มณฑลยูนนาน 28 เม.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์ปลื้มผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ไม่ขัดที่ไทยขอเพิ่มเวลาทำงานที่หน้าด่านโม่หาน(จีน)และด่านบ่อเต็น(ลาว)ให้เปิดการทำงานหน้าด่านช่วงเย็นเพิ่มเป็นถึง 3 ทุ่มเพื่อช่วยกระจายสินค้าผลไม้หน้าด่านเพิ่มอีก 3 ชั่วโมง หวังลดการรอหน้าด่านไปได้อีก 2 วัน ส่งผลดีต่อผลไม้ไทยมาจีน แถมเปิดทางส่งออกโคมีชีวิต-แช่แข็ง เพิ่มมูลค่าการค้า และจีนยังสนใจเปิดบินตรง สิบสองปันนา-กรุงเทพฯ ยกระดับการค้า-ท่องเที่ยวอีกด้วย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาปฎิบัติราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2567 โดยได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน (Mr.Dao Wen)ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน และคณะ ที่ห้องประชุมโรงแรม Mekong River Jing Land Hotel สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ตนนำคณะเดินทางมาที่สิบสองปันนา เนื่องจากเป็นเขตปกครองตนเองที่อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลยูนนานของจีน และอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด มีความสำคัญอย่างยิ่งในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า อาทิ พืชผัก ผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้แปรรูป เครื่องเทศ และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ซึ่งตนได้หารือกับท่านผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ถึงความต้องการที่ไทยจะส่งออกโคมีชีวิตจากไทยไปยังจีน โดยขอให้ช่วยผลักดันการจัดทำพื้นที่เขตปลอดโรค ซึ่งขณะนี้ทั้งฝ่ายไทยและ สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of China :GACC) อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกัน
และได้หารือถึงการขนส่งสินค้าจากด่านท่าเรือเชียงแสน ผ่านแม่น้ำโขงไปยังท่าเรือกวนเหล่ยของจีน ซึ่งเห็นว่าด่านท่าเรือกวนเหล่ย จะเป็นด่านที่มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะรองรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์โคแช่แข็งได้ในอนาคต ซึ่งหากสำเร็จก็จะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย สามารถลดต้นทุนการขนส่งและสะดวกรวดเร็วขึ้น โดยท่านผู้ว่าฯได้แจ้งว่ากำลังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางนี้ให้มีศักยภาพรองรับการค้าในอนาคตเพื่อเป็นประโยชน์ต่อกันทั้งสองฝ่ายต่อไป โดยขอให้เพิ่มเวลาทำงานที่หน้าด่านโม่หาน(จีน)และด่านบ่อเต็น(ลาว)ให้เปิดการทำงานหน้าด่านจากเย็นเพิ่มเป็นถึง 3 ทุ่มเพื่อช่วยกระจายสินค้าผลไม้หน้าด่านเพิ่มเป็นอีก 3 ชม.จะลดการรอหน้าด่านไปได้อีก 2 วันและอยากให้เพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงฤดูผลไม้ ซึ่งทางผู้ว่าฯไม่ขัดข้องคำขอดังกล่าวของไทยแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทางผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ได้ขอให้ฝ่ายไทยให้การสนับสนุนการเปิดเส้นทางการบิน สิบสองปันนา-กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ได้มีเส้นทางบินตรง เชียงใหม่-สิบสองปันนาแล้ว วันละ 1 ไฟล์ท หากเปิดเส้นทางการบินเพิ่มจะเป็นประโยชน์ ต่อการเดินทางท่องเที่ยว และช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศได้ ซึ่งตนได้รับเรื่องไว้ และในช่วงบ่ายวันนี้(28 เม.ย.) จะเดินทางไปเยี่ยมชมด่านโม่ฮาน และด่านรถไฟโม่ฮาน เพื่อรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐจีนเกี่ยวกับสถานการณ์การขนส่งสินค้าผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน และวิธีการตรวจปล่อยผลไม้ไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ โดยสิบสองปันนา เป็น 1 ใน 16 เขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของมณฑลยูนนาน ในปี 2566 มูลค่าการค้าระหว่างจีนและไทยประมาณ 126,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการค้าระหว่างเขตฯสิบสองปันนากับไทย ราว 7,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมณฑลยูนนานเป็นมณฑลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของจีน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นมณฑลที่ไม่มีทางออกทะเล แต่มีพรมแดนติดกับเมียนมาร์ เวียดนาม และ สปป.ลาว จึงมีความโดดเด่นด้านการค้าชายแดน และตั้งอยู่ใกล้ไทยมากที่สุด โดยใช้เส้นทางถนน R3A ซึ่งการส่งเสริมการค้ากับมณฑลยูนนานจะมีความสำคัญอย่างสูงต่อการเชื่อมโยงการค้า การคมนาคม ทั้งทางบก อากาศ และทางเรือ ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น .-514-สำนักข่าวไทย