กรุงเทพฯ 23 – ภาคเอกชน เชื่อโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ช่วยกระตุ้นเครื่องยนต์เศรษฐกิจเดินหน้า หนุนจีดีพีปี 68
ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า กรุงไทยคาดการณ์จีดีพีปี 2567 อยู่ที่ 2.7% ลดลงจากคาดการณ์เดิมเล็กน้อย ปัจจัยหลัก มาจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 รวมไปถึงหากมีมาตรการเชิงนโยบาย เช่น เอฟทีเอ หรือมาตรการในการกระตุ้นการท่องเที่ยว ก็จะจะยิ่งช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยปีนี้ให้เติบโตได้มากขึ้น โดยการปรับประมาณการณเศรษฐกิจ ยังไม่ได้รวมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งทางรัฐบาลประเมินว่าโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 1.2 – 1.6% ยังต้องรอดูว่า โครงการจะเริ่มขึ้นในช่วงเวลาใด ตามกระแสข่าวคาดว่าจะมีการอนุมัติโครงการในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ จึงมองว่าจะยังไม่ส่งผลต่อจีดีพีปี 2567 มากนัก แต่น่าจะมีผลกับจีดีพีในปี 2568 เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน- อิสราเอล ที่หากยืดเยื้อ จนถึงขั้นปิดเส้นทางส่งออกน้ำมันหรือไม่ ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกทดถอยหรือไม่ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อต่อเศรษฐกิจไทยด้วย
ขณะที่ นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส มองว่า เศรษฐกิจไทยขณะนี้เริ่มมีแรงส่งจากการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2567 และล่าสุด ครม. เห็นชอบโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Walle ก็จะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินมูลค่าสูง เดิมพันก็จะสูงตามไปด้วย เมื่อมีเงินเข้าไปในระบบ 5 แสนล้านบาท แล้วเครื่องยนต์ติด เดินหน้าไปได้ ก็จะไม่มีความเสี่ยง แต่ถ้าเครื่องยนต์สะดุด แล้วไปดับกลางทาง จึงยังต้องจับตาใกล้ชิดว่า แต่ถ้าดูจากแผนการใช้เงินสองวงรอบคือวงรอบที่ประชาชนใช้กับร้านค้าและวงรอบที่สองร้านค้านำไปใช้จ่ายจึงจะสามารถแลกเงินได้ น่าจะทำให้เห็นภาพการหมุนวงรอบในระยะ 6 เดือน ถึง 1 ปี และต้องติดตามสัญญาณการเดินเครื่องยนต์เศรษฐกิจว่าจะเดินหน้าไปได้ไกลแค่ไหน.-516-สำนักข่าวไทย