กรุงเทพฯ 30 เม.ย.-โฆษก ก.พลังงานออกโรงเตือน”บริหารจัดการใช้ไฟ”หน้าร้อน ย้ำมาตรการ 4 ป ลดบิลค่าไฟพุ่ง ชี้พีคไฟฟ้ารอบใหม่ยังเกิดกลางคืนเหตุโซล่าร์เซลล์ช่วยผลิตไฟได้เฉพาะช่วงกลางวัน ส่วน Reserve Margin ลดลงจากปีที่แล้วเหลือ25.8%
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึง สถานการณ์การใช้ไฟฟ้า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ประเทศไทยมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค)ของ ระบบ 3 การไฟฟ้า อยู่ที่ 36,699.9 เมกะวัตต์ เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2567 เวลา 21.00 น. ซึ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์การใช้ไฟฟ้าของประเทศไทย โดยจะเห็นได้ว่าเป็นการเกิดพีคในช่วงเวลากลางคืน เป็นช่วงที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หรือ Solar Cell ไม่สามารถที่จะผลิตไฟฟ้าออกมาช่วยรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในระบบได้
ทั้งนี้ ตัวเลขระดับกำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) ซึ่งเป็นการคำนวณจาก กำลังผลิตไฟฟ้าที่คาดว่าจะสามารถผลิตได้จริงของโรงไฟฟ้าแต่ละชนิดในช่วงที่จะเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) เทียบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด พบว่า ประเทศไทยยังคงมีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง อยู่ที่ ประมาณ 25.8% ลดลงจากปีที่ผ่านมา (ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด อยู่ที่ 34,826.5 เมกะวัตต์ ในเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งคิดเป็นกำลังผลิตสำรองประมาณ 30.9%) อย่างไรก็ดีกระทรวงพลังงานจะติดตามการใช้ไฟฟ้าและการสำรองไฟฟ้าของประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป
“ไฟฟ้ามั่นคงเพียงพอ ค่าไฟเอฟทีก็ไม่ขยับขึ้น แต่จากร้อนจัด ประชาชนใช้แอร์เพิ่ม ค่าไฟฟ้าเป็นแบบอัตราก้าวหน้าหรือขั้นบันได ยิ่งใช้แยอะหน่วยท้ายๆจะจ่ายแพง ประกอบกับยิ่งร้อน แอร์ทำงานหนักกินไฟเพิ่มอีก 3 % ดังนั้น หากแต่ละบ้านบริหารจัดการการใช้ไฟ เช่น เปิดแอร์อุณภูมิสูง 26-27 องศาเซลเซียส ควบคู่พัดลม ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์ที่เหมาะสม ปิดไฟถอดปลั๊กที่ไม่ใช้ ก็จะทำให้รายจ่ายค่าไฟฟ้าลดลง” นายวีรพัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ ทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยประหยัดพลังงานของประเทศได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปิด ปรับ ปลด และการเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานสูง เพื่อให้ทุกคนมีไฟฟ้าใช้อย่างยั่งยืน
1. ปิด ไฟดวงที่ไม่จำเป็น
2. ปรับ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศจาก 25 องศา เป็น 26 องศา จะช่วยประหยัดไฟได้ถึง 10%
3. ปลด ปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งที่ไม่ใช้งานจะช่วยลดการสูญเสียค่าไฟโดยไม่จำเป็น
4. เปลี่ยน มาใช้หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง จะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศ และค่าไฟฟ้าต่อเดือนของคุณได้.-511-สำนักข่าวไทย