DITP+GIT ปลื้ม!!! งาน Bangkok Gems ครั้งที่ 69

นนทบุรี 19 เม.ย.-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT แถลงความสำเร็จงาน “Bangkok Gems and Jewelry Fair” โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 3,950 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เดิมถึงกว่าร้อยละ 20


นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก และสำหรับภาคการส่งออกในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) สามารถทำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับ 5 ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย คิดเป็นมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ งานแสดงสินค้า Bangkok Gems and Jewelry Fair ถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก
พร้อมนี้ นายภูสิต ได้กล่าวถึงความสำเร็จของงานแสดงสินค้า Bangkok Gems and Jewelry Fai ว่า นับเป็นเวลากว่า 40 ปี ที่ DITP ได้จัดงาน Bangkok Gems เพื่อสร้างเวทีการค้าและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกระดับ ได้พบและเจรจาการค้ากับนักธุรกิจและผู้ซื้อจากทั่วโลก โดยในปี 2565 DITP ได้จับมือกับ GIT เพื่อร่วมยกระดับและเสริมสร้างประสิทธิภาพการจัดงาน Bangkok Gems ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้อย่างเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ผนวกกับความเข้มแข็งและเป็นหนึ่งเดียวของคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน อันประกอบด้วยภาครัฐและเอกชนกว่า 16 องค์กร โดยเฉพาะสมาคมการค้าระดับแนวหน้าต่างๆ ในอุตสาหกรรมที่ช่วยส่งเสริมและผลักดันอย่างเต็มที่มาโดยตลอด ทำให้การจัดงานฯ Bangkok Gems ครั้งที่ 69 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มีอัตราการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในทุกมิติเมื่อเทียบกับอดีต ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้เข้าชมงาน 37,229 ราย จำนวน Exhibitor ทั้งจากไทยและต่างประเทศ 2,483 ราย ความหลากหลายของประเทศที่มาร่วมงานเพิ่มมากขึ้น กว่าร้อยละ 60 ของผู้ชมงานเป็นต่างประเทศ และมีมูลค่าการซื้อขาย 3,950 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เดิมถึงกว่าร้อยละ 20 โดยผู้เข้าร่วมงานพึงพอใจกับงานในระดับดีเยี่ยมเฉลี่ยกว่าร้อยละ 96.7 ความสำเร็จของงานฯ Bangkok Gems ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า วันนี้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลกอย่างแท้จริง

ด้าน นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) กล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลจากการผนึกกำลังระหว่าง DITP และ GIT ตลอดจนความร่วมมืออย่างเข้มแข็งขององค์กรพันธมิตร ซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย รวมทั้งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ตอกย้ำความสำคัญของงาน Bangkok Gems และประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญอันดับต้นๆ ของโลกได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากผู้เข้าเยี่ยมชมงานครั้งที่ 69 คิดเป็นชาวต่างประเทศถึงเกือบร้อยละ 70 ของผู้เยี่ยมชมงานทั้งหมด (5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย จีน เมียนมาร์ ศรีลังกา และสหรัฐอเมริกา) สำหรับการรับสมัคร Exhibitor งานครั้งที่ 70 (กันยายน 2567) ปรากฏว่าการจองคูหาตั้งแต่เริ่มรับสมัครได้ปิดการจองภายในเวลาไม่ถึงเดือน มีผู้จองพื้นที่ถึงกว่าร้อยละ 95 และมี Waiting List อยู่อีกประมาณเกือบ 400 คูหาทั้งนี้ งาน Bangkok Gems นอกจากจะเป็นเวทีเจรจาการค้าระดับสากลแล้ว ยังเป็นเวทีสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การต่อยอดทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิต การออกแบบอย่างครบวงจร และเป็นเวทีสร้างภาพลักษณ์อุตสาหกรรมฯ ผ่านกิจกรรมพิเศษและกิจกรรมคู่ขนานมากมาย


สำหรับงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 70 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-13 กันยายน 2567 ณ ฮอลล์ 1-8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ กิจกรรม Networking Reception กิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ และบริการให้คำปรึกษา ตลอดจนนิทรรศการเครื่องประดับโดยนักออกแบบไทย The Jewellers รวมถึงคูหาผู้ประกอบการรายใหม่ New Faces เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 40,000 ราย

สำหรับปี 2566 ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) เป็นอันดับที่ 8 ของการส่งออกรวม สร้างรายได้ให้กับประเทศสูงถึง 8,808.49 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2567 (ม.ค.-ก.พ.) สามารถทำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับ 5 คิดเป็นมูลค่า 1,822.30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 63,946 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.81 และคาดการณ์เป้าส่งออกปี 2567 จะอยู่ที่ร้อยละ 5 – 10/สำนักข่าวไทย/513


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า