กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – คาด กนง.วันนี้ คงอัตราดอกเบี้ย 2.50% ด้วยมติไม่เป็นเอกฉันท์ นักวิเคราะห์ชี้แม้ลดดอกเบี้ยก็ไม่กระทุ้งเศรษฐกิจ เพราะปัญหาหลักเกิดจากโครงสร้างเศรษฐกิจไทย สินค้าจีนตีตลาด โรงงานทยอยปิด
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 36.72 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ 36.75 บาท/ดอลลาร์ ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวที่ไร้ทิศทางชัดเจนของดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงราคาทองคำ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดรอลุ้นปัจจัยใหม่เพิ่มเติม โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.60-36.80 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลสำคัญฝั่งสหรัฐฯ และผลการประชุม FOMC ของเฟด
ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ตลาดจะรอลุ้นผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยมองว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ด้วยมติไม่เป็นเอกฉันท์ 5-2 และตลาดจะให้ความสนใจมุมมองของ กนง.ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ (จะมีการปรับเปลี่ยนคาดการณ์เศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่) และการส่งสัญญาณต่อแนวโน้มนโยบายการเงิน นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ประเด็นการเมือง เช่น การพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ก็เป็นอีกปัจจัยที่ตลาดจับตามองเช่นกัน
“หาก กนง. ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย หรือเซอร์ไพรส์ตลาด ด้วยการลดดอกเบี้ยลง (มองว่าโอกาสเกิดน้อยมาก) ก็อาจกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก” นายพูน กล่าว
ด้าน นายธวัชชัย อัศวพรไชย รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเอสแอล ระบุตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าทั้งเฟด และ กนง.ในปีนี้จะปรับลดดอกเบี้ยลงเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ในช่วงครึ่งหลังของปี โดย กนง.จะยังไม่ลดดอกเบี้ยในวันนี้ ซึ่งภาพรวมในการพิจารณาของบอร์ด กนง.จะดูถึงเงินเฟ้อ การรักษาเสถียรภาพของเงินบาท ไม่อ่อนค่ามากเกินไป รวมไปถึงเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ ซึ่งในขณะนี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ความเหลื่อมล้ำรายได้ การย้ายฐานของโรงงานต่าง ๆ ที่ออกจากประเทศไทย การนำเข้า- ส่งออก การถูกสินค้าจากจีนเข้ามาตีตลาด โดยประเด็นนี้ หากลดดอกเบี้ยก็ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด โดยรวมแล้วตลาดหุ้นที่ลดลงนอกจากปัญหาเศรษฐกิจต่างประเทศ ปัญหาการเมืองแล้ว ก็มีผลจากสัญญาณเศรษฐกิจที่พลาดเป้าหมาย โดยปีนี้ยังคาดว่า จีดีพีไทยจะขยายตัว ร้อยละ 2.6. -511-สำนักข่าวไทย