สิ้นศตวรรษนี้ไทยเสี่ยงร้อนขึ้น 4-5 องศาฯ แนะรัฐหนุน SME เร่งปรับตัว

กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – ไทยเสี่ยงเจอสภาพอากาศสุดขั้วมากขึ้น น้ำท่วมฉับพลันสลับภัยแล้ง สิ้นศตวรรษนี้อาจร้อนขึ้น 4-5 องศาเซลเซียส กระทบเกษตร-เศรษฐกิจ แนะรัฐตั้งกองทุนช่วย SME รับมือ Climate Change


ดร.กรรณิการ์ ธรรมพานิชวงศ์ นักวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ กล่าวในงาน PIER Research Brief เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กับ เศรษฐกิจ (Climate Change and the Economy) ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิพื้นผิวโลกในช่วงหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม คือการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้นและการเพิ่มขึ้นของประชากรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและรองรับการขยายตัวของเมือง

สำหรับสภาพพูมิอากาศของประเทศไทย ในช่วงระยะเวลา 30 ปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส สภาพอากาศสุดขั้วของไทยมีความรุนแรงขึ้นและเกิดบ่อยครั้งขึ้น ข้อมูลจากหลายแบบจำลองภูมิอากาศพบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของไทยในอนาคตมีแนวโน้มสูงขึ้นในทุกภาพจำลอง คาดการณ์ว่าสิ้นศตวรรษนี้ (2016-2099) อุณหภูมิของไทยมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น 4-5 องศาเซลเซียส หากยังไม่มีการดูแลลดโลกร้อน ลดก๊าซเรือนกระจก โดยมีแนวโน้มที่จะเผชิญอากาศร้อนมากขึ้นมีช่วงเวลาที่อากาศร้อนยาวนานขึ้นคาดการณ์ว่าไทยจะเผชิญทั้งปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมฉับพลันจากเหตุการณ์ฝนตกหนักมากยิ่งขึ้น


ส่วนในแง่ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบ ต่อสินทรัพย์และรายได้ ตลอดจนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของทั้งธุรกิจ ครัวเรือน สถาบันการเงิน และภาครัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจมหภาคเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ทั้งจีดีพี เงินเฟ้อ และความเหลื่อมล้ำในระบบเศรษฐกิจ

โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม การปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ มีการคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงานสภาพอากาศ จะสร้างความเสียหายสะสมระหว่างปี 2554-2588 คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 0.61-2.85 ล้านล้านบาท ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิต จะได้รับผลกระทบแรงงานลดลง ต้นทุนสูง ส่วนภาคบริการจะกระทบแหล่งท่องเที่ยวปิดตัว จากภัยพิบัติ ซึ่งจะนำไปสู่ภาคครัวเรือนที่จะเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ รายได้ รายจ่าย สินทรัพย์ และการเป็นหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ความเสี่ยงภาคการเงิน ที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แบ่งเป็น 5 ประเภทได้แก่ ด้านเครดิต ด้านภาวะตลาด ด้านการรับประกัน ด้านปฏิบัติการ และด้านสภาพคล่อง ส่วนภาคการคลัง จะกระทบสินทรัพย์ของภาครัฐ เนื่องจากรายได้จะลดลงและรายจ่ายจะเพิ่มขึ้น ตามการเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ไทยและทั่วโลก ต้องเริ่มปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ควบคู่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกที่จะส่งผลรุนแรงในอนาคต


ภาคธุรกิจมีการปรับทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ผู้ประกอบการรายใหญ่ฃจะดูตลอดห่วงโซ่อุปทาน ว่า มีการลดก๊าซเรือนกระจกมากน้อยแค่ไหน ขณะที่ SME และรายย่อย จำนวนมากที่อยู่นอกห่วงโซ่อุปทาน และไม่มีกำลังมากพอ จำเป็นต้องมีหน่วยงานภาครัฐมาช่วยเหลือ ติดอาวูธ องค์ความรู้ การเข้าถึงเทคโนโลยี การเข้าถึงแหล่งทุน อัตราดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเสนอรัฐตั้งกองทุน ช่วยเหลือ SME ขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ สนับสนุนในการดำเนินงานด้าน Climate Change”. ดร.กรรณิการ์ กล่าว. -516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”