ยอดส่งออกไทยเดือน ก.พ.67 ยังโตดัน 2 เดือนบวกถึง 6.7% 

นนทบุรี 26 มี.ค.-ปลัดกระทรวงพาณิชย์เผยยอดส่งออกเดือน ก.พ.67 มีมูลค่า 23,384.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มต่อเนื่อง 3.6% เป็นเดือนที่ 7 เดือน ส่งผลให้ยอดส่งออก 2 เดือนโตตาม 6.7% ระบุส่งออกโดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้นแรงหนุนการฟื้นตัวด้านผลิตในประเทศดี แต่ยังห่วงปัญหาเศรษฐกิจจีนที่ชะลออาจทำให้ยอดส่งออกในเดือนมี.ค.67 ไม่ขยายตัว แต่มั่นใจยอดส่งออกทั้งปีน่าจะบวก 1-2% ตามที่คาดการณ์ไว้           

นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ.67 มีมูลค่า 23,384.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.6% ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน แต่เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 827,139 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 23,938.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.2% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 856,508 ล้านบาท ขาดดุลการค้ามูลค่า 554 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 29,369 ล้านบาท รวม 2 เดือนปี 2567 (ม.ค.-ก.พ.) การส่งออกมีมูลค่า 46,034.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.7% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 1,611,719 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 49,346.6  ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.9% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 1,747,195 ล้านบาท ทำให้ขาดดุลการค้า 3,311.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 135,476 ล้านบาท
         
ทั้งนี้ ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้าเกษตร 7.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน แต่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ลด 9.2% หดตัวในรอบ 6 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว ยางพารา อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป สิ่งปรุงรสอาหาร นมและผลิตภัณฑ์จากนม กาแฟ ส่วนสินค้าที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำตาลทราย ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ทั้งนี้ 2 เดือนของปี 67 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 3.7%
         
ขณะะที่ สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 5.2% ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ทั้งนี้ 2 เดือนของปี 2567 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 7.7%
         


ส่วนตลาดส่งออก ตลาดหลัก เพิ่ม 2.7% โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ 15.5% สหภาพยุโรป (27) เพิ่ม 3.3% และ CLMV เพิ่ม 4.5% แต่จีน ลด 5.7% ญี่ปุ่น ลด 5.8% และอาเซียน (5) ลด 1.2% ตลาดรอง เพิ่ม 3.8% โดยขยายตัวในตลาดทวีปออสเตรเลีย 26.4% ลาตินอเมริกา 7.9% รัสเซียและกลุ่ม CIS 46.4% แต่เอเชียใต้ ลด 2.6% ตะวันออกกลาง ลด 9.9% แอฟริกา ลด 18.2% และสหราชอาณาจักร ลด 7.3% ตลาดอื่น ๆ เพิ่ม 94.2% อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่ม 198.2%
         
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการส่งออกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดว่า จะยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากภาคการผลิตฟื้นตัว และเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สินค้าเกษตร ได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัว สินค้าอุตสาหกรรม เช่น อิเล็กทรอนิกส์เติบโตตามกระแสเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงพาณิชย์ยังคงร่วมมือทำงานกับภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการตลาด และมีการผลักดันสินค้าของ SMEs ไปต่างประเทศ แต่ก็ต้องจับตาการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และมีความไม่แน่นอน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกได้ แต่คงต้องจับตาการส่งออกในเดือน มี.ค.2567 ที่ฐานปีก่อนสูงมาก ส่งออกได้สูงถึง 28,004.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะมีผลต่อการส่งออก แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าการส่งออกจะยังโตได้ต่อเนื่อง และทั้งปี จะทำงานหนัก เพื่อให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1-2% ต่อไป

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) กล่าวว่า ขณะนี้การขนส่งทางทะเล เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ราคาก็ยังสูงกว่าปกติ 1-2 เท่า หากสามารถบริหารจัดการได้ ก็จะไม่กระทบต่อการส่งออก ส่วนตัวเลขเดือน มี.ค.2567 คาดว่าจะส่งออกได้ประมาณ 25,500-26,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่ส่งออกได้ 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไตรมาสแรกปี 2567 จะส่งออกได้รวม 71,500-72,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1-2% ส่วนไตรมาส 2 คาดว่าการส่งออกจะยังขยายตัวได้ดี ประเมินว่าจะอยู่ที่ 71,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม