ผู้ประกอบการสมุนไพรร่วมงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 โชว์ต่างชาติ

นนทบุรี 30 พ.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำผู้ประกอบการสมุนไพร ร่วมงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 โชว์ต่างชาติมั่นใจผลักดันสมุนไพรไทยเป็น Soft Power สร้างรายได้เข้าประเทศ สร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย คาดจัดงาน 5 วัน สามารถสร้างมูลค่าการค้าให้ผู้ประกอบการ 20 ราย ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท ทั้งยอดขายภายในงานและคำสั่งซื้อของคู่ค้าในอนาคต


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า “ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้นำผู้ประกอบการสมุนไพร 20 ราย ภายใต้โครงการ DBD SMART Local HERB ของกรมฯ เข้าร่วมงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 ณ เมืองทองธานี แบ่งเป็น ผู้ประกอบการเครื่องดื่ม 6 ราย เครื่องปรุงรส 5 ราย อาหารว่าง 5 ราย เครื่องแกง 2 ราย และเครื่องเทศ 2 ราย ไฮไลท์สำคัญนอกจากการแสดง จำหน่ายสินค้า และเจรจาธุรกิจกับนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เข้าร่วมงานของผู้ประกอบการ 20 รายแล้ว ยังมีการสาธิตโชว์ทำอาหารและเครื่องดื่มจากสมุนไพร (Cooking Demonstration) โดยนำวัตถุดิบจากผู้ประกอบการ DBD SMART Local HERB และสมุนไพรอื่นๆ ที่เข้าร่วมงานฯ มาเป็นส่วนประกอบการนำเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่แปลกใหม่ ให้ชาวต่างชาติและผู้เข้าร่วมงานได้ลิ้มชิมรส แสดงสรรพคุณอันหลากหลายของสมุนไพรไทยมีประโยชน์ทั้งดูแลรักษาสุขภาพและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านอาหารและเครื่องดื่มที่เป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่มีความสำคัญของชีวิต เข้าคอนเซป ‘อิ่มอร่อยรักษาสุขภาพ’ ตอกย้ำนโยบายอาหารไทย อาหารโลก (Kitchen of the World) และจุดประกายแนวคิดเปิดมุมมองใหม่ให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจ Health & Wellness ที่ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะในประเทศไทย แต่พร้อมส่งออกสู่สายตาชาวโลกได้รับรู้ถึงสรรพคุณสุดวิเศษ

ทั้งนี้ การสาธิตทำอาหารและเครื่องดื่มจากสุมนไพรภายในงานฯ กำหนดดำเนินการวันละ 2 รอบ โดย เชฟเก่ง : ผศ.ดร.สถิตย์พงษ์ มั่นหลำ อาจารย์และผู้จัดการอาวุโสแผนกวิจัย (Best Professor In Kitchen Manager Studies) วิทยาลัยดุสิตธานี และ *เชฟมังกร : ผศ.ดร.ภูริ ชุณห์ขจร ผู้เชี่ยวชาญ และอาจารย์หลักสูตรอาหารเพื่อสุขภาพ วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต และอาจารย์ประจำโรงเรียนสอนทำอาหาร CBA Academy อาทิ ขนมปังผักรสหมูกะทะ ม็อคเทลซอสมะม่วงสามรสพร้อมคาเวียมะม่วง แกงคั่วสละสอดไส้ไก่ผสมผงเคล ชาใบหม่อนผสมนมงาขาว พล่ากระเจี๊ยบกรอบ น้ำขิงมังคุดโซดา ซอฟคุกกี้จากผงผักผำ และชาใบหม่อนอัญชันลาเวนเดอร์ผสมว่านหางจระเข้ เป็นต้น 


อย่างไรก็ตาม สมุนไพรไทยกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ในรูปแบบตำรับยาแผนโบราณ สารสกัด วัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง โดยได้รับอานิสงส์จากพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ตอบรับกระแสความนิยมในการใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพ ความตื่นตัวในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุดิบจากธรรมชาติหรือกระบวนการผลิตที่รักสิ่งแวดล้อม และการให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากกว่าการรักษา รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แนวโน้มการบริโภคอาหารแห่งอนาคตที่เพิ่มมากขึ้น และการเติบโตของธุรกิจรักสุขภาพและการออกกำลังกาย 

คาดว่าตลอดการจัดงาน 5 วัน จะสามารถสร้างมูลค่าการค้าให้ผู้ประกอบการที่ร่วมออกงานทั้ง 20 ราย ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท ทั้งยอดขายภายในงานและคำสั่งซื้อของคู่ค้าในอนาคต ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการเกิดการพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้มีคุณค่าและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตอกย้ำจุดแข็งความได้เปรียบด้านความหลากหลายของสมุนไพรไทยให้เด่นชัดและความสามารถในการแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดี 

ขอเชิญชวนนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมทั้ง ผู้บริโภคทั่วไป เข้าเยี่ยมชมคูหาผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร DBD SMART Local HERB ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทั้ง 20 ราย ได้ภายในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 ณ Hall 9 บูท GG01 โซน Smart Local Herb (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) เมืองทองธานี จ.นนทบุรี


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2567) ประเทศไทยมีผู้ประกอบธุรกิจผลิตและแปรรูปสมุนไพร จำนวน 1,327 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 9,885 ล้านบาท นิติบุคคลส่วนใหญ่จัดตั้งในรูปแบบบริษัทจำกัด 1,201 ราย (คิดเป็นร้อยละ 90.50 ของจำนวนการจดทะเบียนธุรกิจผลิตและแปรรูปสมุนไพรทั้งหมด) โดยในปี 2567 มีการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ จำนวน  68 ราย โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น คือ ผู้บริโภคตื่นตัวนำสมุนไพรไทยมาใช้ดูแลตนเองและรักษาโรคมากขึ้น”นางอรมนกล่าว.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]