WHA Group กำไรสุทธิ Q1  1,365 ลบ. ประกาศเดินเกมรุกสยายปีก “Green Logistics” เต็มสูบ

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.-บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group โชว์ฟอร์มร้อนแรง ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 เติบโตอย่างโดดเด่น รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไร 3,930 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161% (Y-Y) ประกาศเดินหน้าสยายปีกลงทุน “Green Logistics” ครบทุกมิติ ทั้งรถขนส่งไฟฟ้า ติดตั้งระบบชาร์จ สถานีชาร์จ พร้อมตั้งเป้าเซ็นสัญญาปีนี้ 1,000 คัน


 บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 3,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% และกำไรสุทธิ 1,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161% ตามลำดับ ขณะที่รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 3,776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% และกำไรปกติ 1,284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากอัตราการเติบโตของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจที่สร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติม สำหรับงวดปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.1170 บาท โดยบริษัทฯ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของ WHA Group


นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “WHA Group” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตของรายได้ และกำไรสุทธิ 

ทั้งนี้ เป็นผลจากการขับเคลื่อนของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล ทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ซึ่งสอดรับกระแสการย้ายฐานการลงทุนและฐานการผลิตของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ รวมถึงนโยบายภาครัฐที่กระตุ้นการดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาในประเทศ ส่งผลให้ภาคการลงทุนกลับมาคึกคักอีกครั้ง และหนุนให้ 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ได้รับอานิสงส์จากปัจจัยบวกดังกล่าว

ธุรกิจโลจิสติกส์  มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2567 มีการลงนามสัญญาเช่าโครงการ Built-to-Suit และโรงงาน/คลังสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มรวม 29,623 ตร.ม. และมีสัญญาเช่าระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงจำนวน 33,455 ตร.ม. ทำให้บริษัทฯ มีพื้นที่คลังสินค้าภายใต้การถือครองและบริหารรวม 2,960,056 ตร.ม. ส่งผลให้ไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 297 ล้านบาท


นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในภาคขนส่งของประเทศ ภายใต้การลงทุนในโครงการ Green Logistics ที่ให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร อาทิ การให้บริการรถขนส่งไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ การติดตั้งระบบชาร์จ สถานีชาร์จ พร้อมด้วย WHA Green Mobility Platform (W-GMP) แพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ให้กับลูกค้า โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท โมบิลิกส์ จำกัด (Mobilix) แบรนด์ให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 ประสบความสำเร็จมีลูกค้าเซ็นสัญญาเช่าซื้อยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้วกว่า 176 คัน และคาดว่าทั้งปีจะมีลูกค้าเข้ามาเซ็นสัญญาเพิ่มได้ถึง 1,000 คัน ตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้  

สำหรับโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 หลังจากที่เฟส 1 มีผู้เช่าเต็มพื้นที่แล้ว บริษัทฯ จึงเร่งพัฒนาเฟส 2 เพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดบริษัทผู้ผลิต/ จำหน่ายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์ได้ลงนามในสัญญาเช่าพื้นที่เพิ่มเติมกว่า 10,800 ตร.ม. จากเดิมที่ได้เช่าพื้นที่ไปแล้ว 46,200 ตร.ม. และยังมีแผนเช่าพื้นที่คลังสินค้าในเฟส 2 เพิ่มอีกราว 9,000 ตร.ม.

“เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด  กม.23 โปรเจกต์ที่ 3 พื้นที่รวมกว่า 91,000 ตร.ม. บนที่ดิน 102 ไร่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรม อาทิ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผู้ผลิตสินค้า และผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ควบคู่ไปกับแผนพัฒนาโครงการใหม่บนที่ดิน 300 – 400 ไร่ บนทำเลยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ ซึ่งสอดรับกับความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้า/โรงงานคุณภาพสูงที่เพิ่มขึ้น และยังได้ร่วมมือกับบริษัท ไดวะ เฮ้าส์ อินดัสทรี คัมปะนี ลิมิเต็ด เปิดศูนย์โลจิสติกส์ “DPL Vietnam Minh Quang” บนพื้นที่ใช้สอย 42,330 ตร.ม. ภายในเขตอุตสาหกรรมมินห์กวาง จังหวัดฮึงเอียน ประเทศเวียดนาม ล่าสุด มีการวางศิลาฤกษ์และเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา”  นางสาวจรีพร กล่าว

ส่วนแผนการขายทรัพย์สิน และ/หรือ สิทธิการเช่าทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHART และ WHAIR รวมประมาณ 213,000 ตร.ม. คิดเป็นมูลค่าราว 5,290 ล้านบาท บริษัทฯ เตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ WHART และ WHAIR เพื่อขออนุมัติในช่วงไตรมาส 2/2567 ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดการโอนที่ดินสูงขึ้นมากกว่าสองเท่าตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอานิสงส์จากการย้ายฐานการลงทุนและการผลิตมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายที่ดินรวม 629 ไร่ (ไทย 575 ไร่ / เวียดนาม 55 ไร่) และยอดลงนาม MOU รวม 715 ไร่ (ไทย 669 ไร่ / เวียดนาม 46 ไร่) ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 2,130 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้า (Backlog) สูงถึง 1,087 ไร่ (ไทย 1,052 ไร่ / เวียดนาม 34 ไร่)

ปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายที่ดินเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินกับลูกค้า   กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่จากประเทศจีน

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งประเทศไทยและเวียดนามทั้งหมด 77,600 ไร่ รวมพื้นที่ซึ่งเปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการในประเทศไทยจำนวน 12 แห่ง อีกทั้งยังมีโครงการพัฒนานิคมฯ ใหม่และขยายนิคมฯ รวม 7 โครงการ บนพื้นที่รวมเกือบ 10,000 ไร่ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีพื้นที่นิคมฯ รวมกว่า 52,000 ไร่ ในปี 2570 สำหรับโครงการนิคมฯ ใหม่ล่าสุด ได้แก่ โครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 5 (3,400 ไร่) บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในสิ้นปี 2567 นี้

สำหรับประเทศเวียดนาม บริษัทฯ มีเขตอุตสาหกรรมที่เปิดดำเนินการแล้วและกำลังพัฒนารวม 22,815 ไร่ (3,650 เฮกตาร์) ประกอบด้วยเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน ซึ่งเฟส 1 มีผู้เช่าเกือบเต็มพื้นที่แล้ว และเฟส 2 ซึ่งมีลูกค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำได้เช่าพื้นที่ไปแล้วรวมกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่เฟส 2 จากความสำเร็จของทั้ง 2 เฟส บริษัทฯ จึงเร่งพัฒนาเฟส 3 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตคาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายเขตอุตสาหกรรมใหม่อีก 3 โครงการในจังหวัด Thanh Hoa และ Quang Nam ด้วยเช่นกัน

ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ภาพรวมผลประกอบการธุรกิจน้ำปรับตัวดีต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทฯ รับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานจากการลงทุนในบริษัทร่วมในธุรกิจสาธารณูปโภค ในไตรมาส 1/2567 เท่ากับ 771 ล้านบาท โดยมีปริมาณยอดขายและบริหารน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 40.3 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นปริมาณการจำหน่ายน้ำภายในประเทศ จำนวน 32.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากการเติบโตขึ้นของปริมาณยอดจำหน่ายน้ำทุกผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม และน้ำดิบที่มีความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้ากลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาการให้บริการน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ปริมาณการผลิต 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ให้กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ตะวันออก (มาบตาพุด) ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงเดือนกันยายนนี้

ขณะที่ปริมาณยอดขายและบริหารน้ำในประเทศเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดจำหน่ายน้ำรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ 8.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากปริมาณยอดขาย     และการบริหารน้ำของโครงการ Duong River ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายพื้นที่การให้บริการและปริมาณความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่

ธุรกิจไฟฟ้า บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากการดำเนินงานจากการลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทร่วมค้าไม่นับรวมกำไร/ขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายได้จากธุรกิจพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์  ในไตรมาส 1/2567 เท่ากับ 352 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าโดยรวมเพิ่มขึ้น จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของกลุ่มโรงไฟฟ้า GHECO-One ที่เพิ่มขึ้นจากการหยุดซ่อมบำรุงลดลง ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPPs ที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีก 16 สัญญา โดยแบ่งเป็นโครงการ Private PPA 15 สัญญา มีกำลังการผลิตประมาณ 59 เมกะวัตต์ และโครงการ EPC Service 1 สัญญา กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 มีการเซ็นสัญญาโครงการ Private PPA สะสมรวม 242 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์รวม 125 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ราว 792 เมกะวัตต์

ส่วนโครงการที่บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานในการได้สิทธิ์ เป็นผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Feed in Tariff (FiT) เฟส 1 จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 125.4 เมกะวัตต์ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้ภายในไตรมาส 2/2567

ธุรกิจดิจิทัล บริษัทฯ เดินหน้ายกระดับองค์กรในทุกมิติเพื่อก้าวสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 นี้ ภายใต้ภารกิจ “Mission To The Sun” โดยมุ่งเน้นโครงการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล การสร้างผลิตภัณฑ์ และมูลค่าเพิ่มใหม่ๆ พร้อมเสริมศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทฯ โดยโครงการที่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ โครงการ Green Logistics ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา WHA Green Mobility Platform (W-GMP) ที่รวมบริการต่างๆ สำหรับลูกค้ายานยนต์ไฟฟ้าภาคธุรกิจตั้งแต่การบริหารยานพาหนะ (Fleet Management) การวางแผนเส้นทาง (Route Optimization) ไปจนถึงการเชื่อมโยงโครงข่ายสถานี อัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (EV Roaming) โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวแพลตฟอร์ม W-GMP ได้ภายในไตรมาส 2/2567 ด้วยแพลตฟอร์มดังกล่าว บริษัทฯ จึงถือเป็นผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้ารายแรกที่ให้บริการแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศ (End-to-end process)

บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาโครงการ AI Transformation จำนวน 12 โครงการที่เน้นการนำเทคโนโลยี AI อย่าง AI & ML Data Insight, AI Cybersecurity และ Generative AI มาขับเคลื่อนองค์กร ที่เป็นการพัฒนาต่อยอดโครงการ Digital Transformation กว่า 38 โครงการของบริษัทฯ อีกด้วย

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ให้กับนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ โดยมียอดจองล้นเกินเป้ากว่า 3 เท่า สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2567 มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้เดิม และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน / เงินลงทุน / ค่าใช้จ่ายลงทุน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ.-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย