นนทบุรี 13 มิ.ย. – คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เคาะมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวด้วยการลดราคาปุ๋ย เน้นต้องหลากหลายและเพียงพอ ดูแลชาวนา 4.68 ล้านครัวเรือน ขณะที่ราคาข้าวเปลือกปีนี้มีโอกาสดีต่อเนื่อง พร้อมเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 67 เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ มอบกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ กลับไปพิจารณาอีกครั้ง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 2/2567 ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยสถานการณ์ราคาข้าวปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งได้มีการเตรียมการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่ผ่านมาทุกปีรัฐบาลเสียเงินอุดหนุนเป็นจำนวนมาก จึงต้องหาวิธีการการผลิตที่ดีและลดต้นทุนการผลิต จึงมีการเสนอโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง โดยรัฐบาลจะช่วยครึ่งหนึ่งและชาวนาจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง โดยดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันของ ธ.ก.ส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) ให้ใช้งานได้ง่ายและทั่วถึง แล้วจะเชิญชวนผู้ประกอบกิจการผู้ค้าปุ๋ยทุกบริษัทมาเข้าร่วมในราคาเดียวกันหมด เพื่อแก้ปัญหาชาวนาซื้อปุ๋ยแพง ซึ่งปุ๋ยที่ดำเนินการตามสูตรที่ระบุ จะทำให้เพิ่มผลผลิตได้โดยรัฐไม่ต้องดูแลค่าใช้จ่าย ไร่ละ 1,000 ซึ่งต้องทำให้เร็วที่สุดและเพียงพอ เพื่อให้ทันฤดูกาลการผลิต และอาจมีคณะอนุกรรมการขึ้นมาดูแลและตรวจสอบโครงการให้ชัดเจนโปร่งใสให้ประโยชน์สูงสุดเกิดกับชาวนา
ทั้งนี้ ที่ประชุม นบข.ได้มีมติเห็นชอบหลักการโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปัจจัยการผลิตลดต้นทุนการผลิตข้าวแก่เกษตรกร โดยจะสนับสนุนปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ ไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 67/68 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรเป้าหมาย 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 29,994.3445 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กรมการข้าวนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วที่สุดภายในเดือนนี้
โดยปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นปุ๋ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน หรือหนังสือสำคัญรับแจ้งถูกต้องตามพระราชบัญญัติปุ๋ย และชีวภัณฑ์ ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกรับการสนับสนุนปุ๋ยสำหรับนาข้าวที่ขึ้นทะเบียน เบื้องต้นจำนวน 13 รายการ ได้แก่
(1) ปุ๋ยสูตร 25-7-14
(2) ปุ๋ยสูตร 20-8-20
(3) ปุ๋ยสูตร 20-10-12
(4) ปุ๋ยสูตร 30-3-3
(5) ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0
(6) ปุ๋ยสูตร 18-12-6
(7) ปุ๋ยสูตร 16-8-8
(8) ปุ๋ยสูตร 16-12-8
(9) ปุ๋ยสูตร 16-16-8
(10) ปุ๋ยสูตร 16-20-0
(11) ปุ๋ยสูตร 20-20-0
(12) ปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม หรือ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์
(13) ชีวภัณฑ์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย
และที่ประชุมฯได้เสนอเพิ่มปุ๋ยอีก 3 สูตร ได้แก่ (1) ปุ๋ยสูตร 16-16-16 (2) ปุ๋ยสูตร 15-15-15 และ (3) ปุ๋ยสูตร 13-13-24
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯได้เห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 67 เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับสถานการณ์ข้าวไทย ผลผลิตข้าว ปี 66/67 ผลผลิต 33.05 ล้านตัน ลดลง 0.58 ล้านตันข้าวเปลือก (-2%) เป็นข้าวนาปี 26.83 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้น 0.12 ล้านตันข้าวเปลือก (+0.4%) ข้าวนาปรัง 6.22 ล้านตันข้าวเปลือก ลดลง 0.70 ล้านตันข้าวเปลือก (-10%) โดยราคาข้าวไทย (ณ วันที่ 10 มิ.ย.67) ข้าวทุกชนิดราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมา ขณะนี้ข้าวเปลือกทุกชนิดราคาสูง เนื่องจากรัฐบาลเร่งรัดการส่งออกเพิ่มขึ้น และช่วง มี.ค.-เม.ย. อากาศร้อนจัดผลผลิตออกน้อย ขณะที่ความต้องการซื้อจากในประเทศและต่างประเทศมีต่อเนื่อง โดยราคาข้าวเปลือกต่อตันความชื้น 15% เทียบปีก่อน (10 มิ.ย.66) ข้าวหอมมะลิ 15,000 – 16,500 บาท(+8%) ข้าวปทุมธานี 14,600 – 16,000(+35%) ข้าวเจ้า 11,700 – 12,600 (+20%) และข้าวเหนียว 13,800 – 14,600(+8%) และการส่งออกข้าวไทย (ม.ค.-เม.ย.67) ส่งออก 3.40 ล้านตัน(43% ของเป้าหมาย 8.03 ล้านตัน) การส่งออกเทียบปีก่อนมีสัดส่วน ดังนี้ ข้าวขาว 65% ข้าวหอมมะลิไทย 16% ข้าวนึ่ง 9% ข้าว หอมไทย 6% ข้าวเหนียว 3% ข้าวกล้อง 1%เป็นต้น. -514-สำนักข่าวไทย