fbpx

กนอ.จับมือ เฮอร์มีส โคออพฯ ผุดนิคมฯ แห่งที่ 70 ที่ชลบุรี

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กนอ.จับมือ เฮอร์มีส โคออพฯ ผุดนิคมฯ แห่งที่ 70 “นิคมฯ เฮอร์มีส” ที่ชลบุรี มั่นใจดึงเม็ดเงินลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท


การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ลงนามในสัญญาร่วมดำเนินงานกับ บริษัท เฮอร์มีส โคออพเปอเรชั่น จำกัด จัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรมเฮอร์มีส” บนพื้นที่กว่า 1,231 ไร่ ในจังหวัดชลบุรี รองรับอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth) ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและยานยนต์ไฟฟ้า มั่นใจดึงดูดการลงทุนได้กว่า 35,000 ล้านบาท และสร้างงานกว่า 8,800 ตำแหน่ง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า นิคมอุตสาหกรรมเฮอร์มีส จะเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 70 ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. ทั้งนี้ การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเฮอร์มีส มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมบนฐานของเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม โดยเน้นพัฒนาในกลุ่ม Cluster อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ ซึ่งประเทศไทยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน (ม.ค.65-เม.ย.66) และเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปีก่อน ในจำนวนนี้มีสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตจากประเทศจีนอยู่เป็นจำนวนมาก จึงถือเป็นโอกาสดีที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำในประเทศไทยต่อไป


“ด้วยศักยภาพของ บริษัท เฮอร์มีส โคออพเปอเรชั่น จำกัด เชื่อว่านิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องได้เป็นอย่างดี” นายวีริศ กล่าว

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในพื้นที่การนิคมอุตสาหกรรมฯ แม้ว่าครึ่งปีหลังจะต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ยอดขาย/เช่าที่ดินยังโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก มั่นใจปี 2567 ยอดขายที่ดินจะทะลุเป้า 4,500 ไร่แน่นอน แต่จะขยับขึ้นไปเท่ากับปีก่อนที่ 6,000 ไร่ เป็นเรื่องท้าทายเพราะเหลือเวลาอีกเพียง 3 เดือน โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศจีน และเร็วๆ นี้ บางพื้นที่ก็จะปรับเป็น Smart city, Smart park คาดจะเสร็จปลายปีนี้ เพื่อรองรับกลุ่ม Data center

อย่างไรก็ดีช่วงนี้ทั่วโลกมีการปรับฐานการลงทุนรองรับเทคโนโลยีใหม่ ทำให้เกิดทยอยปิดโรงงานในไทยในช่วง 1-2 ปีนี้ โดยอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานนับวันอยู่ในไทยได้ยากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันไทยมีการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กันมาก ขณะที่รถเครื่องยนต์สันดาปก็เริ่มมีการปิดตัว หรือย้ายฐาน จึงอยากให้รัฐมีนโยบายช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการเครื่องยนต์สันดาปต่อยอดปรับไปผลิตรถ PHEV หรือรถปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) แทน ไม่อยากให้ทิ้ง โดยอาจจะลดภาษีเพื่อรักษาความเป็น Hub ยานยนต์ของไทยเอาไว้และช่วยเหลือผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เดิมที่มี3-4แสนคน ซึ่งญี่ปุ่นก็เห็นด้วย


นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท เฮอร์มีส โคออพเปอเรชั่น จำกัดกล่าวว่า ขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติทั้งจีน สหรัฐฯ และยุโรปให้ความสนใจซื้อที่ดิน ในนิคมอุตสาหกรรมเฮอร์มิส สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง รวมไปถึงData Center และ Cloud Service ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายของพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ทั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจ Data Center ต้องการใช้พลังงานสีเขียว ตลอด24ชั่วโมง ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแผนร่วมลงทุนเทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจน กับพันธมิตร เพื่อผลิตไฟฟ้าสีเขียวป้อนให้กับอุตสาหกรรม Data Center แม้ว่าการลงทุนพลังงานไฮโดรเจน ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก แต่การที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ผลิตไฟฟ้าได้เพียง 5 ชั่วโมงต่อวัน ก็นับว่ามีความคุ้มค่าต่อการลงทุน

โครงการนิคมอุตสาหกรรมเฮอร์มีส ตั้งอยู่ในตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พื้นที่ประมาณ 1,231 ไร่ เป็นรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุน พัฒนา และให้บริการระบบสาธารณูปโภคภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการ กนอ. ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 มีมติอนุมัติในหลักการจัดตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมเฮอร์มีส ภายใต้เงินลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ประมาณ 2,880 ล้านบาท เชื่อมั่นว่านิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ จะดึงดูดการลงทุนได้อย่างมหาศาล สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 35,320 ล้านบาท และจ้างงานประมาณ 8,830 ตำแหน่ง คาดว่าจะเปิดให้ผู้สนใจจองได้ในปีหน้า และคาดว่าจะสามารถปิดการขายที่ดินภายใน2ปี และจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 2569. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คะแนนสูสี ศึกชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี

การเลือกนายก อบจ.ปทุมธานี ผลคะแนนของผู้สมัครเบอร์ 1 คือ นายชาญ สังกัดพรรคเพื่อไทย ขับเคี่ยวสูสีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ชนิดต่างฝ่ายต่างระบุต้องลุ้นจนถึงที่สุด จนกว่าคะแนนชัดเจนจึงจะยอมเปิดใจกับสื่อมวลชน

คุมตัวผู้ต้องสงสัยคาร์บอมบ์ยะลาได้ 1 ราย

คุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุคาร์บอมบ์หน้าแฟลตตำรวจบันนังสตา แล้ว 1 ราย หลังพบมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำรถของทางการไปใช้ประกอบระเบิดครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่นฟ้องนายกฯ ผิด ม.157 ปมแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยมิชอบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ฟ้อง “นายกฯ” ผิด ม.157 ปมแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยมิชอบ ยันไม่ได้ท้ารบทําเพื่อปกป้องสิทธิและสร้างรากฐานให้องค์กร

ผบ.ตร.ยืนยันยังไม่ลาออก ปฏิเสธให้ความเห็นมติ ก.ตร.ปม “บิ๊กโจ๊ก”

“พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” ให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรก หลังได้ย้ายกลับสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร. ยืนยันยังไม่ลาออก ยังทำหน้าที่อยู่ ปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวกับมติ ก.ตร. กรณี “บิ๊กโจ๊ก”

เปิดภาพจุดเหยียบกันตาย 121 ศพในอินเดีย

เดลี 3 ก.ค.- ภาพถ่ายมุมสูงจากโดรนเห็นรอยเท้าผู้คนและสิ่งของถูกทิ้งบนพื้นที่เป็นดินโคลน ในสถานที่ที่เกิดเหตุเบียดกันจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิตในรัฐอุตตระประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดียที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 121 คนแล้ว เหตุโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองฮาธราส ซึ่งมีการจัดงานพิธีทางศาสนาของชาวฮินดู โดยมีการแสดงธรรมจากโบเล บาบา นักเทศน์ชื่อดังของอินเดีย เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นหลังจากที่การเทศนาจบลง ผู้คนจำนวนมากต่างเบียดเสียดกันเพื่อจะออกจากงาน แต่จู่ๆ เกิดมีพายุฝุ่นเกิดขึ้นสร้างความสับสนและแตกตื่นให้กับผู้คนจนมีบางคนล้มลงและเกิดการล้มทับต่อ ๆกันไป จนกลายเป็นเหตุเหยียบกันตายในที่สุด ขณะที่มุขมนตรีรัฐอุตตระประเทศเผยว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อผู้ร่วมพิธีผลักกันไปยังด้านหน้าเวที เพื่อสัมผัสตัวนักเทศน์ที่กำลังเดินลงจากเวที ตำรวจระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 121 คนและบาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน แต่บางแหล่งข่าวระบุว่า มีคนตาย 122 คน และบาดเจ็บถึง 150 คน เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรี สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เหตุการณ์ชุลนุมเกิดขึ้นในขณะที่ผู้มาร่วมงานต่างเร่งรีบออกจากงานไปพร้อมกับโบเล บาบา โดยหวังว่าจะได้ใกล้ชิดกับนักเทศน์ชื่อดังซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวอินเดีย ตำรวจระบุด้วยว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเหยียบกันตายเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากความแออัด เพราะมีผู้มาร่วมงานมากถึง 250,000 คน ในขณะตำรวจอนุญาตให้มีคนเข้าร่วมงานได้เพียง 80,000 คนเท่านั้น ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมกันนี้ได้ประกาศจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสียรายละ 200,000 รูปี (ราว […]

กทม.สั่งระงับโครงการฯ 7 วัน หาสาเหตุเครนล้ม-ตรวจสอบความปลอดภัย

กทม.แสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต กรณีเครนล้มย่านเขตประเวศ สั่งระงับโครงการฯ 7 วัน เร่งหาสาเหตุและตรวจสอบความปลอดภัย