ชวนผู้ประกอบการท้องถิ่นสานต่อนโยบาย ‘ซอฟต์ พาวเวอร์’ 

จ.เพชรบุรี 14 พ.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามรอยคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการ ชวนสานต่อนโยบาย ‘ซอฟต์ พาวเวอร์’ รัฐบาล ด้านเครื่องแต่งกายไทย พร้อมหารือธุรกิจค้าส่งค้าปลีกวางแนวทางสร้างความยั่งยืนให้ท้องถิ่น ขอให้เปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าชุมชนเพิ่มขึ้น พร้อมวอนเน้นจ้างงานคนในพื้นที่ กระตุ้นและสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจท้องถิ่นไปด้วยกัน 


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ระหว่างวันที่ 12 – 14 พฤษภาคม 2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้านำคณะผู้บริหารลงพื้นที่ จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและหาลู่ทางช่วยผู้ประกอบการท้องถิ่นขยายตลาด โดยการลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการชุมชน สอดคล้องเป้าประสงค์ของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลภาคธุรกิจเข้าถึงและเข้าใจความต้องการผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด ส่งผลถึงรูปแบบและแนวทางการให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอย่างตรงจุด โดยให้ความสำคัญถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ หารือแนวปฏิบัติที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้การดำเนินงานเดินหน้าทิศทางเดียวกัน ทั้งการขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมและหลากหลาย ขจัดปัญหาอุปสรรคทางการค้าเพื่ออำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการชุมชนสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างยั่งยืน และสัมพันธ์ถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ไฮไลท์สำคัญ คือ การชวนผู้ประกอบการท้องถิ่นสานต่อนโยบาย ‘ซอฟต์ พาวเวอร์’ ของรัฐบาล ด้านเครื่องแต่งกายไทย เพื่อยกระดับกลุ่มเครื่องแต่งกายที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ โดยการเพิ่มคุณค่า/มูลค่าทุนทางวัฒนธรรมและสร้างกระแสความนิยมให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยกระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันเพื่อสร้างกระแสให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ หรือซีรีส์ ที่กำลังได้รับความนิยม และการพาออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้าตามงานต่างๆ เพื่อสร้างการจดจำ/การรับรู้ในผลิตภัณฑ์ และขยายช่องทางการตลาด ขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้มีความหลากหลาย  ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสืบสานและประยุกต์ทางวัฒนธรรมของขนมไทย/เครื่องแต่งกายไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทยสมัยใหม่อย่างยั่งยืน สร้างรายได้ให้กลุ่มธุรกิจและประเทศอย่างต่อเนื่อง 


นอกจากนี้ ยังได้ตรวจเยี่ยมและหารือกับผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเพื่อวางแนวทางสร้างความยั่งยืนให้ท้องถิ่นระยะยาว โดยขอให้เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นนำสินค้าชุมชนเข้ามาจำหน่ายในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเพิ่มขึ้น พร้อมขอให้เน้นการจ้างงานคนในพื้นที่เป็นหลักเพื่อให้เกิดการจ้างงานท้องถิ่น เป็นการกระตุ้นและสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาค จังหวัด และประเทศ 

การลงพื้นที่ครั้งนี้ กำหนดตรวจเยี่ยมและพบปะผู้ประกอบการ 2 กลุ่มธุรกิจ คือ * ธุรกิจเครื่องแต่งกายจากวัสดุธรรมชาติ (กลุ่มอาชีพสตรีจักสานป่านศรนารายณ์) และ * ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก (บริษัท สหไทยดีพาร์ทเม้นท์สโตร์กรุ๊ป จำกัด) โดยผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย เป็นธุรกิจที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุนของกระทรวงพาณิชย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สามารถจ้างงานคนในท้องถิ่นเพื่อเข้ามาทำงานในธุรกิจได้ และมีศักยภาพในการสานต่อนโยบาย ‘ซอฟต์ พาวเวอร์’ ของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี 

ธุรกิจแรกที่ตรวจเยี่ยม คือ กลุ่มอาชีพสตรีจักสานป่านศรนารายณ์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ผลิตเครื่องแต่งกาย (หมวก กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด และของที่ระลึก) จากวัสดุธรรมชาติ เป็นอาชีพจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ผลิตภัณฑ์สะท้อนถึงความประณีตของฝีมือคนไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้สืบสานคงอยู่ตลอดไป โดยการรวมกลุ่มอาชีพเป็นการกระจายรายได้ให้แก่คนในชุมชนอย่างทั่วถึงตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือ ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถซักทำความสะอาดได้โดยที่สีไม่ตกและไม่ขึ้นรา มีรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เข้าถึงได้ทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงผู้ใหญ่ รวมทั้ง ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศ จากการพูดคุยพบว่า กลุ่มอาชีพสตรีฯ ได้มีการจำหน่ายสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ (เว็บไซต์ www.sornnarai.com, Facebook : Araya by Nut ป่านศรนาราย์อารยา และ IG : araaby และออฟไลน์  (คิงพาวเวอร์ สนามบินสุวรรณ ศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ และร่วมออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้าตามสถานที่ต่างๆ) 


โดยตลาดต่างประเทศที่สำคัญ คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน ปัญหาที่พบและกำลังเร่งแก้ปัญหา คือ การผลิตสินค้าที่ไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า คือ เส้นใยป่านกับเส้นใยเปลี่ยนผลิตไม่ทัน ส่งผลให้ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามความต้องการของตลาด ทั้งนี้ กลุ่มอาชีพสตรีฯ พร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มฯ เป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ของประเทศ เนื่องจากปัจจุบันก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวต่างประเทศอยู่แล้ว ฉะนั้น การขยายตลาดไปยังลูกค้าประเทศอื่นๆ น่าจะมีโอกาสความเป็นไปได้มาก 

และธุรกิจที่ 2 คือ บริษัท สหไทยดีพาร์ทเม้นท์สโตร์กรุ๊ป จำกัด เป็นธุรกิจค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ใน จ.เพชรบุรี เป็นกิจการของคนไทย 100% และเป็นร้านค้าส่งที่ได้รับการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบ มีเครือข่ายที่เป็นร้านค้าปลีกและร้านโชห่วย ประมาณ 100 ร้านค้า จากการพูดคุยพบว่า ธุรกิจให้ความสำคัญกับการบริหารระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ โดยนำระบบสารสนเทศมาช่วยในการ บริหารจัดการ เช่น การวิเคราะห์ต้นทุนสินค้าคงคลัง การจัดการคลังสินค้า การบริหารคำสั่งซื้อ การวิเคราะห์กระบวนการจัดส่ง และการกระจายสินค้า รวมถึง ธุรกิจได้จัดทำข้อมูลกลุ่มสมาชิกร้านค้าส่งค้าปลีกและโชห่วย เพื่อสนับสนุนการสร้างเครือข่ายในการจัดกิจกรรมการส่งเสริมการขาย ส่งผลให้ธุรกิจมีทักษะและประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างเป็นทางการมากขึ้น อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ ยังเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ร้านโชห่วยที่เป็นเครือข่าย ทำให้มีลูกค้าที่เป็นร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เป็นร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าให้แก่คนในท้องถิ่นด้วย ทำให้เข้าใจร้านค้าปลีกและร้านโชห่วยในพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงมากขึ้น 

นอกจากนี้ กรมได้ขอความร่วมมือให้ บ.สหไทยฯ เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้นำสินค้าชุมชนเข้าจำหน่ายในห้างฯ มากขึ้น ทั้งในรูปแบบการจัดสรรพื้นที่เพื่อวางจำหน่ายสินค้า หรือการจัดโปรโมชันพิเศษเพื่อให้ผู้ประกอบการเข้ามาแนะนำและให้ผู้บริโภคได้ร่วมทดลองบริโภคสินค้าเพื่อเปิดและขยายตลาด เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ รวมทั้ง ขอให้เน้นการจ้างงานคนในพื้นที่เป็นหลักเพื่อให้เกิดจ้างงานในท้องถิ่น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคให้เกิดการหมุนเวียนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งเป็นการช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้เศรษฐกิจภาพรวมในระดับมหภาพมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

หลังจากที่ได้พูดคุยรับฟังถึงรายละเอียดด้านต่างๆ จากผู้ประกอบการแล้ว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมเดินหน้าให้การสนับสนุนและช่วยเหลือภาคธุรกิจอย่างเต็มที่ รวมทั้งนำความต้องการและข้อเสนอแนะต่างๆ มาดำเนินการจัดทำแผนการขยายตลาดเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ปิดจุดอ่อนเสริมจุดแข็งให้ธุรกิจ และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมให้ภาคธุรกิจสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างราบรื่น เพิ่มศักยภาพและขยายโอกาสแห่งความสำเร็จ โดยมีภาครัฐเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ให้การสนับสนุน และอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]