“สุริยะ” ระบุประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะ 2 วัน 5.6 ล้านคน

กรุงเทพ 13 เม.ย.-“สุริยะ” เผยภาพรวมคมนาคมช่วงสงกรานต์ 2567 พบสะสม 2 วัน ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะรวม 5.6 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.99% จากปีที่แล้ว ชี้ระบบรางยังมีผู้โดยสารสูงสุดกว่า 45% ปลื้มบุคลากรทุกหน่วยงานปฏิบัติภารกิจเต็มที่ตลอด 24 ชม.

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับเทศกาลสงกรานต์ 2567 ประจำวันที่ 12 เมษายน 2567 (สะสม 2 วัน) พบว่า จากการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทของบุคลากรหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมนั้น ส่งผลให้ภาพรวมการคมนาคมดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับระบบการขนส่งสาธารณะที่สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอในทุกโหมดการเดินทาง ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และรับ-ส่งพี่น้องประชาชนทุกคนให้ถึงที่หมายด้วยความสะดวก ปลอดภัย ในส่วนของถนนสายหลักมุ่งสู่ภูมิภาคต่าง ๆ แม้ว่ามีปริมาณรถหนาแน่น แต่จากการบริหารจัดการของกรมทางหลวง (ทล.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สภาพการจราจรยังเคลื่อนตัวได้ดี
ทั้งนี้ จากข้อมูลระบบการเดินทางและระบบ TRAMS ในส่วนของการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ สะสม 2 วัน สรุปข้อมูล ณ วันที่ 13 เมษายน 2567 เวลา 08.00 น. พบว่า มีจำนวนรวม 5,633,744 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 0.99% เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 45.42% ของการเดินทางทั้งหมด ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ด้านถนน ราง น้ำ และอากาศ มีจำนวนรวม 457,012 คน-เที่ยว ระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1.ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 91,442 คน-เที่ยว 2.ภาคใต้ : ทางถนน 69,534 คน-เที่ยว 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 80,679 คน-เที่ยว 4.ภาคเหนือ : ทางถนน 49,728 คน-เที่ยว และ 5.ภาคตะวันออก : ทางถนน 40,671 คน-เที่ยว


ส่วนการจราจรเข้า-ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 10 เส้นทาง มีปริมาณ 2,215,127 คัน เพิ่มขึ้น 4.71% เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 11-12 เมษายน 2566 ของปีก่อน การเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 2,984,690 คัน ลดลง 4.62% ส่วนการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 221 แห่ง มีการตรวจรถ 28,761 คัน พบบกพร่อง 7 คัน และสั่งเปลี่ยนรถ 7 คัน ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 28,761 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด สำหรับรถไฟ มีการตรวจความพร้อมผู้ปฏิบัติงาน 86 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด และการตรวจความพร้อมท่าเรือ/แพ 161 แห่ง ตรวจเรือ 1,660 ลำ พบข้อบกพร่อง 1 ลำ และได้สั่งห้ามเดินเรือพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 2,325 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด

ด้านอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนนของกระทรวงคมนาคม รวม 467 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 53 คน บาดเจ็บ 478 คน มูลเหตุสันนิษฐานสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 271 ครั้ง คิดเป็น 58% ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถกระบะบรรทุก 4 ล้อ 250 ครั้ง บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง 329 ครั้ง คิดเป็น 71% จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ นครราชสีมา 4 คน จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 22 ครั้ง โดยสรุปเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (วันที่ 11-12 เมษายน 2566) อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 11% จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 8% และจำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น 8% ส่วนโครงข่ายทางรางเกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต และโครงข่ายทางน้ำ และทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ


นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำชับสำนักงานขนส่งจังหวัด ดำเนินการจัดหารถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทางให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะชั่วคราว ตลอด 24 ชั่วโมง รับเรื่องร้องเรียนและป้องกันมิให้ผู้โดยสารถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร จุดจอด จุดตรวจ Checking Point และ Rest Area รวม 221 จุดทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอดทุกแห่ง ต้องตรวจความพร้อมของรถและความพร้อมของผู้ขับรถก่อนออกเดินทางตามแบบ Checklist เช่น มีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้องตามประเภทใบอนุญาตขับรถและไม่หมดอายุ มีความพร้อมด้านร่างกาย และระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงการขับรถไม่เกินกฎหมายกำหนด รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรงทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่าง ๆ ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ ให้ความรู้แก่ผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และขอให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทางเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยรถไฟที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์บรรยากาศเป็นไปอย่างอย่างคึกคัก โดยในช่วงเช้าของวันที่ 12 เมษายน 2567 ผู้โดยสารที่สำรองตั๋วไว้แล้วได้ทยอยเดินทางอย่างต่อเนื่อง และเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในช่วงบ่าย ส่วนที่สถานีกรุงเทพผู้โดยสารไม่หนาแน่นมาก การเดินทางส่วนใหญ่เป็นขบวนรถระยะใกล้ เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี บ้านภาชี ตะพานหิน สุพรรณบุรี หัวหิน เป็นต้น ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้บริการได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และช่วงเย็น-ช่วงค่ำ ได้เพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษอีก 4 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งได้พ่วงตู้โดยสารในทุกเส้นทางจนเต็มหน่วยลากจูงเพื่อรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการตลอดทั้งวันมากกว่า 100,000 คน
ในขณะที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 การเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดรถโดยสารเตรียมการรองรับการเดินทางกว่า 4,000 เที่ยว และประสานผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30) วิ่งเสริมทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ เข้มงวดการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของพนักงานขับรถและรถโดยสารก่อนออกเดินทาง ทุกสถานีขนส่งฯ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือประชาชน เช่น แนะนำจุดขึ้นรถ บอกทาง ประจำตามจุดต่าง ๆ และให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเดินทาง ให้ไปขึ้นรถก่อนเวลารถออก 10 นาที เพื่อลดความหนาแน่นบริเวณชานชาลา โดยจัดที่พักคอยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้รองรับผู้ใช้

ในส่วนของการเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ส่งผลให้มีผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวมีความต้องการเดินทาง ด้วยสายการบินเป็นจำนวนมาก จึงนำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดการท่าอากาศยานและการให้บริการด้วยความสะดวก รวดเร็ว บรรเทาความหนาแน่นของผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน รวมถึงช่วยลดระยะเวลารอคอย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว สำหรับการเดินทางเข้า-ออก ทดม. ผู้โดยสารสามารถเลือกใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อกับท่าอากาศยานได้หลายรูปแบบ เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดง (RED Line SRTET) รถโดยสาร ขสมก. สาย A1, A2, A3 และ A4 รถรับจ้างสาธารณะ Grab Car และรถแท็กซี่สาธารณะเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางมาใช้บริการ
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สถานการณ์การเดินทางทางน้ำในส่วนกลาง หรือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยกรมเจ้าท่า (จท.) ดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังความปลอดภัยผ่านระบบกล้อง CCTV ตามท่าเรือต่างๆ ในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแสนแสบ จัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรืออำนวยความสะดวก ประชาสัมพันธ์ข้อมูลและเส้นทางการเดินเรือให้กับประชาชน ในขณะที่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) บูรณาการร่วมกับผู้ให้บริการระบบราง ดำเนินการเพิ่มจำนวนเที่ยวรถขนส่งทางรางและขยายตารางเวลาเดินรถไฟฟ้า ให้สอดรับกับปริมาณความต้องการใช้บริการของประชาชน อีกทั้งได้พิจารณาจัดรถไฟฟ้าเสริมในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น และเพิ่มตู้รถไฟไปกับขบวนรถปกติ พร้อมทั้งจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารในวันที่ 12 เมษายน 2567 จำนวน 4 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์-เชียงใหม่ กรุงเทพอภิวัฒน์-ศิลาอาสน์ กรุงเทพอภิวัฒน์-อุดรธานี และกรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ รัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมภายใน กทม. เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทยเป็นเทศกาลระดับโลกและเพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม จึงเข้มงวดการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเฉลิมฉลองเสงกรานต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีความสะดวกและปลอดภัยปลอดภัย.-513.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัดรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 10 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัด บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน […]

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]