fbpx

“สุริยะ” ระบุประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะ 2 วัน 5.6 ล้านคน

กรุงเทพ 13 เม.ย.-“สุริยะ” เผยภาพรวมคมนาคมช่วงสงกรานต์ 2567 พบสะสม 2 วัน ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะรวม 5.6 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.99% จากปีที่แล้ว ชี้ระบบรางยังมีผู้โดยสารสูงสุดกว่า 45% ปลื้มบุคลากรทุกหน่วยงานปฏิบัติภารกิจเต็มที่ตลอด 24 ชม.

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2567 ประจำวันที่ 12 เมษายน 2567 (สะสม 2 วัน) พบว่า จากการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทของบุคลากรหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมนั้น ส่งผลให้ภาพรวมการคมนาคมดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับระบบการขนส่งสาธารณะที่สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอในทุกโหมดการเดินทาง ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และรับ-ส่งพี่น้องประชาชนทุกคนให้ถึงที่หมายด้วยความสะดวก ปลอดภัย ในส่วนของถนนสายหลักมุ่งสู่ภูมิภาคต่าง ๆ แม้ว่ามีปริมาณรถหนาแน่น แต่จากการบริหารจัดการของกรมทางหลวง (ทล.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สภาพการจราจรยังเคลื่อนตัวได้ดี
ทั้งนี้ จากข้อมูลระบบการเดินทางและระบบ TRAMS ในส่วนของการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ สะสม 2 วัน สรุปข้อมูล ณ วันที่ 13 เมษายน 2567 เวลา 08.00 น. พบว่า มีจำนวนรวม 5,633,744 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.99% เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 45.42% ของการเดินทางทั้งหมด ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ด้านถนน ราง น้ำ และอากาศ มีจำนวนรวม 457,012 คน-เที่ยว ระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1.ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 91,442 คน-เที่ยว 2.ภาคใต้ : ทางถนน 69,534 คน-เที่ยว 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 80,679 คน-เที่ยว 4.ภาคเหนือ : ทางถนน 49,728 คน-เที่ยว และ 5.ภาคตะวันออก : ทางถนน 40,671 คน-เที่ยว


ส่วนการจราจรเข้า-ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 10 เส้นทาง มีปริมาณ 2,215,127 คัน เพิ่มขึ้น 4.71% เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 11-12 เมษายน 2566 ของปีก่อน การเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 2,984,690 คัน ลดลง 4.62% ส่วนการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 221 แห่ง มีการตรวจรถ 28,761 คัน พบบกพร่อง 7 คัน และสั่งเปลี่ยนรถ 7 คัน ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 28,761 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด สำหรับรถไฟ มีการตรวจความพร้อมผู้ปฏิบัติงาน 86 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด และการตรวจความพร้อมท่าเรือ/แพ 161 แห่ง ตรวจเรือ 1,660 ลำ พบข้อบกพร่อง 1 ลำ และได้สั่งห้ามเดินเรือพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 2,325 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด

ด้านอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคม รวม 467 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 53 คน บาดเจ็บ 478 คน มูลเหตุสันนิษฐานสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 271 ครั้ง คิดเป็น 58% ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 250 ครั้ง บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง 329 ครั้ง คิดเป็น 71% จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ นครราชสีมา 4 คน จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 22 ครั้ง โดยสรุปเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (วันที่ 11-12 เมษายน 2566) อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 11% จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 8% และจำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น 8% ส่วนโครงข่ายทางรางเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต และโครงข่ายทางน้ำ และทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ


นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำชับสำนักงานขนส่งจังหวัด ดำเนินการจัดหารถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะชั่วคราว ตลอด 24 ชั่วโมง รับเรื่องร้องเรียนและป้องกันมิให้ผู้โดยสารถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอด จุดตรวจ Checking Point และ Rest Area รวม 221 จุดทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอดทุกแห่ง ต้องตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทางตามแบบ Checklist เช่น มีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้องตามประเภทใบอนุญาตขับรถและไม่หมดอายุ มีความพร้อมด้านร่างกาย และระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินกฎหมายกำหนด รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรงทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ ให้ความรู้แก่ผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และขอให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทางเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยรถไฟที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์บรรยากาศเป็นไปอย่างอย่างคึกคัก โดยในช่วงเช้าของวันที่ 12 เมษายน 2567 ผู้โดยสารที่สำรองตั๋วไว้แล้วได้ทยอยเดินทางอย่างต่อเนื่อง และเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในช่วงบ่าย ส่วนที่สถานีกรุงเทพผู้โดยสารไม่หนาแน่นมาก การเดินทางส่วนใหญ่เป็นขบวนรถระยะใกล้ เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี บ้านภาชี ตะพานหิน สุพรรณบุรี หัวหิน เป็นต้น ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้บริการได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และช่วงเย็น-ช่วงค่ำ ได้เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษอีก 4 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งได้พ่วงตู้โดยสารในทุกเส้นทางจนเต็มหน่วยลากจูงเพื่อรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการตลอดทั้งวันมากกว่า 100,000 คน
ในขณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 การเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดรถโดยสารเตรียมการรองรับการเดินทางกว่า 4,000 เที่ยว และประสานผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30) วิ่งเสริมทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ เข้มงวดการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของพนักงานขับรถและรถโดยสารก่อนออกเดินทาง ทุกสถานีขนส่งฯ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือประชาชน เช่น แนะนำจุดขึ้นรถ บอกทาง ประจำตามจุดต่าง ๆ และให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเดินทาง ให้ไปขึ้นรถก่อนเวลารถออก 10 นาที เพื่อลดความหนาแน่นบริเวณชานชาลา โดยจัดที่พักคอยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้รองรับผู้ใช้

ในส่วนของการเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ส่งผลให้มีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมีความต้องการเดินทาง ด้วยสายการบินเป็นจำนวนมาก จึงนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดการท่าอากาศยานและการให้บริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว บรรเทาความหนาแน่นของผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน รวมถึงช่วยลดระยะเวลารอคอย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว สำหรับการเดินทางเข้า-ออก ทดม. ผู้โดยสารสามารถเลือกใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อกับท่าอากาศยานได้หลายรูปแบบ เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดง (RED Line SRTET) รถโดยสาร ขสมก. สาย A1, A2, A3 และ A4 รถรับจ้างสาธารณะ Grab Car และรถแท็กซี่สาธารณะเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางมาใช้บริการ
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การเดินทางทางน้ำในส่วนกลาง หรือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยกรมเจ้าท่า (จท.) ดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัยผ่านระบบกล้อง CCTV ตามท่าเรือต่างๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแสนแสบ จัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรืออำนวยความสะดวก ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและเส้นทางการเดินเรือให้กับประชาชน ในขณะที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) บูรณาการร่วมกับผู้ให้บริการระบบราง ดำเนินการเพิ่มจำนวนเที่ยวรถขนส่งทางรางและขยายตารางเวลาเดินรถไฟฟ้า ให้สอดรับกับปริมาณความต้องการใช้บริการของประชาชน อีกทั้งได้พิจารณาจัดรถไฟฟ้าเสริมในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น และเพิ่มตู้รถไฟไปกับขบวนรถปกติ พร้อมทั้งจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 12 เมษายน 2567 จำนวน 4 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ กรุงเทพอภิวัฒน์-ศิลาอาสน์ กรุงเทพอภิวัฒน์-อุดรธานี และกรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ รัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมภายใน กทม. เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทยเป็นเทศกาลระดับโลกและเพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม จึงเข้มงวดการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเฉลิมฉลองเสงกรานต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีความสะดวกและปลอดภัยปลอดภัย.-513.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้อพยพจากไทยคว้าแจ็กพอตเพาเวอร์บอล

ผู้อพยพจากไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐดวงเฮง คว้ารางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่เพาเวอร์บอล ได้เงินรางวัลสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต ชี้ประชาชนเบื่อมากข่าวนายตำรวจระดับสูง ควรเร่งทำงานสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นายกฯ บอกขอโทษ “ปานปรีย์” แล้ว ไม่ขัดแย้ง

นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้  

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

ข่าวแนะนำ

ข้าราชการบรรจุใหม่เฮ! ปรับขึ้นเงินเดือน 1 พ.ค.67-68

รัฐบาลขึ้นเงินเดือนข้าราชการกลุ่มบรรจุใหม่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 พฤษภาคม 2567) หลังจัดงบประมาณไว้รองรับแล้ว ส่วนปี 2568 พร้อมขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี แตะ 18,000 บาท

นายกฯ มั่นใจ “พิชิต” ไม่ขาดคุณสมบัติ รมต.

นายกรัฐมนตรี มั่นใจ “พิชิต” ไม่ขาดคุณสมบัติ เพราะกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว หลังถูกยื่นตรวจสอบซ้ำ ขอโปรดเกล้าฯ ทราบพร้อมกันใครนั่ง รมว.กต.คนใหม่ ไม่ขอพูดก่อน เป็นตามขั้นตอน

“ปานปรีย์” ออกจาก รพ. เข้ากระทรวงลา ขรก.

“ปานปรีย์” เข้ากระทรวงฯ เก็บของ-อำลาข้าราชการ บางคนหลั่งน้ำตา เจ้าตัวบอกลาชั่วคราว เรียกใช้งานได้ บอกเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อคืน

“อดีตทูตปู มาริษ” เข้าทำเนียบฯ พบนายกฯ

หลังข่าวแพร่สะพัด “อดีตทูตปู -มาริษ” จะได้นั่งเก้าอี้เจ้ากระทรวงบัวแก้ว แทน “ปานปรีย์” ล่าสุดเข้าพบนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลแล้ว