เดินทางขนส่งสาธารณะ 7 วัน เพิ่ม 7.46% แตะ 17.54 ล้านคน-เที่ยว

กรุงเทพฯ 18 เม.ย.-“สุริยะ” ชื่นชมทุกหน่วยงาน ปฏิบัติหน้าที่ช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเคร่งครัด ดูแล-อำนวยความสะดวกประชาชนได้ตามแผน เผยภาพรวมการเดินทางขนส่งสาธารณะ รวม 7 วัน ยอดประชาชนเดินทางเพิ่ม 7.46% แตะระดับ 17.54 ล้านคน-เที่ยว กำชับทุกหน่วยงานจัดเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนเดินทางกลับ 


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงภาพรวมการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 สะสม 7 วัน (11 – 17 เมษายน 2567) ว่า ทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินงานตามแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนอย่างเคร่งครัดและบุคลากรทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรองรับการเดินทาง ไป – กลับภูมิลำเนาของประชาชนได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในทุกการเดินทาง ขณะเดียวกันระบบขนส่งสาธารณะทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศสามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอและดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมาก

สำหรับภาพรวมการเดินทางสะสม 7 วัน พบว่าปริมาณการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศอยู่ที่ 17,541,181 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 7.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 44.69% รองลงมาเป็นระบบขนส่งทางถนน 33.02% ถัดมาเป็นทางอากาศ 12.16% และทางน้ำ 10.13% โดยแยกในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1) ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 300,184 คน-เที่ยว 2) ภาคใต้ : ทางถนน 202,729 คน-เที่ยว 3) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 216,923 คน-เที่ยว 4) ภาคเหนือ : ทางถนน 126,701 คน-เที่ยว และ 5) ภาคตะวันออก : ทางถนน 121,789 คน-เที่ยว ขณะที่การจราจรเข้า – ออกกรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 10 เส้นทาง มีปริมาณ 6,882,802 คัน เพิ่มขึ้น 1.55% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 10,066,085 คัน ลดลง 2.15% 


นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสถานการณ์อุบัติเหตุบนระบบขนส่งสาธารณะ ประจำวันที่ 17 เมษายน 2567 พบว่า รถโดยสารสาธารณะเกิดอุบัติเหตุ 3 ครั้ง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต รถไฟและรถไฟฟ้าเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ส่วนทางน้ำและทางอากาศไม่เกิดอุบัติเหตุ

สำหรับอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคมสะสม 7 วัน รวม 1,471 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 203 คน บาดเจ็บ 1,648 คน มูลเหตุสันนิษฐานสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 891 ครั้ง คิดเป็น 61% ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ 781 ครั้ง บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง 1,043 ครั้ง คิดเป็น 71% จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ นครราชสีมา 12 คน จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพฯ 75 ครั้ง  ส่วนโครงข่ายทางรางเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต สำหรับโครงข่ายทางน้ำ และทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ 

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า วันที่ 17 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์และเป็นวันทำงานราชการตามปกติ ยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับจากภูมิลำเนาในภูมิภาคต่าง ๆ เข้าสู่กรุงเทพฯ จึงได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางรางประสานการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อจัดขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสาร จำนวน 2 ขบวนในเส้นทางอุบลราชธานี – กรุงเทพอภิวัฒน์ และอุดรธานี – กรุงเทพอภิวัฒน์ รวมทั้งเพิ่มตู้โดยสารเพื่อให้เพียงพอต่อการเดินทางกลับของประชาชน ขณะที่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ขยายเวลาการให้บริการ เป็นเวลา 04.00 – 24.00 น. เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนทั้งที่เดินทางด้วยรถโดยสารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด และเดินทางด้วยเครื่องบินที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องการขอความร่วมมือจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่านให้จัดอาสาสมัครประจำจุดตัดทางรถไฟหรือทางลักผ่านทางรถไฟเสมอระดับ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้เน้นย้ำให้เพิ่มความถี่ของขบวนรถไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าและเย็น พร้อมทั้งตรวจสอบความสมบูรณ์พร้อมใช้งานของกล้อง CCTV ทั้งในพื้นที่สถานีและในขบวนรถไฟฟ้าและเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดต่าง ๆ ภายในสถานีและเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน


นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอด จุดตรวจ Checking Point และ Rest Area รวม 221 จุด ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะคาดว่ายังมีประชาชนหยุดยาวต่อเนื่องและเดินทางกลับอีกครั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วันที่ 20 – 21 เมษายน 2567.- 513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน