ม.กรุงเทพธนบุรี 27 เม.ย. – สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย-กฟผ.-ม.กรุงเทพธนบุรี จัดเเข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดเเปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต ครั้งที่ 3 ชิงถ้วยรางวัลนายกรัฐมนตรี ร่วมสานต่อภารกิจมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunity ครั้งที่ 3 ในระหว่างวันที่ 26 – 27 เมษายน พ.ศ. 2567 โดยมีนายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย นายสมศักย์ ปรางทอง ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี) พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
โดยการแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าแข่งขันรวมทั้งสิ้น 43 ทีม แบ่งเป็นทีมประเภทสถาบันการศึกษา 31 ทีม และเป็นทีมประเภทบุคคลทั่วไป 12 ทีม ซึ่งผลการแข่งขัน ประเภทกลุ่มสถาบันการศึกษา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม S27 PTL EV ได้รับถ้วยรางวัลสลักนามนายกรัฐมนตรี เเละเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ทีม S15 CHARAWAN RACING 2024 ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล เเละรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ได้เเก่ ทีม S07 UTCC ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล
ส่วนประเภทกลุ่มประชาชนทั่วไป รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม G08 วิศวกร ภาคกลาง ได้รับถ้วยรางวัลสลักนามนายกรัฐมนตรี และเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ทีม G03 Phraya Phichai EV Bike ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล เเละรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ ทีม G04 รถไฟฟ้าสิงห์บุรี ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล
ในปีนี้ยังมี 2 รางวัลพิเศษด้านนวัตกรรม ได้เเก่ รางวัลนวัตกรรมด้านแบตเตอรี่ เเละ รางวัลนวัตกรรมด้านความปลอดภัยในการขับขี่ (Safety) ซึ่งทีมที่คว้ารางวัลดังกล่าวไปได้ ได้เเก่ ทีม S23 ME Electric Bike RMUTT มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี เเละทีม S06 Lion Dynamic มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น พร้อมรับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท ต่อทีมอีกด้วย
การแข่งขันภาคสนามวันแรก แบ่งออกเป็น 3 สถานีหลัก เพื่อเปิดสถานีทดสอบรถ ได้แก่ E1 สถานีตรวจสภาพทางเทคนิค E2 สถานีตรวจสอบความเป็นฉนวน และ UNR 136 เเละ E3 สถานีทดสอบน้ำ ทั้งนี้ ได้มีจุดทดลองสนามเเข่งขัน เพื่อเปิดให้ทีมที่เข้าเเข่งขันได้ทดสอบพร้อมแจกอุปกรณ์วัดค่าพลังงานโดยการให้แต่ละทีมสามารถยืมอุปกรณ์ดังกล่าวไปทดสอบค่าพลังงานได้ พร้อมมีการทดสอบวิ่งรอบสนามแข่งขันรอบใหญ่ระยะทาง 1 กม. ต่อรอบ เเละในการเเข่งขันวันที่ 27 เมษายน จะมีการเก็บคะแนนเป็นระบบ Checkpoint ต่าง ๆ ก่อนเข้าสู่สนามแข่งขัน จำนวนทั้งหมด 4 จุด Checkpoint
นายสมศักย์ ปรางทอง ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการด้านการใช้พลังงานและสิ่งแวดล้อม กฟผ.เผยว่า กฟผ. ได้ศึกษาและพัฒนาเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานขั้นสูงสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า นำไปสู่การติดฉลากเบอร์ 5 ให้กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และสำหรับโครงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคตที่ผ่านมา กฟผ. ได้นำองค์ความรู้ที่ได้ไปขยายผลการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ กฟผ. และขยายผลการพัฒนาทักษะการดัดแปลงและซ่อมบำรุงให้กับประชาชนผู้สนใจอีกด้วย ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งที่ 3 นี้ กฟผ. มีความยินดีและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกิจกรรม และเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไป ได้เเสดงศักยภาพด้านวิศวกรรมและความปลอดภัยในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เพื่อต่อยอดในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ตลอดจนเป็นการสร้างโมเดลทางธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นภายในประเทศ อันก่อให้เกิดการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) และโมเดลธุรกิจ BCG ที่จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
รองศาสตราจารย์ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี) เผยว่า การจัดกิจกรรมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต ครั้งที่ 3 นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาทักษะ วิชาการ และความพร้อมของทรัพยากรบุคคล เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งยังมีส่วนช่วยผลักดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก สอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ในการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่บุคลากร รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาสังคมและประเทศชาติในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการตอบรับนโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่าตามที่ประเทศไทยมีเป้าหมายในการขยับเข้าไปสู่ Carbon Neutrality หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในภาคการขนส่งเป็นอีกมิติหนึ่งที่มีส่วนสำคัญ รัฐบาลจึงได้เร่งขับเคลื่อนนโยบายสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบาย 30@30 ที่ตั้งเป้าการผลิตยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle: ZEV) ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดภายในปี ค.ศ. 2030 การจัดกิจกรรมการเเข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจเเห่งอนาคตนี้ เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการส่งเสริมและสนับสนุนการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนอกจากไม่ปล่อยมลพิษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงอีกด้วย กิจกรรมนี้จึงเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยให้ประเทศไทยมีปริมาณการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และบรรลุตามเป้าหมายที่ภาครัฐกำหนดไว้ นอกจากนี้ยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้เสนอแนวคิดและนวัตกรรมในการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ พร้อมทั้งผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังมีการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่ สอดรับกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยที่ต้องการให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าป้อนสู่ตลาดโลก.-516-สำนักข่าวไทย