ร้อง “ธรรมนัส” ให้ตรวจสอบตัวเลข​น้ำนมดิบ​ของมิลค์​บอร์ด​สูงเกินจริง

กรุงเทพฯ​ 13 พ.ค. – ประธานสหกรณ์​โคนม​วังน้ำเย็น​ร้อง​ “ธรรมนัส” ตรวจสอบการทำงาน​ของ​คณะทำงาน​ตรวจสอบ​ปริมาณ​น้ำนมดิบทั้งระบบ​ ย้ำปริมาณ​ที่มิลค์​บอร์ด​ซึ่ง​ปลัดกระทรวง​เกษตร​ฯ​ แจ้ง​สูงเกินจริง​ ที่อาจกระทบถึง​การจัดสรรโควตา​จำหน่าย​นมโรงเรียน


นายอำนวย ทงก็ก ประธานสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น​ จำกัดได้เดินทางเพื่อเข้ายื่นหนังสือต่อร้อยเอก​ธรรมนัส​ พรหม​เผ่า​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​เกษตร​และ​สหกรณ์​ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่า​ มีการทุจริตเกี่ยวกับ​การจัดสรรสิทธิจำหน่ายนมโรงเรียนประจำปีการศึกษา 2567​ หรือ​ไม่ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดภารกิจในต่างจังหวัด​จึงได้มอบหมายให้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระเษตรและสหกรณ์รับหนังสือร้องเรียนแทน

นายอำนวยเปิดเผยว่าง มีวัตถุประสงค์ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) และคณะทำงานตรวจสอบปริมาณน้ำนมโคทั้งระบบ ซึ่งมีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน เนื่องจากมีข้อสงสัยถึงปริมาณน้ำนมที่แน่ชัด โดยต้องการ​ทราบ​ว่า​ปริมาณโคนมทั้งหมดที่มีอยู่จริงนั้น​ มีเท่าไหร่กันแน่ จากที่ตนได้รับฟังปัญหามาและทราบว่า มีปริมาณน้ำนมจริงๆ ไม่เกิน 2,000 ตันต่อวัน ตลอด​จนตั้งข้อสงสัยว่า เหตุ​ใตผลการตรวจสอบจึงเป็น 3,000 ตัน โดยยิ่งตรวจ ยิ่งเพิ่ม จึงอยากจะทราบว่า​ ตัวเลขอีก 1,000 ตัน ที่เกินมาจากความจริงนั้นมีที่มาอย่างไร


นอกจากนั้นยังพบว่า​ กระบวนการตรวจสอบปริมาณ​น้ำนม​ดิบของคณะทำงาน​มีการใช้บุคคลและหน่วยงานที่ขาดความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่น ทำไมสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ปกติมีปริมาณน้ำนมดิบประมาณวันละ 70 ตัน ทำไมเหลือ 50 ตัน ทั้งที่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการซื้อขาย การจ่ายเงิน ปริมาณเข้าออกน้ำนม แต่การตรวจปริมาณนมน้ำนมดิบกลับใช้วิธี​การสอบถามกำนันผู้ใหญ่บ้าน

จาก​ความผิด​ปกติ​ดังกล่าว​ทำให้​สงสัย​ว่า​ จะส่งผลต่อการจัดสรรโควตา​จำหน่าย​นมโรงเรียน​ งบประมาณ​ 14,000 ล้าน​บาท​หรือ​ไม่จึงขอให้​ร้อยเอกธรรมนัสตรวจสอบ​เพื่อ​ความโปร่ง​ใส

นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระเษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนเกษตรกร และจะได้นำเรื่องนี้ ไปหารือกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ฯเพื่อพิจารณาในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อม​ยืนยันว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะทำให้ทุกอย่างโปร่งใส.512-สำนักข่าว​ไทย​


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง