นนทบุรี 17 มิ.ย. – องค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดให้ 7 ราย ยื่นซองประมูลข้าวค้างเก่าสตอกรัฐจำนวน 15,000 ตัน คาดรู้ผลหลังเปิดซองประมูลช่วงบ่ายวันนี้ ขณะที่ “ภูมิธรรม” เชื่อขายปิดโกดังได้แน่เพื่อนำเงินประมูลได้ตัดค่าใช้จ่ายและคืนรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณห้องประชุมชั้น 6 องค์การคลังสินค้า (อคส.) ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นวันที่ อคส.ให้เอกชน 7 ราย ที่ผ่านคุณสมบัติประมูลข้าวสตอกรัฐ ครั้งที่ 1/2567 จำนวน 15,000 ตัน มายื่นซองประมูลข้าวในสตอกดังกล่าว โดยกำหนดให้ยื่นซองประมูลได้ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ซึ่งเอกสาร 2 ราย จาก 7 ราย ได้เข้ามาที่ห้องยื่นซองประมูลเพื่อลงทะเบียนไว้ก่อน 2 ราย ประกอบด้วยบริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ จำกัด เหลืออีก 5 ราย ยังไม่ได้มาลงทะเบียนยื่นซอง คาดว่าน่าจะยื่นซองประมูลกันได้ใกล้ที่จะปิดรับซองประมูลในเวลา 12.00 น.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันนี้ อคส.จะให้เอกชนที่ผ่านคุณสมบัติประมูลข้าวคัางสตอกจำนวน 7 ราย สามารถมายื่นเอกสารประมูลได้ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และหลังจากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกันจะเปิดซองประมูลข้าวค้างสตอกจำนวน 15,000 ตัน ทันที โดยคาดว่าน่าจะทราบผลของการประมูลข้าวครั้งนี้ในเวลา 16.00-17.00 น.
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเอกชนทั้ง 7 ราย จะเข้ามายื่นประมูลข้าวสตอกของรัฐครบตามจำนวน แม้ก่อนหน้านี้มีเอกชนสนใจ 8 ราย แต่มี 1 ราย ไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ เนื่องจากไม่มีใบรับรองค้าข้าวจากกรมการค้าภายใน แต่ก็เชื่อว่าทั้ง 7 ราย ที่มายื่นซองประมูลไม่น่าจะติดขัดอะไร ส่วนราคาที่จะเสนอประมูลในครั้งนี้ จะเป็นเท่าไหร่นั้น คาดว่าในช่วงเย็นๆ จะทราบผล หากมีการเสนอราคามาสูงก็ถือว่าเป็นผลดีต่อภาครัฐ โดยเบื้องต้นหากมีการเสนอราคาข้าวในสตอกนี้อยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 15 บาทขึ้นไปก็น่าจะทำให้ยอดประมูลข้าวสตอกนี้อยู่ที่ประมาณ 200-250 ล้านบาท และเมื่อนำไปหักค่าใช้จ่ายด้านเช่าโกดังและอื่นๆ จะทำให้เงินเหลือคืนรัฐได้อย่างน้อยกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป และถือเป็นการปิดโครงการข้าวค้างสตอกของรัฐ ไม่มีสินค้าเกษตรเหลืออีกแล้ว ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ต้องแก้ไขปัญหาค้างเก่าให้หมดไป
“ตอนที่จะมีการประมูลทุกคนได้ประเมินและด้อยค่าข้าวกองนี้ พูดเหมือนสินค้าราคาอาหารสัตว์ที่ 4-5 บาท ซึ่งตนมั่นใจว่าสูงกว่านั้นและมากกว่านั้นแน่นอน ถ้าได้ 15-18 บาท น่าจะได้รายได้กว่า 250-300 ล้านบาท เมื่อจ่ายค่าโกดังต่างๆ จะได้รายได้เข้ารัฐถึง 100-150 ล้านบาทขึ้นไป ทุกอย่างอยู่ในสายตาของประชาชน เราต้องทำให้สมเหตุสมผลที่สุด ถือว่าเราปิดตำนานโครงการจำนำข้าวชุดนี้ ได้เท่าไหร่ก็จะมาสรุปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนมีราคาในใจ ต้องรอให้ออกมาจริง ๆ เชื่อว่าพ่อค้าข้าวเข้าไปดูข้าว เห็นและเข้าใจจะประเมินได้ว่าประมูลที่ราคาเท่าไหร่ อยู่ที่พ่อค้าข้าวแต่ละคนว่าจะเอาไปทำอะไร ซึ่งคิดว่าจบ มาถึงวันนี้แล้วฝ่ามาได้ขนาดนี้แล้วน่าจะจบ” นายภูมิธรรม กล่าว.-514-สำนักข่าวไทย