“ไชยา” พ้อเสียดายโอกาสทำงาน ไม่ทราบเหตุผลที่ถูกปรับออกจากครม.

กรุงเทพฯ 28 เม.ย. – “ไชยา” เผย เสียดายโอกาสทำงานช่วยเหลือเกษตรกร ชี้ยังไม่ทราบเหตุผลที่ถูกปรับออกจากครม. จะมองว่า ผลงานน้อยไม่ได้เพราะไม่ได้กำกับดูแลหน่วยงานกระทรวงเกษตรฯ อย่างเบ็ดเสร็จ แต่เข้าใจในเหตุผลและความจำเป็นของนายกรัฐมนตรี ส่วน “อนุชา” งดภารกิจต่างจังหวัดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว


นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยถึงการถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เสียดายโอกาสที่จะทำงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรในภาคอีสานเนื่องจากเป็นผู้แทนราษฎรมา 9 สมัย เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี เป็นเหมือนตัวแทนของคนอีสานมาบริหารงานกระทรวงเกษตรฯ จึงมุ่งหวังที่จะทำงานช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะขณะนี้งบประมาณประจำปี 2567 ออกมาแล้ว แต่ไม่มีโอกาสขับเคลื่อนงานด้านการแก้ไขภัยแล้ง การแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร รวมถึงโครงการส่งออกโคมีชีวิตไปจีนตามที่ตั้งใจไว้จึงขอโทษคนอีสานด้วย

นายไชยากล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ ว่า เหตุผลที่ถูกปรับออกจากครม. คืออะไร แต่ยอมรับว่า การทำงานระยะแรก มีอุปสรรคเพราะกำกับดูแลหน่วยงานเล็กๆ 4 หน่วยงานได้แก่ กรมปศุสัตว์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมหม่อนไหม และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย แต่ไม่ได้กำกับดูแลแบบเบ็ดเสร็จเนื่องจากไม่สามารถบริหารบุคลากร รวมถึงทรัพยากรต่างๆ ของหน่วยงานซึ่งเป็นหลักการบริหารทั่วไป แม้การบริหารงานของภาคเอกชนยังต้องได้รับอำนาจเต็มที่ ข้อจำกัดในการทำงานเหล่านี้ พรรคเพื่อไทยทราบ แต่ไม่ได้ช่วยจัดการอะไร


ทั้งนี้ที่ผ่านมา ไม่ได้ให้ข้อจำกัดดังกล่าว เป็นอุปสรรค โดยมีวิธีบริหารจัดการของตัวเอง แต่กว่าจะปรับให้เป็นเนื้อเดียวกันได้ ใช้เวลาพอสมควรแต่ว่า หลังจากที่ได้บริหารหน่วยงานที่กำกับดูแลไปสักระยะ งานขับเคลื่อนด้วยดี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าใจดีและไม่มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ

วานนี้มีโอกาสติดตามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีซึ่งตรวจราชการที่จังหวัดจันทบุรี นายกรัฐมนตรีได้แจ้งว่า มีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องปรับครม. โดยนายกรัฐมนตรีบอกด้วยว่า อยากให้สนับสนุนงานของรัฐบาลในการดูแลประชาชนในภาคอีสานซึ่งพร้อมร่วมมือเพื่อประโยชน์ของประชาชนในนามพรรคเพื่อไทย

นายไชยากล่าวว่า ยอมรับในอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการปรับครม. โดยเข้าใจถึงข้อจำกัดเกี่ยวกับการเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค หากถูกประเมินว่า ผลงานน้อย ยืนกระต่ายขาเดียวว่า ไม่ใช่เพราะทำงานเต็มที่ แต่มีข้อจำกัดจนบดบังบทบาท จะเอามาเป็น KPI การทำงานไม่ได้ นอกจากนี้ยังเห็นว่า มีรัฐมนตรีบางคนที่แทบไม่ได้ออกสื่อเลย กลับอยู่รอดปลอดภัย อีกประการหนึ่งตนเป็นสส. ที่ไม่มีฐานนายทุนสนับสนุน มีแต่ฐานเสียงของประชาชนในภาคอีสานที่เลือกตั้งมาและทำงานทุกวินาทีในตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมย้ำว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่เสียใจ แต่เสียดายโอกาสสานต่อการทำงานจึงขอฝากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดูแลแก้ไขปัญหาปากท้องของคนอีสานด้วย


สำหรับวันพรุ่งนี้ (29 เมษายน 2567) นายไชยามีกำหนดการเป็นประธานเปิดโครงการเร่งรัดกำจัดโรคพิษสุนัขข้าในพื้นที่ปทุมธานี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี แม้จะไม่ได้ไปได้ในฐานะรัฐมนตรีแล้ว แต่จะไปด้วยสปิริตในฐานะผู้แทนราษฎร

ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกคนหนึ่งได้งดภารกิจในต่างจังหวัดตั้งแต่มีกระแสข่าวอาจถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เดิมมีกำหนดการตรวจราชการที่จังหวัดนครพนมในวันที่ 25-26 เมษายน ในสัปดาห์ที่ผ่านมานายอนุชากล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีเพียงสั้นๆ ว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี โดยในพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว

นายอนุชากำกับดูแลหน่วยงาน 4 หน่วยงานได้แก่ กรมการข้าว กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และองค์การสะพานปลา โดยยืนยันว่า ได้ทำงานในหน่วยงานที่กำกับดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนที่ไม่ค่อยออกมาให้สัมภาษณ์ จนสื่อมวลชนมองว่า ผลงานน้อยนั้นเป็นเพราะต้องการทำงานเงียบๆ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”