“สุรพงษ์” ย้ำมาตรการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ MRT สายสีเหลือง

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – รมช. คมนาคม ตรวจการเดินรถของ MRT สายสีเหลือง ซึ่งเปิดเดินรถเต็มระบบตั้งแต่วานนี้ หลังเกิดเหตุรางนำไฟฟ้าหล่นบนคานทางวิ่งและอะไหล่ตัวยึดรางหล่นสู่ด้านล่าง ชี้ซ่อมบำรุงเสร็จเรียบร้อยและเพิ่มมาตรการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัย


นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบการเดินรถรถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ (MRT สายสีเหลือง) โดยมีนายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นำตรวจสอบ โดย MRT สายสีเหลือง เปิดเดินรถเต็มระบบตลอดเส้นทางตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2567 หลังซ่อมบำรุงเส้นทางที่ได้รับผลกระทบเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ MRT สายสีเหลือง สายนัคราพิพัฒน์เกิดเหตุรางนำไฟฟ้า (Conductor rail) หล่นบนคานทางวิ่งและอะไหล่ตัวยึดรางหล่นลงบนพื้นดินด้านล่างระหว่างสถานีกลันตัน (YL12) ถึงสถานีศรีอุดม (YL16) ฝั่งมุ่งหน้าสถานีสำโรง (YL23) (south bound) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม


นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การซ่อมแซมระบบการเดินรถช่วงสถานีกลันตัน (YL12) – สถานีศรีอุดม (YL16) ดำเนินการแล้วเสร็จ ประชาชนที่ใช้บริการจะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ยืนยันต่อประชาชนว่า มีความปลอดภัยเนื่องจากกรมการขนส่งทางราง รฟม. และผู้ประกอบการได้ร่วมกันตรวจสอบระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานการเดินรถ

จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ซ่อมบำรุงและจัดทำระบบป้องกันเพิ่มเติมคือ ใช้กล้องที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความผิดปกติของระบบล้อ หากมีอุปกรณ์ใดเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม เซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณไปยังศูนย์ควบคุมเพื่อหยุดรถและแก้ไขได้ทันที พร้อมกันนี้เพิ่มความถี่ของการตรวจสอบระบบจากทุก 6 เดือนเป็นทุก 2 เดือน โดยเฉพาะจุดที่เคยเกิดอุบัติเหตุจะตรวจสอบทุก 1 สัปดาห์

สำหรับประชาชนที่สัญจรอยู่ด้านล่าง ขอให้มั่นใจเช่นกันว่า สามารถสัญจรได้อย่างปลอดภัย กระทรวงคมนาคมจะไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก โดยได้ศึกษาจากระบบการเดินรถทางรางของต่างประเทศว่า มีจุดใดที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้เพื่อเฝ้าระวังและแก้ไขซึ่งเป็นการปิดโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย ทั้งนี้ ไม่ได้เป็นการตรวจสอบว่า ใครถูกใครผิด ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวกในการเดินทางและมั่นใจในความปลอดภัย


ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้องในคดีพิพาทระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีกับคณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐ และเอกชน พ.ศ.2562 นายสุรพงษ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปตามกระบวนการ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า อยู่ในตอนใด โดยจะมีการเผยแพร่ข่าวออกมาเป็นระยะๆ ขอให้รอฟัง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก