎหมายภายใต้การดูแลของ ก.ล.ต. มั่นใจกระบวนการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ


ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า บทสันนิษฐานว่าเป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในตามมาตรา 243 และมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) และการนำอายุความฟ้องคดีอาญามาใช้บังคับกับฟ้องคดีแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/13 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา 29 วรรคสอง

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ได้ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการสนับสนุนว่า ก.ล.ต. มีอำนาจตามกฎหมายและสามารถนำบทบัญญัติตามกฎหมายดังกล่าวมาบังคับใช้กับผู้กระทำผิดได้ ทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ทั้งการดำเนินการทางอาญาและการดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง ขอให้มั่นใจว่า ก.ล.ต. ได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างรอบคอบและเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้อง


ทั้งนี้ ที่ผ่านมา (1 ม.ค.60-30 มิ.ย.67) ก.ล.ต. ได้ดำเนินคดีอาญา โดยกล่าวโทษผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน รวม 156 คดี มีผู้ถูกกล่าวโทษ 558 ราย และดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิด รวม 62 คดี จำนวนผู้กระทำผิด 246 ราย โดยผู้กระทำผิดตกลงทำบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) กำหนด แบ่งเป็นค่าปรับทางแพ่ง จำนวน 1,567.70 ล้านบาท และชดใช้เงินเท่าผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด จำนวน 194.32 ล้านบาท ซึ่ง ก.ล.ต. นำส่งกระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. มีอำนาจฟ้องบุคคลนั้นต่อศาลแพ่ง ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาล 18 คดี ในฐานความผิด เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน และการสร้างราคาหลักทรัพย์ โดยมี 5 คดีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และอีก 5 คดีที่ศาลชั้นต้นได้พิพากษาแล้ว (ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์) ซึ่งทั้ง 10 คดีศาลได้พิพากษาให้ ก.ล.ต. ชนะคดี โดยลงโทษและกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งแก่จำเลยในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ อีก 8 คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร