นนทบุรี 12 ส.ค.- ราคาลำไยเริ่มขยับสูงขึ้น ก.พาณิชย์ ระบุทำแผนยุทธศาสตร์ผลไม้ไว้รองรับผลไม้สำคัญที่จะออกสู่ตลาดไว้แล้ว
นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ จากการติดตามสถานการณ์ลำไยหลังจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ในแหล่งผลิตจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสำคัญ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 พร้อมร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้ส่งออก ผู้แทนชาวสวนลำไย โรงงานแปรรูป ล้งลำไยอบแห้ง และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาลำไยที่ลดลงอยู่ในระดับต่ำ จนชาวสวนต้องประสบความเดือดร้อน ซึ่งผลจากการหารือได้มีมาตรการร่วมกันที่จะเร่งรัดการส่งออก การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่เกษตรกรและผู้ค้ารายย่อยเพื่อทำลำไยอบแห้ง การประสานโรงงานผลิตน้ำลำไยเข้มข้นรับซื้อลำไยเพื่อสต๊อกไว้ใช้ เร่งเพิ่มการบริโภคลำไยสดในประเทศโดยการกระจายผ่านตลาดต้องชมกว่า 30 ตลาด ห้างสรรพสินค้า กองทุนหมู่บ้าน ภาคราชการ เอกชน และรัฐวิสาหกิจ ในแหล่งบริโภคสำคัญทุกจังหวัด พร้อมทั้งได้ปล่อยขบวนคาราวานรถลำไยจากจังหวัดเชียงใหม่และลำพูนสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุดจากการติดตามสถานการณ์ลำไยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมาปรากฏว่า มาตรการที่ได้ดำเนินการประกอบกับการส่งออกที่มีความสดใส ส่งผลให้ราคาลำไยปรับตัวสูงขึ้น กก.ละ 4-5 บาทโดยลำไยสดช่อเกรด AA สูงขึ้นเป็น กก.ละ 32-34 บาท เกรด A เป็น กก.ละ 28-30 บาท และเกรด B เป็น กก.ละ 23-25 บาท ส่วนลำไยสดรูดร่วง
เกรด AA เป็น กก.ละ 16-18 บาท , A เป็น กก.ละ 9-9.50 บาท, B เป็น กก.ละ 5-5.50 บาท เป็นที่พอใจของชาวสวน จากต้นเดือนสิงหาคมถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2560 ราคาลำไยได้ปรับตัวสูงขึ้นโดยเกรด AA สูงขึ้นกก.ละ 4-5 บาท , A สูงขึ้น กก.ละ 2-3 บาท, B สูงขึ้น กก.ละ 1-1.50 บาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการซื้อทั้งเพื่อส่งออกและการบริโภคสดในประเทศ ตลอดจนการแปรรูปเพื่อใช้นอกฤดูที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำลำไยอบแห้งทั้งเปลือกและอบแห้งเนื้อสีทองที่มีความต้องการมากขึ้น จะทำให้ราคาลำไยที่ชาวสวนขายได้โน้มสูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง และในปี 2560 คาดว่าแหล่งผลิตภาคเหนือจะมีผลผลิตลำไยรวม 679,755 ตัน เก็บเกี่ยวแล้วกว่า ร้อยละ 65 และจะสิ้นสุดฤดูกาลช่วงกลางเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ผลไม้ที่จะเป็นแผนรองรับในช่วงที่ผลไม้สำคัญออกสู่ตลาดไว้แล้ว คาดว่าแผนดังกล่าวจะเห็นเป็นรูปธรรมได้ในเร็วนี้ .-สำนักข่าวไทย