เอสซีจีโชว์กำไรไตรมาส1 กว่า 2.4 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 25 เม.ย.-เอสซีจี เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้ 124,266 ล้านบาท กำไร 2,425 ล้านบาท เดินหน้าแนวทาง Inclusive Green Growth มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจกรีน ควบคู่การสร้างสังคม Net Zero

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า ผลประกอบการเอสซีจี ไตรมาส 1 ปี 2567 มีแนวโน้มดีขึ้น แม้เศรษฐกิจโลกผันผวน อุตสาหกรรมปิโตรเคมีอยู่ในช่วงอ่อนตัว แต่เอสซีจีสามารถบริหารต้นทุนได้ดี นำเสนอนวัตกรรมกรีนต่อเนื่องสู่ตลาด ส่งผลให้มีรายได้ 124,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อน และมี EBITDA (กำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย โดยรวมเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม) 12,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาสก่อน และกำไรสำหรับงวด 2,425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,559 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการพัฒนานวัตกรรมกรีนให้โดนใจลูกค้า ฟังก์ชันตอบโจทย์การใช้งาน ช่วยลดคาร์บอนซึ่งดีต่อโลก อาทิ ปูนคาร์บอนต่ำ พลาสติกรักษ์โลก บรรจุภัณฑ์ยั่งยืนที่ใช้ซ้ำ รีไซเคิลได้ เห็นได้จากยอดขาย SCG Green Choice ซึ่งอยู่ที่ 65,782 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 53 ของยอดขายทั้งหมด (เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 1,114 ล้านบาท) ขณะเดียวกันยังลดต้นทุนได้ดี ใช้กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยโรงงานปูนซีเมนต์ในไทยเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทนได้ถึงร้อยละ 47 นอกจากนี้ หุ้นปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ยังได้รับเลือกให้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เป็นช่องทางใหม่ให้นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้น SCC และผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ


เอสซีจี เร่งเดินหน้าต่อตามแนวทาง Inclusive Green Growth มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจกรีน ควบคู่การสร้างสังคม Net Zero พัฒนานวัตกรรมกรีนเพื่อป้อนตลาดโลก ซึ่งมีความต้องการสูงและเติบโตได้อีกมาก ล่าสุดปูนคาร์บอนต่ำ (เจเนอเรชัน 2) ที่ช่วยลดคาร์บอนได้ร้อยละ 15-20 จะพร้อมจำหน่ายแล้ว นอกจากนั้นเตรียมรับเศรษฐกิจในประเทศและภูมิภาคที่กำลังฟื้นตัว โดยขยายการลงทุนในตลาดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างภูมิภาค SAMEA (เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา) ส่วนโครงการลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals – LSP) จะกลับมาเดินเครื่องทดสอบทั้งโรงงาน เพื่อสร้างความพร้อมในการผลิตเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงในไตรมาส 3 สำหรับธุรกิจแพคเกจจิ้ง หรือ SCGP สร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การใช้วัตถุดิบกระดาษรีไซเคิลและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการวัตถุดิบ การส่งเสริมการปลูกไม้ยูคาลิปตัสแบบครบวงจร เพื่อให้ได้วัตถุดิบคุณภาพ

ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน พัฒนานวัตกรรมปูนซีเมนต์หลากหลายประเภทตามการใช้งาน ล่าสุดการใช้ ‘ปูนคาร์บอนต่ำ’ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 85 และวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ จะเปิดตัวปูนคาร์บอนต่ำ (เจเนอเรชัน 2) ซึ่งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ร้อยละ 15-20 เทียบเท่ามาตรฐานสากล พร้อมตั้งเป้าปีนี้ เปลี่ยนกระบวนการผลิตทุกโรงงานปูนซีเมนต์ในไทยให้เป็นปูนคาร์บอนต่ำ (เจเนอเรชัน 2) ขณะเดียวกันยังต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำอื่น ๆ ด้วย อาทิ ‘คอนกรีตคาร์บอนต่ำ ซีแพค’ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตได้อย่างน้อย 25 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 25 ต้น สำหรับทุกการใช้งานคอนกรีต 10 ลูกบาศก์เมตร ‘เสือ เดคอร์ คาร์บอนต่ำ’ ปูนซีเมนต์สำเร็จรูปสูตรคาร์บอนต่ำ สำหรับงานหล่อพื้นหรือฉาบตกแต่งผนัง ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลงร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ รวมทั้งเสิร์ฟปูนซีเมนต์ให้ลูกค้าทุกเซกเมนต์ นอกจากนี้ โรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศได้เพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทนถึงร้อยละ 47 ส่วนโรงงานปูนซีเมนต์ทุ่งสงที่ได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อรองรับการใช้เชื้อเพลิงทดแทน


ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง มุ่งพัฒนาสินค้าวัสดุก่อสร้างและโซลูชันเพื่อการอยู่อาศัยที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า อาทิ ‘บ้านเอสซีจี ไฮม์ High Ceiling’ แบบบ้านใหม่สไตล์โมเดิร์น มีพื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ เพิ่มมุมพักผ่อนกลางบ้าน พร้อมโถงขนาดใหญ่ Double Space และยังคงคุณภาพการก่อสร้างและเทคโนโลยีการอยู่อาศัยแบบเอสซีจี ไฮม์ที่ลูกค้าไว้วางใจ ‘หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่นคลิปล็อค 700’ ออกแบบให้ติดตั้งด้วยระบบคลิปล็อค (Clip Lock) ซ่อนหัวสกรู หมดปัญหารั่วซึมบริเวณหัวสกรู เตรียมจำหน่ายไตรมาส 2 ‘SCG Modeena COFF’ วัสดุตกแต่งผนังไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลจากกระบวนการผลิตและวัสดุเหลือใช้จากธุรกิจอื่นถึงร้อยละ 48 ทดแทนการใช้ Virgin Fiber ลดการปล่อยคาร์บอน แต่คงความแข็งแรง ทนทาน สวยงาม ธุรกิจเอสซีจี ดิสทริบิวชั่น แอนด์ รีเทล รุกธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงอย่างต่อเนื่อง อาทิ ภูมิภาค SAMEA ซึ่งมีค่า GDP เฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 70 และมีประชากรรวมกันมากกว่าร้อยละ 40 ของโลก โดยมีการตั้งสำนักงานของ SCG International ที่ซาอุดิอาระเบีย เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการซัพพลายเชนให้ลูกค้าแบบครบวงจร ผ่านการผลักดันเครือข่ายธุรกิจทั้งหมดของเอสซีจี ครอบคลุมทั้งปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง กระดาษและบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนวัตถุดิบและชิ้นส่วนอุตสาหกรรม โดยมีแผนขนส่งสินค้าจากซาอุดิอาระเบียกระจายไปยังหลายประเทศทั่วโลก

ธุรกิจเคมิคอลส์ หรือ SCGC เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายนวัตกรรมพลาสติกรักษ์โลก ‘SCGC GREEN POLYMERTM’ อย่างเต็มที่ เพื่อคว้าโอกาสรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2567 โดยไตรมาสที่ผ่านมา มียอดขาย 38,000 ตัน โดยทั้งปี 2566 มียอดขาย 218,000 ตัน สอดคล้องตามเป้าหมาย 1 ล้านตันภายในปี 2573 ขณะที่ ‘โครงการปิโตรเคมีครบวงจร LSP เวียดนาม’ อยู่ในช่วงการประเมินและตรวจสอบเครื่องจักรอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัย คาดว่าจะกลับมาเดินเครื่องจักรทดสอบและพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3

ธุรกิจเอสซีจี เดคคอร์ หรือ SCGD ชู 4 กลยุทธ์ดันยอดขายโต 2 เท่า ภายในปี 2573 รับตลาดอาเซียนทยอยฟื้นตัว ได้แก่ 1) สร้างการเติบโตให้ธุรกิจตกแต่งพื้นผิวกระเบื้องปูพื้นและบุผนัง 2) ขยายธุรกิจสุขภัณฑ์ในอาเซียน และขยายการลงทุนโรงงานสุขภัณฑ์ใหม่ในอาเซียน ตั้งเป้ายอดขายสุขภัณฑ์เติบโต 2 เท่า หรือกว่า 10,000 ล้านบาท 3) ขยายธุรกิจสู่ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการให้บริการแบบครบวงจร และเพิ่มโอกาสขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง และ 4) ลงทุนและเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในธุรกิจหลักของบริษัท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ


ธุรกิจเอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ พลังงานสะอาดครบวงจร เติบโตต่อเนื่องตามเมกะเทรนด์โลกที่หันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ผนวกกับการสนับสนุนของภาครัฐ ทำให้ตลาดพลังงานสะอาดในประเทศขยายตัวสูง โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 511 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากสิ้นปี 2566 จากความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนจัดทำโครงการซื้อขายไฟฟ้าใหม่ ๆ โดยปีนี้ตั้งเป้ากำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 200 เมกะวัตต์สำหรับการซื้อขายไฟฟ้ากับภาคเอกชน ส่วน ‘นวัตกรรมแบตเตอรี่กักเก็บความร้อนจากพลังงานสะอาด’ ที่เป็นความร่วมมือกับ Rondo Energy สหรัฐอเมริกา เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่มีศักยภาพในการทำตลาดในอาเซียน จึงเป็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้าสู่ตลาดอาเซียนในช่วงแรก และจะขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ที่เหมาะสมต่อไป

“เศรษฐกิจโลกยังเผชิญจากความเสี่ยงจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้นจากการท่องเที่ยว การลงทุนของต่างชาติ การอนุมัติงบประมาณปี 2567 ของภาครัฐที่จะเริ่มเบิกจ่ายเร็วๆนี้ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง ลดหย่อนภาษีเงินได้ และปล่อยสินเชื่อให้กู้ซื้อบ้านสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ และเป็นที่น่ายินดีที่ภาครัฐให้ความสำคัญเรื่องกรีน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเสนอพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายในปีนี้ การสนับสนุนโครงการสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ให้เป็นเมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย หากมีการผลักดันการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว (Green Procurement) ก็จะเป็นต้นแบบให้องค์กรอื่น ๆ ปฏิบัติตาม ซึ่งจะยิ่งช่วยกระตุ้นแนวคิดเรื่องกรีนให้เป็นรูปธรรม ลดภาวะโลกเดือดได้” นายธรรมศักดิ์ กล่าว.-517.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย