สินค้าเกษตร ผลไม้ ราคายังดีต่อเนื่อง ขณะเนื้อหมูลดลง

นนทบุรี 5 ก.ค. – กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในสัปดาห์นี้ พืชเศรษฐกิจหลัก ราคายังทรงตัวสูง ทั้งข้าว และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงผลผลิตผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาดขณะนี้ ราคาเฉลี่ยถือว่าสูงกว่าปีที่แล้ว และคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอีก


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาดตอนนี้อย่าง ทุเรียน ออกเกิน 40% แล้ว โดยราคาถือว่าดีกว่าปีที่แล้วมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 167.50 บาทต่อกิโลกรัม สูงสุดที่ 175 บาท จากปีที่แล้วเฉลี่ยเพียง 120 บาทต่อกิโลกรัม และยังเชื่อว่ามีโอกาสปรับขึ้นไปที่กิโลกรัมละ 180-200 บาทได้เร็วนี้ เนื่องจากปริมาณผลผลิตเหลือน้อยแล้ว รวมทั้งความต้องการของตลาดทุเรียนไทยยังอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งหากใครชอบทานทุเรียน ต้องรีบหาซื้อทาน เช่นเดียวกับทุเรียนเกรดตกไซต์ เฉลี่ย 107-108 บาท สูงกว่าปีที่แล้ว ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 96 บาท

ส่วนมังคุด เกรดส่งออก อยู่ที่กิโลกรัมละ 97.75 บาท สูงกับปีที่ผ่านมาที่กิโลกรัมละ 73 บาท เกรดคละ อยู่ที่กิโลกรัมละ 65 บาท แต่ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยเพียงกิโลกรัมละ 34 บาทเท่านั้น ขณะที่ผลไม้ชนิดอื่น ๆ เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ราคาเฉลี่ยปีนี้กิโลกรัมละ 60 บาท สูงกว่าปีที่แล้วที่ 50 บาท สับปะรดภูแล ปีนี้ทำสถิติราคาสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 10 บาท จากปีก่อนที่สูงสุดเช่นกัน เฉลี่ย 8.98 บาท และลิ้นจี่ กิโลกรัมละ 33.55 บาท จากที่แล้วเฉลี่ยเพียงกิโลกรัมละ 27 บาท


อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นไปตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้ล่วงหน้า ปี 2567 ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้ง 6 มาตรการ 25 แผนงาน ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยเฉพาะบริหารจัดการส่งออกให้คล่องตัว เบื้องต้นประสานเตรียมตู้คอนเทนเนอร์ไว้เพียงพอเพื่อขนส่งทางเรือไว้รองรับกรณีติดขัดในเส้นทางขนส่งทางบก และขณะนี้ได้จัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้อย่างต่อเนื่อง ในงาน “Thai Fruit Festival 2024 by MOC” ระหว่างวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2567 ที่ลานฟรี เซ็นทรัลเวิลด์ รณรงค์ให้บริโภคผลไม้ไทยให้ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ชิม ช้อปผลไม้สดส่งตรงจากสวนเกษตรกร

ส่วนราคาพืชเกษตรสำคัญในสัปดาห์นี้ยังทรงตัวสูง โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ เฉลี่ยตันละ 15,750 บาทสูงสุดที่ 16,500 บาท ถือว่าสูงกว่าปีที่แล้วที่ 14,433 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่เฉลี่ยตันละ 15,550 บาทสูงสุด 16,300 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี เฉลี่ยตันละ 15,300 บาท สูงสุดที่ตันละ 16,200 บาท จากราคาเฉลี่ยปีที่แล้วเพียง 11,250 บาท รวมทั้งราคาข้าวเปลือกเจ้า ทรงตัวสูงที่ราคาตันละ 11,700 บาท สูงสุด 12,400 บาท จากปีที่แล้วเฉลี่ยเพียง 10,556 บาท และข้าวเปลือกเหนียว เฉลี่ยตันละ 13,900 บาท สูงสุด 14,300 บาท จากปีที่แล้วเฉลี่ย 12,897 บาท มันสำปะหลัง ทรงตัว ที่กิโลกรัมละ 3.08 บาท สูงสุดที่ 3.25 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปรับตัวสูงขึ้น เฉลี่ยกิโลกรัมละ 12.10 บาท เนื่องจากหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวไปแล้ว จากสัปดาห์ก่อนเฉลี่ยที่ 11.57 บาท

ส่วนผลปาล์มน้ำมัน สัปดาห์นี้ ทรงตัวที่กิโลกรัมละ 5.05 บาท สูงสุดที่ 5.30 บาท เป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ รวมทั้งเน้นย้ำให้เกษตรกร ให้เก็บเกี่ยวผลปาล์มสุกเต็มที่ รวมทั้งกำชับลานเท ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ทำลูกร่วงแบบผิดธรรมชาติ ซึ่งได้จากสายตรวจออกคุมเข้มในพื้นที่เพาะปลูกต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ดำเนินคดีกับลานเทไปแล้ว 4 ราย ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบ เฉลี่ยที่ กิโลกรัมละ 33.25 บาท และน้ำมันปาล์มขวดเฉลี่ยทั่วประเทศ 44.89 บาท


ขณะที่ราคาหมูเนื้อแดง ยังคงลดลง สัปดาห์นี้เฉลี่ย 129.25 บาทต่อกิโลกรัม ปรับลดจากเดือนที่แล้ว ที่เฉลี่ย 132.31 บาท โดยเรื่องนี้กรมการค้าภายในได้กำกับดูแลใกล้ชิดโดยเฉพาะห้าง ให้มีการซื้อและจำหน่ายเนื้อหมู ในราคาที่ไม่กระทบกับเกษตรกรและผู้บริโภค และอยากรณรงค์ให้ประชาชนบริโภคหมูให้มากขึ้น ราคาเนื้อไก่ ก็เริ่มปรับลดลงแล้ว โดยเนื้อน่องติดสะโพก เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.94 บาท จากเดือนที่แล้วเฉลี่ย 82.96 บาท เนื้อส่วนสะโพก เฉลี่ยกิโลกรัมละ 86.19 บาท จากเดือนที่แล้ว 86.81 บาท และเนื้อหน้าอก เฉลี่ย 82.75 บาท จากเดือนที่แล้ว 84.14 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.28 บาท กุ้งขาว ทรงตัว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 186 บาท

ส่วนราคาผักปรับลดลงแล้วทุกชนิด ผักคะน้า สัปดาห์นี้เฉลี่ย 33.50 บาท ลดลงจากเดือนที่แล้ว ที่กิโลกรัมละ 35.24 บาท ถั่วฝักยาวเฉลี่ยกิโลกรัมละ 53 บาท จากเดือนที่แล้ว 55.37 บาท กะหล่ำปลีทรงตัวเฉลี่ยกิโลกรัมละ 34 บาท กวางตุ้งเฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.30 บาท จากเดือนที่แล้ว 35 บาท ต้นหอมเฉลี่ยกิโลกรัมละ 101 บาท จากเดือนที่แล้วเฉลี่ย 110.55 บาท ผักชีเฉลี่ยกิโลกรัมละ 109.40 บาท จากเดือนที่แล้ว 128.92 บาท พริกขี้หนูแดงจินดา เฉลี่ยกิโลกรัมละ 76.50 บาท จากเดือนที่แล้วเฉลี่ย 81.29 บาท เป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ล่าหนุ่มโมร็อกโก ฆ่าโหดหมอแซมมี่ เผ่นหนีฮ่องกง

ตำรวจประสานตำรวจสากล เร่งล่าตัวแฟนหนุ่มชาวโมร็อกโก ผู้ต้องสงสัยฆ่าโหดหมอแซมมี่ แพทย์ความงามสาวสอง เจ้าของคลินิกเวชกรรมชื่อดังเชียงใหม่ พบเผ่นหนีไปฮ่องกงแล้ว

ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชวนลงทุนซิม-ตู้เติมเงิน

ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชักชวนลงทุนซิมและตู้เติมเงิน อ้างสิทธิ กสทช. พบมีผู้เสียหาย 5,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท

รถตู้กลับจากแข่งเรือเสียหลักชนต้นไม้ ดับ 4 เจ็บ 9

สลด! รถตู้กลับจากแข่งเรือยาวที่ จ.ปทุมธานี เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ บนถนนสายลำปาง-งาว จ.ลำปาง เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย

ตั้ง กก.สอบ 7 ตำรวจ บก.จร.ทำร้ายลูกชายอดีต ตร. พ่อยันเอาเรื่องถึงที่สุด

กองบังคับการตำรวจจราจร ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง 7 ตำรวจ บก.จร. รุมทำร้ายลูกชายอดีตตำรวจ พ่อและน้องสาวยืนยันไม่ยอมความ เอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย

ครอบครัวผู้เสียหายที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เผยอาการยังสาหัส ยันไม่ยอมความ แม้มีกระเช้าปริศนามาให้แล้ว 3 กระเช้า พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผยพฤติกรรมตัวเอง ด้าน รอง ผบช.น. ยันตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำไป

ครอบครัวของผู้บาดเจ็บที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนของ สน.บางเขน ก่อนเดินไปชี้จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่าน และเป็นจุดเดียวกับที่ตำรวจพาผู้บาดเจ็บเข้ามาจอดรถไว้หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เพื่อตรวจสอบว่ารถของผู้บาดเจ็บเป็นรถคันเดียวกับที่ได้ขับแหกด่านหรือไม่ โดยก่อนการชี้จุด พ่อและน้องสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บเดินทางมาพร้อมกับร้อยเวร สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เจ้าของพื้นที่ เพื่อชี้จุดและให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม ระหว่างรอตัวผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวจนสามารถเข้าให้การกับตำรวจได้

นางสาวธนัชตา น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า พี่ชายยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จุดที่น่าเป็นห่วงคือบริเวณศีรษะทั้งหมด โดยเฉพาะดวงตาขวามีเลือดออก การมองเห็นยังไม่ปกติ ส่วนตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีส่วนใดต้องผ่าตัด

เหตุการณ์ครั้งนี้รู้สึกรับไม่ได้ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเข้าข้อกฎหมายข้อไหนพร้อมจะต่อสู้ มองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะพี่ชายของตนไปคนเดียวและไม่มีอาวุธ แต่คู่กรณีเป็นถึงตำรวจ และมีด้วยกันถึง 7 นาย ทันทีที่รู้เรื่องตนเองรีบเดินทางมาที่ด่านทันที พยายามสอบถามว่าตำรวจนายไหนเป็นคนทำพี่ชายของตนเอง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งพี่ชายพยายามบอกแล้วว่าไม่ใช่คนขับรถหนีด่าน

นางสาวธนัชตา ยังฝากถึงตำรวจตั้งด่านทุกนายว่าทุกคนมีกล้องติดหน้าอก ตนเองพยายามขอดูแต่มีการอ้างว่ากล้องเสียบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง จึงอยากฝากไปถึงตำรวจตั้งด่านในวันนั้นทุกนายให้เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย เพื่อเป็นการยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะเหตุการณ์วันนั้นตนเองก็มีหลักฐาน รวมถึงพยานคือคนที่เข้าด่านตรวจก็เห็นทุกคนว่าเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น อยู่ที่ตำรวจจะกล้าหรือไม่กล้า

น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกอีกว่าเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) มีกระเช้าผลไม้-ดอกไม้ปริศนา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร หรือของตำรวจสังกัดใดบ้างนำมาเยี่ยม ขอย้ำว่าไม่ขอรับกระเช้า เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่านำเอามาให้ด้วยเหตุผลอะไรแอบแฝง

ด้าน พันตำรวจโท ธนชัย เกิดศรี หรือสารวัตรเจี๊ยบ อดีตพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ซึ่งเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรมาก่อนไปอยู่ บก.ปทส. ตามปกติแล้วตำรวจมีขั้นตอนในการใช้ยุทธวิธีเพื่อจับผู้ต้องหาด้วยเครื่องพัฒนาการอยู่แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุแบบนี้ กรณีหากผู้ต้องหามีการต่อสู้หรือขัดขวาง ตำรวจไม่มีสิทธิที่จะไปรุมทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งจะพยายามเลี่ยงการใช้กำลังให้น้อยที่สุด การจับกุมตำรวจต้องมีการแสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าทำอะไรผิด จากนั้นจะเชิญตัวมาที่ด่านหรือโรงพักในพื้นที่ เพื่อดำเนินการสอบปากคำและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ เพราะมีโซเชียลเป็นหูเป็นตา ยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แม้ว่าจะให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงลงมาพูดคุยก็ตาม เมื่อวานนี้ทางพยาบาลแจ้งว่ามีตำรวจนำกระเช้ามามอบให้แล้ว 3 กระเช้า แต่ตนไม่รับ เพราะไม่รู้ว่ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไร และไม่รู้ว่าเป็นของหน่วยงานใด เนื่องจากพยาบาลแจ้งแค่ว่าเป็นตำรวจเท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอก อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำน้องสาวและแม่ของผู้บาดเจ็บในฐานะพยาน ส่วนผู้บาดเจ็บตอนนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำ เนื่องจากยังอยู่ในอาการสาหัส

ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุทั้ง 7 นายที่เป็นตำรวจ ตอนนี้ยังไม่มีการสอบปากคำ เนื่องจากพนักงานสอบสวนอยากทราบพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุจากผู้เสียหายก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือแม้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจก็ตาม

ด้าน พลตำรวจตรี ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งดูแลรับผิดชอบงานจราจร ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เบื้องต้นผู้บังคับการตำรวจจราจรกลาง รายงานมาเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นตำรวจทั้ง 7 นาย บอกว่ามีการเข้าใจผิด คิดว่าจะขับรถแหกด่านจึงมีการตามไป ก่อนที่ผู้เสียหายจะมีการขัดขืน ทำให้ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องใช้กำลังในการระงับเหตุ ยอมรับว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุจริงๆ ตอนนี้ทราบว่ากองบังคับการตำรวจจราจรมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงขึ้นแล้ว ส่วนทางคดีอาญาอยู่ที่ สน.บางเขน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องชี้แจงและยอมรับกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป รวมทั้งอาจจะต้องทบทวนเรื่องยุทธวิธีที่่ใช้ในการระงับเหตุ แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่เคยมีวิธีระงับเหตุด้วยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด.-414-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สถาบันประสาทฯ ชี้นวดต้นคอเสี่ยงอันตราย เหตุเป็นศูนย์รวมอวัยวะสำคัญ

สถาบันประสาทวิทยา ชี้นวดต้นคอเสี่ยงอันตราย เพราะเป็นศูนย์รวมอวัยวะสำคัญ มีทั้งหลอดเลือด และกระดูก ไม่ได้มีแต่กล้ามเนื้อ นวดผิดชีวิตเปลี่ยน ตั้งแต่อัมพฤกษ์ อัมพาต จนเสียชีวิต

“แม่น้องผิง” ติดใจการตายของลูกสาว วอนร้านนวดรับผิดชอบ

แม่นักร้องสาว “ผิง ชญาดา” ติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว อยากให้เจ้าของร้านนวดแสดงความรับผิดชอบ เผยมีลูกสาวคนเดียว เป็นเสาหลักของครอบครัว ด้านเพจ “หมอไทยสตอรี่” เตือนนวดบริเวณคอผิดวิธี เสี่ยงเส้นเลือดเสียหาย-กระดูกสันหลังเคลื่อน-เส้นประสาทถูกทำลาย แนะหากมี 4 อาการหลังนวด ควรพบแพทย์ด่วน

ตร.ทองหล่อ บุกทลายปาร์ตี้ไฮโซกลุ่มลับ พบยาเสพติด

ตำรวจทองหล่อบุกทลายปาร์ตี้ไฮโซกลุ่มลับในโรงแรมย่านคลองเตยเหนือ พบกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ตรวจค้นพบยาเค ยาอีจำนวนหนึ่ง จึงคุมตัวนักท่องเที่ยวทั้งหมดไปตรวจหาสารเสพติด

อุทาหรณ์นวดบิดคอ! นักร้องสาวเสียชีวิตแล้ว

อุทาหรณ์นวดบิดคอ! นักร้องสาวเข้าร้านนวดแบบบิดคอ ก่อนมีอาการตัวชา-ร่างกายอ่อนแรง กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว