กอช. หนุนการออมภาคประชาชนเพื่อบำนาญ​ยามชราภาพ​

กรุงเทพฯ​ 29 เม.ย. -​ กอช.ผนึกกำลังสมาคม อบจ.​สมาคม อบต. และชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ส่งเสริมการออมเพื่อ​ให้มีบำนาญภาค​ประชาชนยามชราภาพ​


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (อบจ.) สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย (อบต.) และชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แห่งประเทศไทย ในการกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการออมเพื่อยามชราภาพ

นายจุลพันธ์ กล่าว​ว่า​ ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) จากอัตราการเกิดที่ลดลง ประกอบกับประชากรมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนของประชากรที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ประชาชนทุกคนจึงควรมีการเตรียมพร้อมในช่วงวัยยามชราภาพ โดยรัฐบาลได้มีนโยบายเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ เป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ให้ประชาชนได้มีความมั่นคงในบั้นปลายชีวิตหลังอายุ 60 ปี โดยกำหนดกิจกรรมที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชน ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมนั้นคือ การมีระบบการออมเพื่อสร้างหลักประกันรายได้ยามชราภาพที่เพียงพอ และครอบคลุมในกลุ่มแรงงานทั้งในและนอกระบบ ซึ่งมีเป้าหมายให้คนไทยตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเงิน พร้อมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงวัย จึงเป็นภารกิจที่ต้องเร่งผลักดัน ซึ่งกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เป็นกองทุนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ถือเป็นกองทุนการออมภาคประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออม และสร้างหลักประกันทางด้านรายได้ในยามชราภาพให้กับกลุ่มแรงงานนอกระบบ เช่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร ชาวไร่ชาวนา อสม. พ่อค้าแม่ค้า ได้มีสวัสดิการบำนาญ รวมทั้งสร้างวินัยการออมให้ประชาชนคนไทยตั้งแต่วัยเด็กให้สามารถเข้าถึงระบบการออมเพื่อการเกษียณอายุอย่างทั่วถึง สอดรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมสูงอายุ อีกทั้งสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันความรอบรู้ทางการเงินของประชาชนไทย (Financial Literacy)



กอช. ได้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง รณรงค์ให้ประชาชน ในพื้นที่เข้ามาเป็นสมาชิก กอช. ผ่านการขับเคลื่อนของผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และสามารถสมัครผ่านที่ว่าการอำเภอ อีกทั้งตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการออมเงินเพื่อการชราภาพ รวมถึงการกระตุ้น ส่งเสริม และสนับสนุนให้ประชาชนที่มีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี ที่มีสิทธิสมัคร ได้เข้าถึงสวัสดิการผ่านการออมเงินกับ กอช. โดยเริ่มต้นออมเพียง 50 บาท/ต่อครั้ง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และรัฐสมทบ 100% (ไม่เกิน 1,800 บาท/ปี)

ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของ กอช. สอดคล้องกับเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงินที่ต้องการให้คนไทยตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเงินและเข้าถึงข้อมูลทางการเงิน รวมถึงมีความรู้และทักษะทางการเงินเพียงพอที่จะนำไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม กอช. และหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้ดำเนินการขับเคลื่อนการหาสมาชิกอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีแรงงานนอกระบบอีกจำนวนมากที่ยังไม่มีการออมเพื่อการเกษียณ และเข้าถึงสวัสดิการบำนาญเพื่อเป็นการต่อยอดและขยายผลการดำเนินงาน จึงนำไปสู่การขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับหน่วยงานในระดับพื้นที่อีก 3 แห่ง ประกอบด้วย สมาคม อบจ. สมาคม อบต. และชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ในการช่วยกันผลักดัน และส่งเสริมให้ประชาชนที่มีสิทธิ์ได้เข้ามาเป็นสมาชิก รวมถึงส่งเสริมความรู้ด้านการวางแผนทางการเงินให้ทุกคนเกิดความตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการออมเงินในอนาคต

นายชูพงศ์ คำจวง นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคม อบจ. จะมีการจัดกิจกรรม อบจ. สัญจรในพื้นที่ เพื่อพบปะประชาชนในพื้นที่ ที่ยังไม่มีสวัสดิการบำนาญไว้ใช้ในยามเกษียณ ให้เข้าร่วมกิจกรรมด้านการส่งเสริมวินัยการออมของทาง กอช. และพร้อมประชาสัมพันธ์ข่าวสาร รวมทั้งสิทธิประโยชน์ ให้แก่บุคคลที่มีสิทธิ สมัครเป็นสมาชิก กอช. หรือคนที่เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ให้มีการออมเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รับเงินบำนาญตลอดชีพเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์


รองศาสตราจารย์ วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พร้อมสานต่อและสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนการออมเงิน และสิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก กอช. โดยมุ่งเน้นไปที่ประชาชนในพื้นที่ และบุคลากรของสมาคม อบต. พนักงาน ลูกจ้าง ที่ยังไม่มีสวัสดิการด้านเงินบำนาญไว้ใช้ในยามชราภาพจากรัฐบาล ให้มาสมัครเป็นสมาชิก กอช. และส่งเสริมให้มีการออมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างวินัยด้านการออมในพื้นที่

นายยงยศ แก้วเขียว ประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั่วประเทศมีอยู่จำนวนประมาณ 270,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิก กอช. แล้ว แต่ยังคงมี อีกจำนวนประมาณ 60,000 ราย ที่ยังไม่มีสวัสดิการบำนาญ ให้มาสมัครเป็นสมาชิก กอช. จะสนับสนุนและส่งเสริมให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ขยายผลในหมู่บ้านของตนเอง เข้าร่วมกิจกรรมด้านส่งเสริมวินัยการออม และสร้างความรู้และการตระหนักถึงความสำคัญในการวางแผนการเงิน ให้กับประชาชนในพื้นที่ ให้มีความตระหนักรู้มากยิ่งขึ้น

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทยและเครือข่ายภายใต้การกำกับดูแลเป็นอย่างดี ในการขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มเป้าหมายสมาชิก ร่วมกันผลักดันทุกภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะความร่วมมือในครั้งนี้จะได้ครอบคลุมในพื้นที่ชุมชนมากขึ้นเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการวางแผนทางการเงิน ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 2.59 ล้านคน มูลค่ากองทุนประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท

กอช. นับเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงิน เพียงเริ่มออมเพียง 50 บาท/ครั้ง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และมีรัฐสมทบตามช่วงอายุ ดังนี้
• อายุ 15 – 30 ปี รัฐสมทบ 50% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาท/ปี
• อายุ 30 – 50 ปี รัฐสมทบ 80% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาท/ปี
• อายุ 50 – 60 ปี รัฐสมทบ 100% ของเงินสะสม สูงสุดไม่เกิน 1,800 บาท/ปี

นอกจากนี้ การออมกับ กอช. ยังมีความยืดหยุ่น ไม่จำเป็นต้องส่งเงินออมเท่ากันทุกปี โดยเงินออมสามารถนำไปยื่นลดหย่อนภาษีประจำปีได้และยังได้รับการค้ำประกันผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่ออายุครบ 60 อีกด้วย
กอช. มีช่องทางการให้บริการที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่หน่วยรับสมัครและส่งเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ สถาบันการเงินชุมชน เคาน์เตอร์เซอร์วิส โลตัส ไปรษณีย์ไทย ตู้บุญเติม หรือช่องทางการให้บริการรูปแบบออนไลน์ อาทิ แอปพลิเคชัน ดังต่อไปนี้ กอช. , เป๋าตัง , MyMo , กรุงไทยเน็กซ์ , เคพลัส , เป๋าตัง , ออมเพลิน อีกทั้งยังสามารถส่งเงินออมสะสม ผ่านบริการบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (Direct Debit) รายเดือน ได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์

สุดท้ายนี้ กอช. แนะนำให้สมาชิกส่งเงินออมเพียง 5 ปี ปีละ 30,000 บาท ก็สามารถมีสิทธิรับบำนาญตลอดชีพได้ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิ และสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา ทางแอปพลิเคชันของ กอช. ช่องทางไลน์แอด กอช. @nsf.th หรือสายด่วนเงินออม 02 049 9000. -512​ – สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เร่งคุมเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มควันพวยพุ่ง

ลาดกระบัง 12 พ.ค.- ระดมกำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ล่าสุดยังมีกลุ่มควันจำนวนมาก คาดความเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อเวลา 16.24 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนฉลองกรุง ขนานข้างเป็นแนวยาวติดกับแนวซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นโรงงาน 2 ชั้น แนวราบยาวจากพื้นดิน ยกพื้นสูงเป็นชั้นลอย โดยทำห้องใต้ดินไว้เก็บของและวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงตัวสินค้า หากเข้ามาในซอยฉลองกรุง 55 จะเป็นพื้นกำแพงของตัวโรงงานอยู่ด้านขวามือ จุดต้นเพลิง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปผจญเหตุ เล่าว่า อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน หลังจากเกิดเหตุไม่สามารถที่จะลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูงต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษรวมถึงหน้ากากออกซิเจน ในการเข้าไป โดยจะเห็นได้ว่าตามช่องต่างๆ (ช่องกำแพง ช่องท่อ ช่องประตู) ก็จะมีกลุ่มควันนั้นลอยขึ้น และออกมาด้านนอก มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้น ยังไม่สามารถประเมินค่าได้ ต้องรอให้เหตุการณ์สงบลง ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เขตลาดกระบัง ร่วมกับ สน.ฉลองกรุง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตความรับผิดชอบ ก็จะมีการเรียกพูดคุย และสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ รวมถึงการประเมินมูลค่าทรัพย์สินความเสียหาย โดยตอนนี้ทางเจ้าของโรงงานได้ทราบเรื่องแล้ว ทางด้าน กรุงเทพมหานคร […]

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]