บีซีพีจีเผยกำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 98

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – บีซีพีจีประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2560
กำไรสุทธิก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 577 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 98


บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของปี 2560
 
มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าประมาณ 890 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 จากไตรมาสที่
1 ของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2559
 
ในขณะที่กำไรสุทธิก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของกลุ่มบริษัทฯ
ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 คิดเป็นเงินประมาณ 577 ล้านบาท
หรือเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วประมาณร้อยละ 98
 
แต่เนื่องจากเงินสกุลบาทมีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จึงทำให้เกิดการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 462
ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 1.7

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด
(มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 
ของปีนี้ นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี
ทุกโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นสามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้ตามแผนเต็มไตรมาส  โดยธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น มีผลประกอบการดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
เป็นผลจากโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นและจากสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตไฟฟ้า
ทำให้บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 171 ล้านบาทจาก 6 โครงการ (กำลังการผลิตตามสัญญารวม
30 เมกะวัตต์) ในขณะที่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2559 มีรายได้ประมาณ 43 ล้านบาทจาก 4
โครงการ (กำลังการผลิตตามสัญญารวม 10.7 เมกะวัตต์) นอกจากนี้ บริษัทฯ
ยังมีรายได้จากการปรับปรุงทางบัญชีจากการชำระค่าตอบแทนที่เหลือสำหรับการเข้าซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นจำนวนประมาณ
140 ล้านบาท และรับรู้กำไรจากการลงทุนธุรกิจพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ประมาณ 43
ล้านบาทอีกด้วย


หากพิจารณากำไรสุทธิก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของกลุ่มบริษัทฯ
ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ คิดเป็นเงินประมาณ 577 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ประมาณร้อยละ 98 ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินการจริงที่ดีขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม
จากการเกิดการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
(ซึ่งเป็นผลกระทบต่อตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น)
ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้คิดเป็นเงินประมาณ 462 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ
1.7   ทั้งนี้ บริษัทฯ
มีการบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและศึกษาความเป็นไปในการใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ
เพื่อให้ผลกระทบต่อกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ทั้งนี้ธุรกิจล่าสุดที่ร่วมลงทุนคือธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซียที่เพิ่งจะลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้นและรับโอนหุ้นมาเมื่อเร็วๆ
นี้ ทำให้ในวันนี้ บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมประมาณ 600 เมกะวัตต์
หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 และกำลังอยู่ระหว่างการวางแผนธุรกิจรูปแบบใหม่ที่ใกล้ชิดผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
จากการที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ในยุคดิจิตอล (
disruptive technology) จะพลิกโฉมธุรกิจพลังงาน
ทำให้เกิดการขายไฟฟ้าผ่านอินเตอร์เน็ต (
internet of energy) ในอนาคตอันใกล้นี้
สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม