AOT เตรียมการบริการผู้โดยสารช่วงสงกรานต์

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-“สุริยะ” สั่ง AOT เตรียมการบริการผู้โดยสารช่วงสงกรานต์ให้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย คาดมีผู้โดยสารใช้บริการกว่า 2.61 ล้านคน พร้อมจัดที่จอดรถฟรีที่สุวรรณภูมิ และดอนเมือง


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการประชุมแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 รวม 7 วัน ได้สั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนครอบคลุมทุกมิติ รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนแผนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มุ่งเป้าหมายให้ประชาชนเดินทางถึงที่หมายได้อย่างสะดวกและปลอดภัยตามนโยบาย “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน” โดยให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมการรองรับและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ตลอดจนกำกับดูแลการให้บริการ มาตรฐานความปลอดภัย และแจ้งข้อมูลข่าวสารประชาชนล่วงหน้าเพื่อวางแผนการเดินทาง

ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานบริการทั้งบก ราง น้ำ และอากาศเตรียมการบริการผู้โดยสารช่วงสงกรานต์ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยในส่วนของการเดินทางทางอากาศ ได้กำชับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลักของประเทศได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ให้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่ให้บริการในท่าอากาศยานในการร่วมกันบริหารจัดการการอำนวยความสะดวกอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความรวดเร็วในทุกกระบวนการทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออก การจัดเจ้าหน้าที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารในทุกขั้นตอน รวมถึงรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัย และเชื่อมโยงกับการคมนาคมด้านอื่นอย่างไร้รอยต่อ 


โดยคาดว่าในช่วงสงกรานต์ 2567 คือ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานของ AOT ทั้ง 6 แห่ง กว่า 2.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 28.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1.65 ล้านคน เพิ่มขึ้น 46.00% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 962,362 คน เพิ่มขึ้น 6.59% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 15,113 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 16.71% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 8,682 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 32.53% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 6,431 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 0.52% 

ขณะที่ ทสภ.คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 1.34 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.73% และมีเที่ยวบินประมาณ 7,022 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 21.13% ส่วน ทดม.มีผู้โดยสารประมาณ 625,530 คน เพิ่มขึ้น 14.83% และมีเที่ยวบินประมาณ 4,117 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.58% สำหรับ ทชม.มีผู้โดยสารประมาณ 199,563 คน เพิ่มขึ้น 34.83% และมีเที่ยวบินประมาณ 1,152 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 6.96% ด้าน ทชร.มีผู้โดยสารประมาณ 41,318 คน เพิ่มขึ้น 16.71% และมีเที่ยวบินประมาณ 281 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 18.07% และ ทภก.มีผู้โดยสารประมาณ 355,501 คน เพิ่มขึ้น 31.97% และมีเที่ยวบินประมาณ 2,161 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 24.77% ขณะที่ ทหญ.มีผู้โดยสารประมาณ 53,894 คน ลดลง 6.92% และมีเที่ยวบินประมาณ 380 เที่ยวบิน ลดลง 0.52%

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมและ AOT ขอร่วมกันส่งมอบความสุขให้พี่น้องประชาชนในการเดินทางกลับบ้านและการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยได้จัดที่จอดรถยนต์ฟรี ณ บริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาว โซน D ทสภ.ตั้งแต่วันที่ 12 – 16 เมษายน 2567 และที่ ทดม.สามารถจอดรถยนต์ฟรีได้ที่บริเวณระหว่างอาคารคลังสินค้า 2 และอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 สามารถจอดรถยนต์ได้ 250 คัน พร้อมจัดเตรียมรถรับส่งให้บริการระหว่างจุดจอดรถไปยังอาคารผู้โดยสาร 


อย่างไรก็ตาม เน้นย้ำให้ AOT เตรียมความพร้อมดำเนินการในทุกมิติ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้บริการผู้โดยสารในท่าอากาศยาน เช่น สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ผู้ประกอบการที่ให้บริการภาคพื้น เป็นต้น จัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ให้เพียงพอ ประสานบริษัทผู้รับจ้างให้บริการรถเข็นกระเป๋าเตรียมความพร้อมพนักงาน และรถเข็นกระเป๋าให้พร้อมบริการผู้โดยสารตลอดเวลา และให้เพิ่มความถี่ในการจัดเก็บรถเข็นกระเป๋าให้เร็วขึ้น รวมทั้งขอความร่วมมือสายการบินให้เปิดใช้งานเคาน์เตอร์ให้ครบตามจำนวนที่ได้รับ

การจัดสรร นอกจากนี้ ให้จัดเจ้าหน้าที่ Airport Help คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารในด้านต่างๆ เช่น แนะนำการใช้เครื่อง CUSS (Common Use Self Service) สำหรับเช็กอินด้วยตนเอง หรือเครื่อง CUBD (Common Use Bag Drop) สำหรับโหลดสัมภาระด้วยตนเอง รวมไปถึงช่วยดูแลเรื่องการจัดแถวของผู้โดยสารทั้งในพื้นที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์เช็กอิน เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ว ตลอดจนด้านระบบคมนาคมขนส่ง ซึ่งขณะนี้ที่ ทสภ. ทดม. ทชม.และ ทภก.ได้มีการเปิดให้บริการรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grab Application เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย และการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดความหนาแน่นของรถยนต์ในท่าอากาศยาน

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า AOT พร้อมดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยท่าอากาศยานของ AOT จะมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวก และศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานและประสานงานด้านการข่าวร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งจะจัดพิธีปล่อยแถวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยและเตรียมความพร้อมต้อนรับผู้โดยสาร ในด้านการรณรงค์ด้านความปลอดภัย AOT ได้จัดให้มีโครงการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย และโครงการท่าอากาศยานสีขาว 

ทั้งนี้ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 อาจมีผู้ใช้บริการสนามบินจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ ทดม.ที่อาจมีรถหนาแน่นบริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก AOT จึงได้กำหนดให้รถแท็กซี่สาธารณะทุกคันใช้ช่องทาง PASSENGER DROP LANE พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารบริเวณช่องทาง PASSENGER DROP LANE ประตู 16 และ 17 ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นรถแท็กซี่สาธารณะที่มีผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ หรือต้องการใช้รถวีลแชร์ หรือนำรถวีลแชร์มาด้วยให้ส่งผู้โดยสารที่บริเวณประตูหมายเลข 5 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (ขาออก) อาคาร 1 ทดม.

อย่างไรก็ตาม AOT ขอแนะนำผู้โดยสารที่ต้องการความรวดเร็วในขั้นตอนการเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระใช้บริการเครื่อง CUSS และ CUBD ซึ่งใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่ต้องรอต่อแถวเช็กอินที่เคาน์เตอร์ และสำหรับในขั้นตอนตรวจค้น ขอแนะนำผู้โดยสารปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ ติดตัวขึ้นเครื่อง ขอความร่วมมือผู้โดยสารตรวจสอบให้บรรจุภัณฑ์มีข้อความระบุปริมาตรที่ชัดเจน และไม่เกิน 100 มิลลิลิตร จำนวนรวมไม่เกิน 10 ชิ้น หากมีบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวเกินกำหนดจะต้องนำไปโหลดใต้ท้องเครื่อง และสำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดเล็กที่มีค่าความจุไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 Wh หรือ 20,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดกลางที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 100 ถึง 160 Wh หรือ 20,000 ถึง 32,000 mAh สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น แต่ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองขนาดใหญ่ที่มีค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160 Wh หรือ 32,000 mAh ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบินและโหลดใต้ท้องเครื่องบิน 

นอกจากนี้ แบตเตอรี่ลิเธียมสำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้าวัตต์ – ชั่วโมง (Wh) หรือระบุขนาดบรรจุของลิเธียม หรือระบุไม่ชัดเจนไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบิน หรือโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยทำให้ขั้นตอนการตรวจค้นรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม AOT ได้ร่วมส่งเสริมและสืบสานประเพณีสงกรานต์ โดยท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อต้อนรับผู้โดยสาร ได้แก่ ทสภ.จัดซุ้มถ่ายภาพและกิจกรรมสรงน้ำพระในอาคารผู้โดยสารหลัก และจัดซุ้มนิทรรศการประวัติความเป็นมาของเทศกาลสงกรานต์ ณ บริเวณชั้น 3 อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite-1: SAT-1) ส่วน ทดม.จัดตั้งซุ้มเทศกาล “Gateway to Wonderful Songkran อัศจรรย์สงกรานต์ ประเพณีไทยมรดกโลก” พร้อมการแสดงขบวนกลองยาว และการฟ้อนรำชุดเริงระบำสงกรานต์ รวมถึงจัดกิจกรรมสรงน้ำพระ การสาธิตการทำน้ำอบน้ำปรุง และกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสาร 

สำหรับ ทชม.นอกจากจะจัดจุดสรงน้ำพระ และจุด Check-in ถ่ายภาพในบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ (ปี๋ใหม่เมือง) แล้ว ยังจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลสงกรานต์ให้ผู้โดยสารได้มีส่วนร่วม อาทิ การสาธิตตัดตุงไส้หมู และการสาธิตทำกรวยดอกไม้ เป็นต้น รวมทั้งมีการแจกของที่ระลึก และจัดการแสดงคีตะมวยไทย ด้าน ทชร.จัดซุ้มสรงน้ำพระ กิจกรรมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร พร้อมการแสดงรำไทยจากนักเรียนโรงเรียนป่าสักไก่ ตลอดจนจัดการแสดงดนตรีพื้นเมืองล้านนา เพื่อสร้างความสนุกสนาน ขณะที่ ทภก.จัดกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสารเช่นกัน และที่ ทหญ.จัดซุ้มสรงน้ำพระ และจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ โดยมีการแสดงเพื่อสร้างบรรยากาศในอาคารผู้โดยสาร

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 อาจมีผู้โดยสารเดินทางจำนวนมาก AOT จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน โดยสามารถสอบถามเกี่ยวกับเที่ยวบินและการบริการได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

นอนเรือนจำคืนแรก “เสก โลโซ” ปรับตัวได้ คุยปกติ

กรมราชทัณฑ์ 21 พ.ค. – คืนแรกเรือนจำพิเศษมีนบุรี “เสก โลโซ“ ปรับตัวได้ คุยปกติ หลับๆ ตื่นๆ บ้าง กักโรคโควิดก่อนแยกแดน ภายหลังศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี 12 เดือน 20 วัน นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ศิลปินดัง ในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่, เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่คุมตัวนายเสกสรรค์ เข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เรือนจำพิเศษมีนบุรี ได้รับตัวนายเสกสรรค์ เข้ากระบวนการรับตัว คัดกรองแรกรับตามมาตรการกรมราชทัณฑ์ และส่งแยกกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ในพื้นที่ผู้ต้องขังรับใหม่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากการตรวจสุขภาพนายเสกสรรค์ พบว่าทั่วไปปกติ แต่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ทั้งนี้ ระหว่างกักโรค เจ้าตัวมีการพูดคุยสนทนา และให้ความร่วมมือกับราชทัณฑ์เป็นอย่างดี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมยวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก […]

จนท.อัดอากาศเข้าหลุม ใช้คนลงไปขุดหาตัวผู้ประสบภัย

กทม. 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่อัดอากาศเข้าไปในหลุม เตรียมความพร้อมส่งชุดค้นหา โรยตัวใช้มือขุดหาตัวผู้ประสบภัย เวลา 19.00 น. ชุดค้นหาผู้สูญหายได้นำท่ออัดอากาศเข้าไปภายในหลุมที่คนงานพลัดตกลงไป ที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สามารถขุดลงไปได้ลึกในระดับ 9 เมตร และเตรียมส่งชุดค้นหาลงไปใช้วิธีสำรวจโดยการขุดด้วยมือแทนการใช้เครื่องจักร เนื่องจากกังวลว่า หากขุดดินลึกลงไปในระดับที่มากกว่า 10 เมตร แรงสั่นสะเทือนเครื่องจักรจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปภายในหลุมดังกล่าวได้เนื่องจากภายในหลุมมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชุดค้นหาได้ ทำให้ต้องอัดอากาศเข้าไปเบื้องต้นก่อน และคาดว่า ชุดเจ้าหน้าที่สามารถโรยตัวลงไปสำรวจได้ในเวลา 20.00 น. ซึ่งการลงไปในหลุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถลงไปได้เพียงครั้งละ 2 คน ใช้เวลารอบละไม่เกิน 15 นาที เวลา 20.00 น. ชุดค้นหานำอุปกรณ์ขุดเจาะ พร้อมโรยตัวลงไปในหลุม เพื่อหย่อนน้ำยาเบนโทไนต์ ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ควบคุมการไหลของน้ำ และป้องกันการพังทลายของพื้นดินช่วงที่มีการเจาะ ด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับน้ำและเพิ่มความหนืดให้กับดินจะทำให้ดินไม่ทรุดตัว โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลจากทีมข่าวว่า ตลอดทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ผู้สูญหายน่าจะติดค้างอยู่ในระยะความลึกประมาณ 16 […]

กว่า 24 ชั่วโมง ยังกู้ร่างคนงานพลัดตกหลุมไม่สำเร็จ

ศรีสะเกษ 20 พ.ค. – กว่า 24 ชั่วโมงแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างคนงานชาวศรีสะเกษพลัดตกหลุมฝังเสาเข็ม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งทำงานอย่างยากลำบาก ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาตลอด ดินเลื่อนไหลอ่อนตัว ส่วนญาติคนงานที่ศรีสะเกษ รอร่างกลับบ้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกาะติดภารกิจค้นหาร่างนายศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือดาว อายุ 33 ปี คนงานชาวศรีสะเกษ ที่ พลัดตกหลุมฝังเสาเข็มจากดินสไลด์ทับฝังร่างมิดความลึก 19 เมตร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว ที่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนประเมินสถานการณ์ภารกิจในการค้นหา ร่วมกับหลายหน่วยงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ขุดดินลึกลงไปได้แล้ว 9 เมตร จากการตรวจสอบดินที่นำขึ้นมา พบเพียงเศษวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในระยะ 8 เมตร เช่น เสียม […]