คนไทยเที่ยวเกาหลีเพิ่มขึ้น เน้นครอบครัวเที่ยวเอง

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. –  องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี เผยเทรนด์คนไทยเที่ยวเกาหลีเน้นเที่ยวเองเป็นครอบครัว มีระบบออนไลน์  K-ETA ขอเข้าประเทศ หนุนคนเที่ยวเกาหลีมากขึ้น


นายลี ซาง อู ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี KTO (Korea Tourism Organization) เปิดเผยปี 2566 มีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเดินทางไปยังเกาหลีราว 380,000 คนสะท้อนให้เห็นว่าการท่องเที่ยวฟื้นตัวเทียบเท่ากับช่วงก่อนวิกฤตโควิดแล้ว โดยเกาหลีและรัฐบาลไทยได้ร่วมกันเปิดโครงการ Korea – Thailand Visit Year 2566 – 2567 เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเกาหลี และนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศมากขึ้น หนึ่งในโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ “Korea-Thailand Food Travel Week” ซึ่งได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดอีเว้นท์เกี่ยวกับอาหารทั้งในประเทศไทยและเกาหลีช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนกรกฎาคม 

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไทยปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อแพ็กเกจทัวร์เป็นการวางแผนเดินทางด้วยตนเอง หรือที่เรียกว่า FIT (Free Independent Travelers) โดยนิยมเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ เช่น กลุ่มเพื่อน ครอบครัว เนื่องจากเกาหลีเป็นประเทศที่มีความสะดวกสบายนอกจากนี้ ประเทศเกาหลี ได้มีการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ K-ETA หรือ Korea Electronic Travel Authorization ที่เป็นระบบเพื่อขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศเกาหลี สำหรับคนต่างชาติ โดยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถได้ทางช่องทางด้วยตัวเองสะดวก รอเวลาไม่นาน จึงเป็นโอกาสที่ทำให้คนเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีมากขึ้น


โดยปีนี้ จับมือกับเคทีซี เปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything” ทุกสิ่งเป็นจริงที่เกาหลี นำเสนอมิติการท่องเที่ยว 3 แกนหลัก ได้แก่ K-Food K-Fun และ K-Culture เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์หรือความชอบที่แตกต่างโดยไฮไลท์ที่ 2 เส้นทางหลัก ได้แก่ โซลและปูซาน

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดปี 2566ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอย่างมาก ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดท่องเที่ยวก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยปี 2567 ตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไว้ที่ 15% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ตั้งเป้าไว้ 10% จากสมาชิกบัตรเครดิตซีทั้งหมด 2.2 ล้านคน

สำหรับภาพรวมในหมวดท่องเที่ยวไตรมาสที่หนึ่งของปีนี้ เติบโต 15% เพิ่มขค้นจ่ฝากช่วงเดียวกันปีก่อน เมื่อเจาะกลุ่มการการท่องเที่ยวต่างประเทศเติบโต 18-19%  สะท้อนว่าคนไทยนิยมไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น โดย 3 อันดับแรกของประเทศที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไปท่องเที่ยวมากที่สุดคือ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลี ตามลำดับ


พฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตสะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่อยู่ในแนวโน้มการฟื้นตัว คนไทยนิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น คาดหวังว่าตลอดทั้งปีจะเติบโตได้ตามเป้า 

ส่วนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะมีส่วนช่วยในการช่วยกระตุ้นการจับจ่ายหรือไม่นั้น ยังไม่สามรถตอบได้ในขณะนี้ ต้องรอติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเงื่อนไขบางส่วนยังไม่ชัดเจน.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า