กรมบัญชีกลางมุ่งผลักดันองค์กรขับเคลื่อนภาครัฐสีเขียว

กรุงเทพฯ 19 เม.ย.-อธิบดีกรมบัญชีกลาง มุ่งผลักดันองค์กรขับเคลื่อนภาครัฐสีเขียวและลดต้นทุนประเทศ


กรมบั

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า แนวนโยบายในการขับเคลื่อนกรมบัญชีกลาง เพื่อผลักดันภาครัฐมุ่งสู่ภาครัฐสีเขียวและลดต้นทุนประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง โดยดำเนินงานผ่านแนวทาง 2C 2G 2D ดังนี้

“C” ประกอบด้วย


Customer Centric กรมบัญชีกลางจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้า เป็นการดำเนินการโดยเอาใจเขา ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ บุคลากรภาครัฐ หรือผู้ประกอบการ มาใส่ใจเรา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาความยุ่งยากที่เป็นอุปสรรคทั้งในด้านของกฎระเบียบ ระบบงาน การลดภาระงานที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็ว คล่องตัว และเกิดความพึงพอใจจากการให้บริการของกรมบัญชีกลางยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางมีแนวทางที่จะปรับปรุงกฎหมายและระเบียบของกรมบัญชีกลางให้ทันสมัยเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของทุกภาคส่วน รวมถึงลดต้นทุนของประเทศในภาพรวม

Collaboration กรมบัญชีกลางมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยมุ่งสร้างความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ   จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลของกรมบัญชีกลางกับหน่วยงานของรัฐมากขึ้น เช่น การเชื่อมข้อมูลระหว่างระบบ e-Payroll และระบบ D-Pension กับระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียภาษีที่เป็นข้าราชการและผู้รับบำนาญ

การเชื่อมข้อมูลทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับระบบ e-GP เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ ลดภาระการขอและยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทะเบียนนิติบุคคล เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานตรวจสอบ เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และเฝ้าระวังตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงจะมีความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการให้ความรู้ ทั้งในด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่ายของส่วนราชการ รวมถึงการทำบัญชีภาครัฐ


“G” ประกอบด้วย

Good Governance การปฏิบัติงานของกรมบัญชีกลางยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน รวมถึงผลักดันภาครัฐให้มีธรรมาภิบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องของความโปร่งใส เปิดเผย คุ้มค่า เสมอภาค และเป็นธรรม โดยไม่ละเลยในการอำนวยความสะดวกในการให้บริการ กรมบัญชีกลางมีแนวทางที่จะเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือ Open Contracting Data Standard: OCDS

เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานได้อย่างสะดวก ลดปัญหาการทุจริตในภาครัฐ นอกจากนั้น จะพัฒนาระบบวิเคราะห์หาความเสี่ยงและตรวจสอบการทุจริตในโครงการจัดซื้อจัดจ้าง (Red Flag) จากการสมรู้ร่วมคิดในการจัดซื้อจัดจ้าง การผูกขาด และการมีผลประโยชน์ทับซ้อน และพัฒนาระบบสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Contract) เพื่อให้การทำสัญญามีความปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น

Green & Sustainable Procurement กรมบัญชีกลางมุ่งเน้นผลักดันภาครัฐให้เป็นภาครัฐสีเขียวและยั่งยืน โดยจะมีการปรับปรุงกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวกับสินค้าสีเขียว สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาล และผลักดันให้ประเทศมีศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศ รวมทั้งตอบโจทย์เป้าหมายที่ไทยจะมุ่งเข้าสู่ประเทศที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero emissions) ในปี 2065 พร้อมทั้งบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ในปี 2573

“D” ประกอบด้วย

Digital กรมบัญชีกลางมีเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ในปี 2570 โดยจะมีแผนการทำ Digital Transformation ภายในองค์กร ลดการนำเข้าข้อมูลที่ซ้ำซ้อนในแต่ละระบบ และมุ่งผลักดันนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของภาครัฐ ลดระยะเวลาและลดค่าใช้จ่าย รวมถึงพัฒนาระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบงานแล้ว การเพิ่มประสิทธิภาพ   ของบุคลากรของกรมก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้น จะมีการให้ความรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล รวมถึงสร้างทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถผลักดันนโยบายให้สำเร็จ                     

Data Driven กรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานที่มีข้อมูลภาครัฐในด้านต่าง ๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลคู่ค้าภาครัฐ ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง ข้อมูลการเบิกจ่ายของภาครัฐ รวมถึงข้อมูลค่ารักษาพยาบาล ซึ่งทางกรมบัญชีกลางจะนำข้อมูลมาใช้   ในการคิด วิเคราะห์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที อันจะเป็นการช่วยบริหารทรัพยากรของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า “การขับเคลื่อนกรมบัญชีกลางผ่านแนวทาง 2C 2G 2D มีเป้าหมายหลักคือ การผลักดันให้ภาครัฐเน้นเศรษฐกิจสีเขียว ( Green Economy )รวมถึงการช่วยลดต้นทุนของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลดเวลา ลดกระบวนการ รวมถึงลดค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐ อำนวยความสะดวกและลดภาระของภาคเอกชน อันจะเป็นการช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกทางหนึ่ง” .-515 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

มติวุฒิสภาเดินหน้าโหวตองค์กรอิสระ-สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์วุ่น

รัฐสภา 30 พ.ค.- ตามคาด! “วุฒิสภา” เดินหน้าโหวตตั้งองค์กรอิสระ-ตุลาการศาล รธน. แม้ยอมให้ถกญัตติชะลอนานกว่า 3 ชั่วโมง ด้าน สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์ไม่ขอร่วมสังฆกรรม พร้อมให้เหตุผลขัดกันแห่งผลประโยชน์ สว.กว่า 100 คนถูกกล่าวหาฮั้ว ขู่หากเดินหน้าเสี่ยงถูกร้องจริยธรรม ขณะที่ “ฉัตรวรรษ” โต้ ยังเป็น สว. ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซัด “ดีเอสไอ” ดำเนินการโดยมิชอบ การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าในการระเบียบวาระเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561) ซึ่งเป็นการประชุมลับ ขอให้สว.ใช้บัตรลงคะแนนของตัวเอง ไม่สามารถออกเสียงด้วยวาจาแทนได้ แต่ขอหารือหยิบยกเรื่องด่วนที่ 5.ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อการพิจารณาเรื่องให้ความเห็นชอบ คือเรื่องด่วนชอให้ ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ที่เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่าต้องขอบคุณสมาชิกและวิปวุฒิที่ใจกว้างให้เลื่อนญัตตินี้ขึ้นมา และระบุว่าตนเข้าใจและเห็นใจเพื่อนสว.ทุกคนที่โดนเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเห็นกระบวนการไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น […]

กกต.ออกหมายเรียกอีก 22 สว. แจงคดีฮั้ว

กทม. 30 พ.ค.- หมายเรียก สว.ฮั้ว ลอต 5 ออกแล้ว คณะกรรมการสืบสวนฯ กกต. เรียกอีก 22 สว.แจง รวมเรียกทั้งหมด 127 คน มีรายงานแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เรียกสมาชิกวุฒิสภา เข้ารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 22 คน กรณีถูกกล่าวหาว่าอาจพัวพันกับกระบวนการฮั้วเลือก สว. ประกอบด้วย 1.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม 2.นางเจียระไน ตั้งกีรติ 3.นางมยุรี โพธิแสน 4.น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี 5.น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ 6. นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 7.นายธนภัทร ตวงวิไล 8.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ 9.นายกัมพล สุภาแพ่ง 10.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11.นายอัครวินท์ ขำขุด 12.นางธารณี ปรีดาสันติ์ 13.นางรจนา เพิ่มพูน […]

ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาชายแดน

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาพิพาทชายแดน ยันทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว วอนประชาชนรับฟังข้อมูลสื่อหลัก ขอเชื่อมั่นทหารปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว กองทัพบก ออกหนังสือแถลงการณ์ผลการเจรจาระหว่าง ผบ.ทบ.ไทย – ผบ.ทบ.กัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 1.ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธีในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตยหรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 2.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้ตกลงที่จะเคลื่อนออกจากพื้นที่ ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Reqional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น […]

ทบ.จ่อออกแถลงการณ์ห้ามทหารกัมพูชาเข้าใช้พื้นที่เนิน 745

กองทัพบก 30 พ.ค.- ทบ. เตรียมออกแถลงการณ์จุดปะทะช่องบก ไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาใช้พื้นที่เนิน 745 – ต้นสัตบรรณ ถึงสามแยกลาว เล็งพูดคุยจัดชุดลาดตระเวนร่วม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธีไถ่ชีวิตกระบือ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระราชินี 3 มิ.ย. โดยในวันนี้ กองทัพบกเตรียมออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.พนา ได้หารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนได้ข้อสรุป 3 ข้อ 1.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทย และกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ 2.ปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว […]