REIC เสนอรัฐลดดอกเบี้ยกระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัย หลังปี 66 เหลือขายบาน

กรุงเทพฯ 28 มี.ค. – ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) ระบุปี 2566 โครงการที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ลดลงร้อยละ 22.5 ขณะที่เหลือขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.7 เมื่อเทียบกับปี 2565 อัตราดูดซับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.7 ส่วนปี 2567 คาดการณ์ว่าจะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 เสนอรัฐลดดอกเบี้ยกระตุ้นกำลังซื้อ


ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า อุปทานโดยรวมของตลาดที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ ปริมณฑล ไม่สอดคล้องกันโดย REIC ได้ทำการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขาย ประจำไตรมาส 4 ปี 2566 เฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย พบว่ามีที่อยู่อาศัยที่เสนอขายทั้งหมด 228,102 หน่วย มูลค่า 1,264,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 โดยเป็นโครงการเปิดขายใหม่จำนวน 31,363 หน่วย มูลค่า 240,006 ล้านบาท ขณะที่มีหน่วยขายได้ใหม่เพียง  18,208 หน่วย ส่งผลให้ภาพรวมจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายปี 2566 มีมาถึง 209,894 หน่วย มูลค่า 1,169,531 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 126,247 หน่วย โครงการอาคารชุด 83,647 หน่วย โดยอัตราดูดซับลดลงจากร้อยละ 3.8 ในปี 2565 เป็นร้อยละ 2.7

โดยช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 พบว่าอาคารชุดมีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่สูงสุดถึงร้อยละ 49.7 (15,593 หน่วย) รองลงมาคือบ้านจัดบ้านเดี่ยวร้อยละ 22.1 (6,917 หน่วย) ทาวน์เฮ้าส์ ร้อยละ 17.6 (5,510 หน่วย) บ้านแฝดร้อยละ 10.5 (3,306 หน่วย) โดยระดับราคาที่มีการเปิดขายใหม่มากที่สุดอยู่ในกลุ่มราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท มีจำนวนถึง 6,588 หน่วย และระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มีจำนวน 6,056 หน่วย 


ส่วนทำเลที่มีจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่สูงสุด คือทำเลบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง ส่วนทำเลที่ขายอาคารชุดขายได้ใหม่สูงสุด คือ ธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด และทำเลที่ขายบ้านจัดสรรขายได้ใหม่สูงสุด คือ บางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง

ขณะที่ทำเลที่ควรเฝ้าระวังหรือทำเลที่มีหน่วยเหลือขายสูงสุด ซึ่งพบว่ามีหน่วยที่สร้างเสร็จเหลือขายจำนวน 41,470 หน่วย ที่อยู่อาศัยเหลือขายอยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 73,571 หน่วย และที่อยู่อาศัยเหลือขายที่ยังไม่มีการก่อสร้างจำนวน 94,853 หน่วย มีทั้งอาคารชุด ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และ อาคารพาณิชย์ ระดับราคาที่มีจำนวนหน่วยเหลือขายสูงสุดอยู่ในกลุ่มราคา 2.01 – 3.00 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยทางเศรษฐกิจสามารถบรรลุตามเป้าหมาย จะส่งผลให้ปี 2567 ตลาดที่อยู่อาศัยมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปใกล้เคียงกับปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ดีที่สุดหลังจากการเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยคาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยใหม่เข้ามาเปิดขายในตลาดจำนวนทั้งสิ้น 103,019 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 มูลค่ารวม 651,377 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร 50,882  หน่วย มูลค่า 425,415 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 52,137 หน่วย มูลค่า 225,965 ล้านบาท และคาดว่าจะมีจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 91,869 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.6 มูลค่า 486,084 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 52,647 หน่วย มูลค่ารวม 333,868 ล้านบาท โครงการอาคารชุด จำนวน 39,222 ล้านบาท มูลค่า 152,216 ล้านบาท


อย่างไนก็ตาม การที่ยอดขายของอาคารชุดอาจจะต่ำกว่ายอดเปิดตัวใหม่ จะส่งผลให้ภาพรวมโครงการที่อยู่อาศัยเหลือขายขึ้นร้อยละ 10.6 เทียบกับปี 2566 หรือจำนวน 232,216 หน่วย มูลค่า 1,296,376 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านจัดสรร 135,654 หน่วย มูลค่า 866,755 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด 96,562 หน่วย มูลค่า 429,621 ล้านบาท โดยอัตราดูดซับลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.4 เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอัตราดูดซับการขายของโครงการอาคารชุดที่อาจมีการปรับลดลงมากกว่าบ้านจัดสรร

“ปี 2567 ทิศทางสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจไทยที่อาจจะชะลอตัวลงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การยกเลิกมาตรการผ่อนปรน LTV ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีอัตราส่วนที่สูงกว่าร้อยละ 90 ของ GDP ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยและการขอสินเชื่อ ทำให้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้น้อยลง เนื่องจากสถาบันการเงินมีเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งคาดว่าอาจส่งผลกระทบต่อยอดการโอนกรรมสิทธิ์ได้ แต่หากมีการออกมาตรการเพิ่มความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม มีโอกาสที่ตลาดจะปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้” ดร.วิชัย กล่าว.-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]

ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียงนายกฯ ไม่กดดัน โฟกัสคลิปเสียงต้องแปลชัดเจน

ชลบุรี 25 มิ.ย.-เลขาฯ ป.ป.ช. เผย ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียง นายกฯ ไม่กดดัน ยังอยู่ขั้นตอนรับมาตรวจสอบ โฟกัสที่คลิปเสียง ต้องแปลข้อความชัดเจน เพราะเป็นสองภาษา เบื้องต้นไม่ต้องเชิญ “แพทองธาร” มาสอบ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวภายหลังเปิดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. ที่จ.ชลบุรี ถึงคดีคลิปเสียง นส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี กับนายฮุนเซน ว่า เรื่องนี้ มีการร้องมาที่ ป.ป.ช. ก็เป็นเรื่องปกติเมื่อมีการร้องในคดีสำคัญ สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องสรุปรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการรับทราบ ซึ่งคดีสำคัญเมื่อ ที่ประชุมรับทราบแล้วก็จะกำหนดสิ่งที่ต้องดำเนินการเบื้องต้น ระยะเวลา เมื่อเสร็จต้องกลับมาพิจารณาในที่ประชุม จึงไม่ใช่ 10 วันส่งศาลตามที่เป็นข่าว ยังอยู่ในขั้นตอนรับมาตรวจสอบ ปกติ ถ้าอยู่ในอำนาจหน้าที่ก็รับมา เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ จึงมีมติต้องมารายงานให้กรรมการ ป.ป.ช.ทราบเป็นระยะ กรณีนี้ ร้องฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ถ้าประเด็นรายละเอียดต้องสอบน้อย ก็ใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้ามีรายละเอียดมากก็กำหนด 6 เดือน […]

ชาวกัมพูชากว่า 500 คน แห่กลับประเทศด่านช่องจอม จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 25 มิ.ย.-ชาวกัมพูชากว่า 500 คน ส่วนมากเป็นแรงงานและผู้ป่วย แห่กลับประเทศผ่านด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ หลังฝั่งกัมพูชาเปิดด่าน เวลา 10.00 น. โดยใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เช้าวันนี้ทางฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยดำเนินการตามมาตรการและคำสั่งจากกองทัพภาคที่2 อย่างเข้มงวด เพื่อดำเนินการตามมนุษยธรรมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ผู้คนผ่านเข้าออกและขนส่งสินค้า แต่ก็มีปัญาหาจากฝั่งกัมพูชา ในวันนี้กลับปิดด่าน โดยทางฝั่งกัมพูชาอ้างต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าอุดรมีชัยเท่านั้น ทำให้มีชาวกัมพูชาจำนวนมากมารอคิวเดินทางกลับ ส่วนมากจะเป็นแรงงานและผู้ป่วยมาหาหมอแล้วเดินทางกลับ ล่าสุด กัมพูชาเปิดประตูแล้วเมื่อเวลา 10.00 น. มีชาวกัมพูชากว่า 500 คน เดินทางกลับ ส่วนคนไทยกลับเข้ามามีน้อย ขณะเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ตรวจคุมเข้ม โดยไม่ให้ชาวกัมพูชาผ่านเข้ามาและคนไทยไม่ให้ผ่านเข้ากัมพูชาเด็ดขาด รวมไปถึงรถขนส่งสินค้า แต่มีชาวกัมพูชาบางคนไม่เข้าใจ พยายามจะเข้ามาโดยอ้างเอกสารถูกต้อง เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชา ได้มาทำความเข้าใจและให้เดินทางกลับ โดยทางกัมพูชาได้ปิดประตูด่านแล้วเวลา 10.30 น. ใช้เวลาเปิดเพียง 30 นาทีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย