สินค้าเกษตร ผลไม้ ราคายังดีต่อเนื่อง ขณะเนื้อหมูลดลง

นนทบุรี 5 ก.ค. – กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในสัปดาห์นี้ พืชเศรษฐกิจหลัก ราคายังทรงตัวสูง ทั้งข้าว และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงผลผลิตผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาดขณะนี้ ราคาเฉลี่ยถือว่าสูงกว่าปีที่แล้ว และคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีก


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาดตอนนี้อย่าง ทุเรียน ออกเกิน 40% แล้ว โดยราคาถือว่าดีกว่าปีที่แล้วมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 167.50 บาทต่อกิโลกรัม สูงสุดที่ 175 บาท จากปีที่แล้วเฉลี่ยเพียง 120 บาทต่อกิโลกรัม และยังเชื่อว่ามีโอกาสปรับขึ้นไปที่กิโลกรัมละ 180-200 บาทได้เร็วนี้ เนื่องจากปริมาณผลผลิตเหลือน้อยแล้ว รวมทั้งความต้องการของตลาดทุเรียนไทยยังอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งหากใครชอบทานทุเรียน ต้องรีบหาซื้อทาน เช่นเดียวกับทุเรียนเกรดตกไซต์ เฉลี่ย 107-108 บาท สูงกว่าปีที่แล้ว ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 96 บาท

ส่วนมังคุด เกรดส่งออก อยู่ที่กิโลกรัมละ 97.75 บาท สูงกับปีที่ผ่านมาที่กิโลกรัมละ 73 บาท เกรดคละ อยู่ที่กิโลกรัมละ 65 บาท แต่ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยเพียงกิโลกรัมละ 34 บาทเท่านั้น ขณะที่ผลไม้ชนิดอื่น ๆ เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ราคาเฉลี่ยปีนี้กิโลกรัมละ 60 บาท สูงกว่าปีที่แล้วที่ 50 บาท สับปะรดภูแล ปีนี้ทำสถิติราคาสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 10 บาท จากปีก่อนที่สูงสุดเช่นกัน เฉลี่ย 8.98 บาท และลิ้นจี่ กิโลกรัมละ 33.55 บาท จากที่แล้วเฉลี่ยเพียงกิโลกรัมละ 27 บาท


อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นไปตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้ล่วงหน้า ปี 2567 ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้ง 6 มาตรการ 25 แผนงาน ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยเฉพาะบริหารจัดการส่งออกให้คล่องตัว เบื้องต้นประสานเตรียมตู้คอนเทนเนอร์ไว้เพียงพอเพื่อขนส่งทางเรือไว้รองรับกรณีติดขัดในเส้นทางขนส่งทางบก และขณะนี้ได้จัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้อย่างต่อเนื่อง ในงาน “Thai Fruit Festival 2024 by MOC” ระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2567 ที่ลานฟรี เซ็นทรัลเวิลด์ รณรงค์ให้บริโภคผลไม้ไทยให้ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ชิม ช้อปผลไม้สดส่งตรงจากสวนเกษตรกร

ส่วนราคาพืชเกษตรสำคัญในสัปดาห์นี้ยังทรงตัวสูง โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ เฉลี่ยตันละ 15,750 บาทสูงสุดที่ 16,500 บาท ถือว่าสูงกว่าปีที่แล้วที่ 14,433 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่เฉลี่ยตันละ 15,550 บาทสูงสุด 16,300 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี เฉลี่ยตันละ 15,300 บาท สูงสุดที่ตันละ 16,200 บาท จากราคาเฉลี่ยปีที่แล้วเพียง 11,250 บาท รวมทั้งราคาข้าวเปลือกเจ้า ทรงตัวสูงที่ราคาตันละ 11,700 บาท สูงสุด 12,400 บาท จากปีที่แล้วเฉลี่ยเพียง 10,556 บาท และข้าวเปลือกเหนียว เฉลี่ยตันละ 13,900 บาท สูงสุด 14,300 บาท จากปีที่แล้วเฉลี่ย 12,897 บาท มันสำปะหลัง ทรงตัว ที่กิโลกรัมละ 3.08 บาท สูงสุดที่ 3.25 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปรับตัวสูงขึ้น เฉลี่ยกิโลกรัมละ 12.10 บาท เนื่องจากหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวไปแล้ว จากสัปดาห์ก่อนเฉลี่ยที่ 11.57 บาท

ส่วนผลปาล์มน้ำมัน สัปดาห์นี้ ทรงตัวที่กิโลกรัมละ 5.05 บาท สูงสุดที่ 5.30 บาท เป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ รวมทั้งเน้นย้ำให้เกษตรกร ให้เก็บเกี่ยวผลปาล์มสุกเต็มที่ รวมทั้งกำชับลานเท ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ทำลูกร่วงแบบผิดธรรมชาติ ซึ่งได้จากสายตรวจออกคุมเข้มในพื้นที่เพาะปลูกต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ดำเนินคดีกับลานเทไปแล้ว 4 ราย ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบ เฉลี่ยที่ กิโลกรัมละ 33.25 บาท และน้ำมันปาล์มขวดเฉลี่ยทั่วประเทศ 44.89 บาท


ขณะที่ราคาหมูเนื้อแดง ยังคงลดลง สัปดาห์นี้เฉลี่ย 129.25 บาทต่อกิโลกรัม ปรับลดจากเดือนที่แล้ว ที่เฉลี่ย 132.31 บาท โดยเรื่องนี้กรมการค้าภายในได้กำกับดูแลใกล้ชิดโดยเฉพาะห้าง ให้มีการซื้อและจำหน่ายเนื้อหมู ในราคาที่ไม่กระทบกับเกษตรกรและผู้บริโภค และอยากรณรงค์ให้ประชาชนบริโภคหมูให้มากขึ้น ราคาเนื้อไก่ ก็เริ่มปรับลดลงแล้ว โดยเนื้อน่องติดสะโพก เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.94 บาท จากเดือนที่แล้วเฉลี่ย 82.96 บาท เนื้อส่วนสะโพก เฉลี่ยกิโลกรัมละ 86.19 บาท จากเดือนที่แล้ว 86.81 บาท และเนื้อหน้าอก เฉลี่ย 82.75 บาท จากเดือนที่แล้ว 84.14 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.28 บาท กุ้งขาว ทรงตัว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 186 บาท

ส่วนราคาผักปรับลดลงแล้วทุกชนิด ผักคะน้า สัปดาห์นี้เฉลี่ย 33.50 บาท ลดลงจากเดือนที่แล้ว ที่กิโลกรัมละ 35.24 บาท ถั่วฝักยาวเฉลี่ยกิโลกรัมละ 53 บาท จากเดือนที่แล้ว 55.37 บาท กะหล่ำปลีทรงตัวเฉลี่ยกิโลกรัมละ 34 บาท กวางตุ้งเฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.30 บาท จากเดือนที่แล้ว 35 บาท ต้นหอมเฉลี่ยกิโลกรัมละ 101 บาท จากเดือนที่แล้วเฉลี่ย 110.55 บาท ผักชีเฉลี่ยกิโลกรัมละ 109.40 บาท จากเดือนที่แล้ว 128.92 บาท พริกขี้หนูแดงจินดา เฉลี่ยกิโลกรัมละ 76.50 บาท จากเดือนที่แล้วเฉลี่ย 81.29 บาท เป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย