รมช.คลัง มอบนโยบาย บสย. เร่งช่วย SMEs

กรุงเทพฯ 10 เม.ย.-รมช.คลัง มอบนโยบาย บสย. เร่งช่วย SMEs แก้หนี้ ชูกลไก “ค้ำประกัน” ขับเคลื่อน IGNITE Thailand

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบาย แก่ผู้บริหาร บสย. 3 เรื่องหลัก คือ 1.เรื่องแก้หนี้ SMEs โดยเห็นว่าเรื่องหนี้ครัวเรือนจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขและให้ความช่วยเหลือ 2.มอบหมายให้ บสย. ใช้กลไกการค้ำประกัน เป็นหลักประกันช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อในระบบ 3. มอบหมายให้ บสย. ร่วมขับเคลื่อน โครงการ IGNITE Thailand เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล บสย. มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและช่วย SMEs เข้าถึงแหล่งทุนมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme หรือ PGS ต่อเนื่องจนถึง PGS 10


ขณะนี้กำลังเร่งพิจารณาโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 11 โดยเร็ว เพื่อความต่อเนื่อง ซึ่งเห็นว่าผลดำเนินงาน บสย. ในตลอดระยะเวลา 33 ปี ได้ช่วย SMEs มากกว่า 8 แสนราย และมี Outstanding การค้ำประกัน รวมกว่า 6 แสนล้านบาท เพื่อช่วยในมิติจำนวนราย ถือว่า บสย. ช่วยรายย่อยได้มาก พร้อมมอบแนวทางร่วมหน่วยงานรัฐแก้ปัญหา ซึ่งจากนี้ไป บสย. และหน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานหนักขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาหนี้ และการช่วย SMEs ให้เข้าถึงแหล่งทุน ซึ่ง บสย. ต้องพร้อมเป็นกลไกหลักช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งทุนที่เหมาะสม

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อสามารถเพิ่มสัดส่วนการเข้าถึงสินเชื่อได้แล้วกว่า 25% ของจำนวน SMEs ในระบบ และช่วย SMEs ลูกหนี้แก้หนี้ยั่งยืน ตามนโยบายรัฐบาลการแก้หนี้เป็นวาระแห่งชาติ ภายใต้มาตรการ 3 สี ของ บสย. ช่วยแก้หนี้สำเร็จคิดเป็นมูลหนี้ปรับโครงสร้างกว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 3 ปี บสย. ซึ่งได้นำระบบดิจิทัล Digital Technology ขับเคลื่อนองค์กร ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมตามเป้าหมาย SMEs Digital Gateway เชื่อมโยง Eco System ระหว่าง บสย. และสถาบันการเงิน.-515.-สำนักข่าวไทย


นักวิชาการ ชี้งบดิจิทัลวอลเล็ตไม่คุ้มกระทบเศรษฐกิจไทยระยะยาว นักวิชาการ, ดิจิทัลวอลเล็ต, เศรษฐกิจไทย, งบปี 68, ธ.ก.ส., ขีดความสามารถประเทศ, นิพนธ์ พัวพงศกร, กรุงเทพฯ 10 เม.ย.-นักวิชาการ มองงบดิจิทัลวอลเล็ตไม่คุ้ม เบียดงบ เพิ่มขีดความสามารถของประเทศกระทบเศรษฐกิจไทยระยะยาว จี้รัฐแจงการใช้งบปี 68 และ ธ.ก.ส. เพราะสุดท้ายก็เป็นการกู้และมีภาระดอกเบี้ย

รศ.ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) มองว่า การแถลงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต วันนี้ (10 เม.ย.)ว่า รัฐบาลทำการบ้านมาดีกว่าครั้งที่ผ่านๆมา อย่างไรก็ตามมองว่า นโยบายนี้ เป็นนโยบายหวังผลทางการเมืองต้องการโกยคะแนนเลือกตั้งครั้งหน้าให้มีชัยเหนือพรรคก้าวไกล เพราะหากดูภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ไม่เป็นวิกฤต การส่งออกและการบริโภคในประเทศก็ขยายตัวดีขึ้น การใช้วงเงิน ถึง 5 แสนล้านบาท แจกเงิน 1 หมื่นบาทแก่ 50 ล้านคนเป็นวงเงินที่สูงมาก มีเพียงผลระยะสั้น หากจะช่วยควรจะเป็นเฉพาะกลุ่มฐานรากที่เดือดร้อน และวงเงินนี้ก็จะกระทบต่องบประมาณด้านอื่นๆในอนาคต และหากเทียบกับวงเงินนี้กับวงเงินที่รัฐบาลจะสนับสนุนขีดความสามารถของประเทศ 1 แสนล้านบาทแล้ว แสดงให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลให้ความสำคัญน้อยมากในขณะที่ประเทศชาติกำลังเสียเปรียบเรื่องขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศระยะยาว

ที่สำคัญอยากให้รัฐบาลมอบหมายหน่วยงานวิจัย เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ว่าจ้างทีมวิจัยที่เป็นอิสระ ศึกษษถึงผลกระทบในระยะยาว หรือ 3-5 ปีข้างหน้าว่าหลังจากออกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปแล้วเกิดวิเคราะห์ว่าผลกระทบระยะยาวเกิดผลดีหรือความเสียต่อประเทศอย่างไร เพื่อประเมินผลให้ได้แล้วนำรายงานเสนอต่อรัฐสภาในอนาคตเพื่อให้เป็นบทเรียนของพรรคการเมืองว่า นโยบายที่ไม่รอบคอบจะเกิดปัญหาอะไรต่อประเทศ ซึ่งอาจเกิดความเสียหายเหมือนโครงการจำนำข้าวในอดีต ที่กระทบหลายแสนล้านบาท


“ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการแจกเงินระยะสั้น ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องแจกเงินถึง 5 แสนล้านบาท ล่าสุด เศรษฐกิจก็ดีขึ้นส่งออกก็ขยายตัว การท่องเที่ยวก็ดีขึ้น ประเทศไทยไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจระยะสั้น แต่เป็นวิกฤติด้านโครงสร้าง ถ้าประชาชนฐานรากเดือดร้อน ก็ควรจะจำกัดการช่วยเฉพาะกลุ่มที่ยากจนดีกว่าการหว่านเงินเช่นนี้ แบบนี้ก็เป็นการพิสูจน์ชัดเจนว่าเป็นการทำเพื่อเป้าหมายทางการเมืองเป็นหลักมากกว่าเป้าหมายการแก้ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ” รศ.ดร.นิพนธ์

รศ.ดร.นิพนธ์ มองว่า ที่มาของเงิน 3 แหล่งวงเงิน 5 แสนล้านบาทในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งก้อนแรกมาจากงบฯ67 ก็ไม่น่ามีข้อสงสัยใดใด ว่าสามารถเกลี่ยมาได้เพราะปกติงบฯลงทุนก็ใช้ประมาณร้อยละ 70 ที่เหลือก็เกลี่ยมาได้ แต่ที่ยังมีความไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะจัดการอย่างไร เพราะในอนาคตต้องมีการกู้เงินมาคืนทั้งเงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ งบฯปี 68 ที่จะนำมาใช้ในต้นปีงบประมาณ 68 จะกู้เงินมาจากกองทุนฯไหน ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ ซึ่งภาพรวมแล้วการใช้เงินก็เป็นการกู้อยู่ดีที่พยายามกู้ที่ถูกกฏหมาย

“เงิน ธ.ก.ส. และเงินงบฯ 68 ต้องมีการกู้มาและใช้คืน ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะกู้จากกองทุนฯภายใต้การกำกับของรัฐ กองทุนฯใด เช่น หากกู้จากกองทุนประกันสังคม ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ย ก็ถือว่าเป็นการกู้แบบแอบแฝง ก็ขอเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงให้ชัดเจนว่า เงินจะมาจากกองทุนฯไหน และชำระหนี้อย่างไร จ่ายดอกเบี้ยเท่าใด แล้วแถลงให้รัฐสภาทราบอย่างชัดเจน เป็นกระบวนการทางประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลควรทำการบ้านเรื่องนี้มาก่อน เพราะมีเวลาตั้งนานก่อนที่จะแถลงในวันนี้” รศ.ดร.นิพนธ์ ระบุ

นอกจากนี้จากการใช้งบฯ 68 และการใช้เงินจาก ธ.ก.ส. เป็นการเบ่งเงินกู้ถึงระดับเพดานกู้สูงสุด คำถามคือจะเป็นการเบียดงบประมาณอื่นๆ แล้วภาครัฐจะมีวงเงินมาแก้ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาวอย่างไรเพราะจะต้องใช้เงินหลายปีนับหลานแสนล้านบาท เช่น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีความสามารถ ด้านดิจิทัล การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน จึงเกรงว่า ใน 2-5 ปีข้างหน้าจะไม่มีเงินลงทุนด้านนี้หรือมีก็จะเป็นแบบจำกัดมาก และจะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของไทยอ่อนแอลง

ทั้งนี้ รัฐบาลแถลงแหล่งเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทที่จะเริ่มแจกเงินในไตรมาส 4 /67 วงเงินราว 5 แสนล้านบาท รวม 50ล้านคนที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน8.4 แสนบาท โดยใช้ เงินจาก 3 ส่วนได้แก่ งบฯปี 68 วงเงิน 1.52 แสนล้านบาท, ใช้เงินจาก ธ.ก.ส. 1.72 แสนหมื่นล้าน เพื่อดูแล เกษตรกร 17 ล้านคนเศษ และบริหารจัดการงบปี 67และงบกลางฯ วงเงิน 1.75 แสนล้านบาท.-511.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]