คลัง-กลาโหม มอบสัญญาเช่าที่ดิน “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” ให้ ปชช.กว่า 2,000 ไร่

สมุทรปราการ 5 มิ.ย. – คลัง-กลาโหม จับมือมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุในราคาต่ำ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” ตำบลแหลมฟ้าผ่า จ.สมุทรปราการ ให้ประชาชนกว่า 2,000 ไร่ โดย “บิ๊กทิน” ตั้งเป้าปีหน้าจะมอบสัญญาเช่าอีก 72,000 ไร่ ในเขตกองทัพให้ประชาชน


นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ภายใต้ความร่วมมือของกองทัพเรือ-กรมธนารักษ์ ตามโครงการ ”ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป.1193 (บางส่วน) ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน

นายสุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมามีชาวบ้านเข้ามาทำกินในที่ดินทหารแล้วเกิดทะเลาะเบาะแว้งแย่งที่ดินกัน เราต้องทำให้ถูกต้อง ซึ่งที่ดินแปลงนี้ที่จะมอบสัญญาเช่าให้ในวันนี้ โดยกระทรวงกลาโหม กับกระทรวงการคลัง ร่วมมือกันผ่านกองทัพเรือและกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน โดยที่ดินแปลงนี้บริเวณตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ กองทัพเรือหวงแหนมากเพราะมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ มีกลุ่มทุนมาขอเช่าทำสนามกอล์ฟ ทำท่าเรือ แต่กองทัพเรือคำนึงถึงพี่น้องชาวแหลมฟ้าผ่า มากกว่าจึงมีโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งสัญญาเช่าที่ได้รับโดยไม่ได้ระบุระยะเวลาเช่า นอกจากจะทำมาหากินได้แล้ว ยังจะเป็นหลักทรัพย์ในการกู้เงินกับสถาบันการเงินได้อีกด้วยและต่อไปจะมีการพัฒนาเพิ่มศักยภาพ เช่น โครงการหนองวัวซอโมเดล จ.อุดรธานี หลังจากมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุแล้ว มีการทำถนนเข้าที่ดิน มีระบบน้ำให้ เป็นต้น พี่น้องชาวบ้านบริเวณนี้ อยากได้อะไรให้แจ้ง องค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า ขอมาที่กองทัพเรือ ตนเองจะจัดการให้ เพราะบริเวณนี้จะมีปัญหาน้ำเสีย น้ำทะเลหนุนสูง ก็ขอให้แจ้งมา จะดำเนินการให้ สำหรับในปี 2568 ตั้งเป้าจะแจกสัญญาเช่าที่ดินของกรมธนารักษ์ที่กองทัพถือครองอยู่ประมาณ 72,000 ไร่ ให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งที่ดินมีอยู่แล้วแต่ต้องสำรวจให้ตรงกับสิทธิที่ครอบครองอยู่ในปัจจุบัน


นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องการบริหารที่ราชพัสดุในความครอบครองดูแลใช้ประโยชน์ของหน่วยราชการให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศสูงสุด ในกรณีนี้ที่ จ.สมุทรปราการ ต้องการมุ่งเน้นแก้ไขเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มคุณภาพชีวิต วันนี้กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์ร่วมกับกระทรวงกลาโหมโดยกองทัพเรือมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุในราคาต่ำ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป.1193 (บางส่วน) ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จำนวน 207 แปลง แบ่งเป็น สัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย จำนวน 133 แปลง และเพื่อประกอบการเกษตร จำนวน 74 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2,069-1-92 ไร่ ภายใต้โครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” จากนี้จะมีการดำเนินการในที่ราชพัสดุในลักษณะนี้ต่อ กรมธนารักษ์ให้ความสำคัญกับสิทธิ์พื้นฐานในที่ดินทำกินของประชาชน เพื่อสร้างโอกาสใหม่ในการดำเนินชีวิต โอกาสในการสร้างรายได้ของประชาชน อย่างไรก็ตามได้ให้นโยบายกับกรมธนารักษ์ ว่า รายได้ของกรมธนารักษ์จะต้องเพิ่มอย่างน้อยปีละ 5% ส่วนการบริหารจัดการที่ดินราชพัสดุจะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% ต่อปีเช่นกัน

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป. 1193 (บางส่วน) นี้ ได้มาจากการเวนคืนจากราษฎรเมื่อปี พ.ศ. 2525 (มีเนื้อที่เดิมซึ่งเป็นป้อมพระจุลจอมเกล้าประมาณ 100 ไร่) หน่วยงานนำส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุกองทัพเรือ เมื่อปี พ.ศ.2525 มีเนื้อที่ประมาณ 7,980 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา ปัจจุบันมีหลักฐานเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ 15135 ออกให้เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2525 ใช้ในราชการกองทัพเรือ มีหน่วยงานราชการใช้ประโยชน์ อาทิ เช่น 1) โรงเรียนป้อมพระจุลจอมเกล้า 2) อำเภอพระสมุทรเจดีย์ 3) ศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4) วิทยาลัย การอาชีพพระสมุทรเจดีย์ ที่เหลือบางส่วนนำมาจัดให้เช่าอยู่อาศัยและการเกษตร ตั้งแต่ปี 2551 เพื่ออยู่อาศัย จำนวน 143 แปลง เนื้อที่ประมาณ 61-0-34.87 ไร่ และเช่าเพื่อประกอบการเกษตร จำนวน 132 แปลง มีเนื้อที่ประมาณ 3,342-3-73.10 ไร่

นางจุฑามาศ เชื่อมเขต ชาวบ้านแหลมฟ้าผ่า กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับสัญญาเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ โดยเป็นสัญญาเช่าที่ไม่ได้ระบุเวลาเช่า ที่ผ่านมาครอบครัวตนเองได้ทำมาหากินบนที่ดินผืนนี้มาร่วม 70 ปีแล้วตั้งแต่ยุคคุณตาคุณยาย โดยที่ดินแบ่งเป็นที่เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปู จำนวน 11 ไร่ ค่าเช่าไร่ละ 500 บาทต่อปี กับที่ดินปลูกบ้านอีก 1 ไร่ ค่าเช่าไร่ละ 600 บาทต่อปี รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายค่าเช่าให้กรมธนารักษ์ปีละ 6,100 บาทบนเนื้อที่ 11 ไร่.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย