นนทบุรี 28 มิ.ย.-อธิบดีกรมการค้าภายใน เอาจริงให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศออกตรวจทำความเข้าใจร้านค้า รถแพงลอยที่ขายอาหารตามสั่ง หลังมีข่าวในโซเซียลเมนูข้าวไข่เจียวขายกล่องละ 50 บาท อ้างต้นทุนแพง ถือว่าเข้าข่ายไม่เป็นธรรมผู้บริโภค ชี้ต้องปิดป้ายแสดงราคา หากพบเห็นขายแพงแจ้งสายด่วน 1569
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวถึงมีการพูดถึงในโซเซียลว่ามีร้านค้ามอเตอร์ไซค์พ่วงข้างที่ขายอาหารตามสั่งคิดราคาข้าวไข่เจียวให้กับผู้บริโภคสูงถึงกล่องละ 50 บาท โดยผู้บริโภคเห็นว่ามีราคาแพงเกินจริง ขณะที่ผู้ขายอ้างถึงเหตุผลคิดราคาข้าวไข่เจียวต่อกล่อง 50 บาท เนื่องจากนำวัตถุดิบ เช่น ใส่ไข่เป็ด 2 ฟอง ใส่หมูสับ ราคาก๊าซและน้ำมันพืชสูงและอื่นๆ แพง จึงต้องคิดราคาแพงตามด้วยนั้น ทางกรมการค้าภายในเห็นว่าข้อกล่าวอังกล่าวไม่สมเหตุสมผลมากนัก แม้ว่าต้นทุนเหล่านี้จะปรับขึ้นมาบ้าง แต่ภาครัฐมีการติดตามและดูแลไม่ให้สูงไปมากอย่างเช่น ราคาก๊าซหุงต้มให้ตรึงต่อไปอีก 3 เดือน ขณะที่ราคาน้ำมันพืชโดยเฉลี่ยก็ไม่ได้แพงไปมาก แถมในช่วงที่ห้างสรรพสินค้ามีการแข่งขันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 42 บาทขนาดขวดละ 1 ลิตรและบ้างห้างยังลดราคาต่ำกว่านี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ดังนั้น เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้ทางกรมการค้าภายในจะให้พาณิชย์แต่ละจังหวัดสำรวจและทำความเข้าใจทุกร้านอาหารตามสั่งทั้งตั้งอยู่กับทีและร้านอาหารตามสั่งจอน หากจะทำอาหารพิเศษและคิดราคาที่แพงขึ้น นอกจากกาติดป้ายแสดงราคาสินค้าต่อหน่วยแล้ว จะต้องเขียนข้อความกำกับรายการสินค้าด้วยว่าหากจะคิดราคาพิเศษวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารมีอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบก่อนตัดสินใจสั่งรายการอาหารและรับราคาแพงดังกล่าวได้ แต่หากเป็นราคาต่อหน่วยที่คิดราคากันอยู่กล่องละ 35 บาทก็ต้องเขียนกำกับไว้ด้วยเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการคิดราคาข้าวต่อกล่องภายใน
“สั่งการพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ตรวจสอบกำกับดูแลการจำหน่ายในพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้ค้ามีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าและสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคในการซื้อสินค้า ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ กรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”นายวัฒนศักย์กล่าว
ทั้งนี้ กรมฯ เอาจริงหลังให้เจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษที่ได้ลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน (ลานเท) ในพื้นที่จังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี โดยได้จับกุมลานเทที่กระทำความผิดฐานทำผลปาล์มร่วงโดยผิดธรรมชาติเพิ่มอีก 1 ราย ในพื้นที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และได้ทำการยึดของกลางเป็นผลปาล์มร่วงและตะแกรงรางเทส่งพนักงานสอบสวนพื้นที่
อย่างไรก็ตาม กรมฯส่งดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2567 ลงวันที่ 23 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกรมฯได้มีดำเนินคดีลานเทที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนปแล้ว 3 ราย แบ่งเป็นจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 ราย และจังหวัดชุมพร 1 ราย โดยถือว่าทำจริงไม่ได้ขู่ หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมร้านค้าแพงลอยใดจำหน่ายสินค้าแพงเกินจริงร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 ได้ทันที.-514.-สำนักข่าวไทย
