เพชรบุรี 14 พ.ค.- “ร.อ.ธรรมนัส” ตรวจเยี่ยมตลาดกลางการเกษตรท่ายาง จ.เพชรบุรี ดันกล้วยหอมทองคุณภาพ สู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง พร้อมมอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร-ปัจจัยการผลิต ให้แก่เกษตรกร
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดกลางการเกษตรท่ายาง (หนองบ้วย) อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ภายหลังร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ โดยมีนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายมานะ บุญสร้าง ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรท่ายาง จำกัด และคณะผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การต้อนรับ
รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้รับฟังปัญหาการทำการเกษตร ความต้องการด้านต่าง ๆ ของผู้นำสหกรณ์ และพบปะสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ประชาชนในพื้นที่ที่มารอต้อนรับ พร้อมมอบนโยบายการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากนั้นได้มอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร จำนวน 100 ฉบับ และมอบปัจจัยการผลิต ให้แก่เกษตรกร จำนวน 20 ราย และรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานกล้วยหอมทองจาก 4 หน่วยงาน
สหกรณ์การเกษตรท่ายาง จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2517 ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 3,224 คน มีทุนดำเนินงานกว่า 500 ล้านบาท สหกรณ์ดำเนินธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจรวบรวม และธุรกิจให้บริการตลาดกลาง ซึ่งตลาดกลางเป็นแหล่งซื้อขายสินค้าเกษตร โดยได้รับงบประมาณจากจังหวัดเพชรบุรี และกรมส่งเสริมสหกรณ์ และเงินของสหกรณ์เองในการก่อสร้าง ตั้งแต่ปี 2542 มีพื้นที่ประมาณ 65 ไร่เศษ เกษตรกรในพื้นที่อำเภอท่ายางและใกล้เคียง ทั้งสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปจะทยอยนำผลผลิตของตนเองมาจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นมะนาว กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า ถั่วฝักยาว มะเขือ สับปะรด มะละกอ แตงกวา ข้าวโพด โดยมีทั้งการค้าส่งและค้าปลีก สามารถแบ่งสัดส่วนการขายเป็นการค้าส่งประมาณร้อยละ 70 และการค้าปลีกประมาณร้อยละ 30 ช่วงเวลาซื้อขายของเกษตรกรเริ่มตั้งแต่เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป โดยในแต่ละวันจะมีพ่อค้าแม่ค้าและผู้ซื้อเข้ามาจับจ่ายที่ตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงเช้า
ทั้งนี้ ผู้ซื้อและผู้ขายจะตกลงราคาสินค้ากันเองตามความพึงพอใจและสภาวการณ์ของตลาดปลายทาง ซึ่งตลาดกลางแห่งนี้สามารถอำนวยประโยชน์ให้กับสมาชิกได้ โดยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสินค้าเกษตรของสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ช่วยให้เกษตรกรหรือผู้ขายมีแหล่งค้าขายสินค้าที่มั่นคง ไม่ถูกเอาเปรียบหรือถูกกดราคา สามารถต่อรองราคากับผู้ซื้อได้โดยตรง พร้อมด้วยการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะบริการด้านข้อมูลข่าวสารทางการตลาดเพื่อประกอบการซื้อขายในตลาดกลาง มีปริมาณเงินทุนหมุนเวียนในตลาดวันละ 20 – 25 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งช่วงนี้ราคามะนาวค่อนข้างดี จึงทำให้มีปริมาณเงินหมุนเวียนค่อนข้างมากส่งผลให้พี่น้องสมาชิกสหกรณ์ที่นำผลผลิตมาจำหน่ายสามารถมีรายได้มาเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม กล้วยหอมทองถือเป็นสินค้าเกษตรหลักของสหกรณ์ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างมาก ปัจจุบันมีสมาชิกที่ลงทะเบียนปลูกกล้วยกับสหกรณ์ จำนวน 231 ราย มีเนื้อที่เพาะปลูกประมาณ 2,000 ไร่/ปี โดยกล้วยหอมทองจะออกมากในช่วงเดือน พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ปริมาณผลผลิต เฉลี่ย 2.5 ตันต่อไร่ โดยจัดจำหน่าย ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ แบ่งเป็น ตลาดในประเทศประมาณ 4,000 ตันต่อปี มีจำหน่ายที่ 7-11, Tops, Big C, Fuji supercenter, Foodland เป็นต้น และตลาดต่างประเทศที่สำคัญ คือ ประเทศญี่ปุ่น ส่งออกประมาณ 200 ตัน/ปี นอกจากนี้ ยังมีการต่อยอดเรื่องการนำกล้วยตกเกรดมาแปรรูปเป็นสินค้าต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น เค้กกล้วยหอม กล้วยอบพลังงานแสงอาทิตย์ กล้วยเบรกแตก เป็นต้น
นอกจากนี้ การผลิตกล้วยหอมทองของสหกรณ์แห่งนี้ เป็นระบบการผลิตแบบปลอดภัยจากสารพิษ 100% ใช้ ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูก รวมทั้งปลูกในพื้นที่เหมาะสมกับการเติบโต ได้รับการรับรองมาตรฐานการปลูกกล้วยหอมทองแบบปลอดภัย GAP และมีระบบโรงคัดแยกได้มาตรฐาน GMP,HACCP ปัจจุบันสหกรณ์ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจนของสมาชิกโดยการส่งเสริมปลูกกล้วยหอมทอง และสามารถเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้ที่สนใจ โดยจัดทำศูนย์เรียนรู้และศึกษาดูงานเรื่องกล้วยหอมทองปลอดภัย ทั้งในแปลงกล้วยของสมาชิกและที่สหกรณ์ ซึ่งเป็นโรงงานคัดแยก มีผู้สนใจศึกษาดูงานทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย
กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี ได้ส่งเสริมแนะนำสหกรณ์ให้ความรู้กับสมาชิกเพื่อให้มีความเข้าใจระบบสหกรณ์ ส่งเสริมให้มีการรวมกลุ่มปลูกกล้วยหอมทอง ใช้หลักการตลาดนำการผลิต และให้ความรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตร ตลอดจนมีการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกล้วยหอมทอง นำนวัตกรรมเข้ามาช่วยลดต้นทุน ลดการสูญเสียจากกระบวนการผลิตจนถึงมือผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมความรู้ และทักษะให้กับเจ้าหน้าที่การตลาดของสหกรณ์ เพื่อให้มีความรู้เพียงพอที่จะถ่ายทอดแนะนำให้สมาชิกปลูกกล้วยหอมทอง ปัจจุบันสมาชิกสหกรณ์การเกษตรท่ายาง จำกัด สามารถบริหารจัดการสหกรณ์ รวมทั้งสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง โดยสหกรณ์กำหนดกลยุทธ์ดำเนินการส่งเสริมให้สมาชิกปลูกกล้วยหอมทองที่มีคุณภาพส่งต่อผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและถ่ายทอดสู่ทายาทเกษตรกรเพื่อรักษาไว้ของชุมชนต่อไป. -516-สำนักข่าวไทย