ญี่ปุ่น 12 พ.ค.-รมว.พาณิชย์ จับมือ MUJI จัดงานใหญ่กลางกินซ่า นำสินค้าภายใต้โครงการ ผ้าไทยใส่ให้สนุก ผลิตภัณฑ์อาหารไทย สปาไทย และอาหารไทย อย่างข้าวมันไก่และผัดซีอิ๊ว จัดจำหน่าย หวังดันขึ้นแท่นซอฟต์พาวเวอร์ไทย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายโนบุโอะ โดมาเอะ ประธาน CEO ของ MUJI ที่ห้าง MUJI สาขากินซ่า ประเทศญี่ปุ่น ช่วงเย็นวานนี้ (11 พ.ค.67) เพื่อต่อยอดการเยือนญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และห้าง MUJI ทั้งในไทยและญี่ปุ่น โดยจัดเทศกาล Thai Festival ที่สาขากินซ่า ประกอบด้วยโซน 1.สินค้าภายใต้โครงการ ผ้าไทยใส่ให้สนุก 2.ผลิตภัณฑ์อาหารไทย 3.ผลิตภัณฑ์สปาไทย 4.ขายอาหารไทย ในเมนู ข้าวมันไก่และผัดซีอิ๊ว ซึ่งได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างสูง และขอขอบคุณ MUJI ที่ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์จัดเทศกาลไทยภายใต้ชื่อ “Thai Festival” ที่ห้าง MUJI สาขากินซ่า ตลอดเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและพาณิชย์จังหวัด ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการคัดเลือกสินค้าไทยไปจำหน่ายในสาขาของห้าง ทั้งสาขาไทย ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีความยินดีที่จะช่วยสนับสนุนความร่วมมือในทุกด้าน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทาง MUJI ได้ร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น บุรีรัมย์ สกลนคร อุดรธานีให้คำแนะนำกับผู้ผลิตสินค้าภายในโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และร่วมคัดสินค้าไปวางจำหน่ายในร้านประเทศไทย และญี่ปุ่น ทาง MUJI มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจเน้นความยั่งยืนตามนโยบาย ESG (Environment, Social,and Governance) ให้ความสำคัญกับการรีไซเคิล คำนึงถึงการเลือกวัสดุ การตรวจสอบกระบวนการผลิต และบรรจุภัณฑ์เป็นสำคัญ ซึ่งสินค้าภายใต้โครงการ“ผ้าไทย ใส่ให้สนุก” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตั้งพระทัยมั่นในการสืบสานฟื้นคืนภูมิปัญญาการถักทอผืนผ้าและงานหัตถศิลป์ให้ดำรงอยู่คู่ชุมชน นำมาซึ่งการสร้างงานสร้างรายได้ สร้างชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน และกระทรวงพาณิชย์ก็ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกัน ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย จึงได้ขอให้ทางบริษัทช่วยพิจารณาสนับสนุนนำสินค้าไทยที่มีศักยภาพมาจัดจำหน่ายผ่านร้าน MUJI ในประเทศไทย ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆต่อไปด้วย ซึ่งทาง MUJI ตอบรับที่จะร่วมมือกันมากขึ้นในอนาคต
“สินค้าต่างๆ ที่นำมา เป็นสินค้าพื้นบ้านแต่เพิ่มดีไซน์ให้เหมาะสมกับคนหนุ่มสาวกับยุคสมัย มีคุณภาพดี มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ ส่งเสริมศิลปะวัฒนะธรรมท้องถิ่น ทาง MUJI ยินดีที่ได้นำผ้าไทยมาจัดจำหน่าย ซึ่งหลังจากนี้จะมีความร่วมมือกันอีกในอนาคต โดย MUJI เป็นตลาดที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลก มีสาขาทั่วโลก ขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับประเทศไทย“ นายภูมิธรรมกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังได้เดินเยี่ยมชมโซนต่างๆ ที่จัดแสดงในห้าง MUJI สาขากินซ่า ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก และได้ชิมเมนูอาหารไทยที่ทาง MUJI จัดจำหน่ายในช่วงเทศกาล Thai Festival ทั้งเมนู ข้าวมันไก่และผัดซีอิ๊ว อันจะเป็นการช่วยส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เข้าถึงผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน MUJI มีสาขาทั่วโลกกว่า 1,000 แห่ง(มีสาขาในประเทศไทย 32 สาขา) มีสินค้ากว่า 7,000 รายการ และมียอดขายทั่วโลก 121,000 ล้านบาท/ปี โดยปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทราว 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนจะขยายสาขาในไทยไปยังส่วนภูมิภาคเพิ่มเติม โดยได้เปิดสาขาที่จังหวัดเชียงใหม่แล้ว และสนใจขยายสาขาไปยังภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดขอนแก่นเพิ่มเติมอีกด้วย.-514-สำนักข่าวไทย
