เตรียมดึงผลไม้แปรรูปร่วมงานมหาสงกรานต์ท้องสนามหลวง

ปทุมธานี 24 มี.ค. – อธิบดีกรมการค้าภายใน เตรียมนำสินค้าผลไม้แปรรูป เช่น มะม่วง มะพร้าว ไอศกรีม มาร่วมงานมหาสงกรานต์ท้องสนามหลวงกลางเดือน เม.ย.นี้ เพื่อลดปริมาณผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดมาก พร้อมประเมินหากผลผลิตมากจะเร่งระบายผ่านห้างเล็กใหญ่ทั่วประเทศ ยอมรับมะนาวแพงเป็นช่วงสั้นๆ แนะซื้อมะนาวผงแทน ขณะที่พืชเศรษฐกิจสำคัญชนิดอื่น ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน ราคาดีทุกรายการจะส่งผลดีกับเกษตรกร


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า กรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานราคาสินค้าทั้งุปโภคและบริโภคอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตผลไม้ไทยจะออกสู่ตลาดมาก โดยเตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อไม่ให้ราคาตกต่ำที่จะทำให้เกษตรกรชาวสวนได้รับผลกระทบมากจนเกินไป ซึ่งเตรียมแผนที่จะหาแนวทางระบายสินค้าผลไม้ที่สำคัญและมีแนวโน้นผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยแนวทางที่กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการ คือ การเชื่อมโยงตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ซึ่งกรมฯได้พูดคุยกับห้างไว้บ้างแล้วจะขอพื้นที่บางส่วนให้เกษตรกรชาวสวนนำผลไม้มาวางขายตามห้างสรรพาสินค้าเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนมีพื้นที่ระบายสินค้าผลไม้ตามห้างต่างๆ ด้วย

นอกจากนี้ ในเบื้องต้นกรมฯ จะนำพันธมิตรร้านค้า เกษตรกรชาวสวนที่นำผลไม้แปรรูป เช่น มะม่วง มะพร้าว ไอศครีมและอื่นๆที่เน้นเป็นน้ำผลไม้ไปเข้าร่วมกิจกรรมมหาสงกรานต์ที่บริเวณท้องสนามหลวงและที่ถนนราชดำเนินกลางเพื่อจำหน่ายน้ำผลไม้ราคาไม่แพงให้กับประชาชนที่เดินทางมาเล่นสงกรานต์ภายในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย และไม่เพียงในทเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น กิจกรรมนี้จะยังไปในจังหวัดท่องเที่ยวที่ร่วมจัดงานมหาสงกรานต์ทั่วประเทศในปีนี้ด้วยเช่นกัน


อย่างรก็ตาม จากสภาพอากาสที่ร้อนขึ้น กรมการค้าภายในได้ติดตามราคาสินค้าอาหารสด โดยส่วนใหญ่ปรับขึ้นลงตามกลไกตลาดบ้าง แต่ช่วงหน้าร้อนนี้ฝนทิ้งช่วง ทำให้ราคาพืชผักบางชนิด เริ่มขยับตัวขึ้นบ้าง เช่น มะนาวจากผลผลิตที่ลดลง ดังนั้น กรมการค้าภายในมองว่าจะเป็นราคาขึ้นช่วงสั้นๆ บางพื้นที่จะมีราคาแพงขึ้นบ้าง จึงอยากแนะนำผู้บริโภคเลือกเปลี่ยนมาใช้ “มะนาวผง” ทดแทนที่มีราคาไมีแพงมาก เก็บไว้ใช้ได้นานในช่วงที่ราคามะมาวผลมีราคาที่สูงขึ้น ปีนี้ผลผลิตมะนาวในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีปริมาณเพียงแค่ 42,000 ตันถือว่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีผลผลิตเฉลี่ยถึง 56,000 ตัน โดยเฉลี่ยอยู่ที่ลูกละ 4.60 บาทเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ยลูกละ 3.71 บาท แต่กรมฯ มีแผนเร่งเชื่อมโยงตลาดโดยเฉพาะนำมะนาวผงจากโครงการหลวงนำไปจำหน่ายผ่านยรถโมมายธงฟ้า โดยคาดว่าราคามะนาวจะกลับมาเป็นปกติได้ในช่วงเข้าสู่ฤดูฝน

“กรมการค้าภายในได้ดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยไปรวบรวมมะนาว มาไว้ส่วนหนึ่ง นำไปทำ “มะนาวผง” ร่วมกับ สวนจิตรลดา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่งมีจำหน่ายผ่าน ร้านธงฟ้า และรถโมบายธงฟ้า ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงอยากแนะนำให้ ร้านอาหารต่างๆ สามารถใช้เลือกใช้ มะนางผง ทดแทนได้ ซึ่งในตลาดมีหลายยี่ห้อให้เลือก หรือหากจะใช้น้ำมะนาวขวด ก็ควรจะเลือกจากแหล่งที่มาที่มีมาตรฐาน” วัฒนศักย์กล่าว

ขณะเดียวกันราคาสินค้าเกษตรของไทยในปีนี้ถือว่าดีต่อเนื่อง ไม่เฉพาะ ยางพาราเท่านั้น แต่พืชเศรษฐกิจสำคัญชนิดอื่น ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน ราคาดีทุกรายการเช่นเดียวกัน โดยปีนี้ถือเป็นข่าวดีของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวราคายังดีต่อเนื่อง สำหรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ยืนราคานี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เฉลี่ยตันละ 14,850 บาท สูงสุดถึง 15,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ทรงตัวเฉลี่ย 14,600 บาท สูงสุดที่ 15,200 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี สูงขึ้นเล็กน้อย เฉลี่ยอยู่ที่ 14,800 บาทต่อตัน ขยับขึ้นมาจากสัปดาห์ก่อนที่ 14,470 บาทต่อตัน ข้าวเปลืกกเจ้า ทรงตัวเฉลี่ยที่ตันละ 12,600 บาทสูงสุดที่ 12,700 บาทต่อตัน และข้าวเปลือกเหนียว ที่ตันละ 13,300 บาท ถือว่าราคาข้าวทุกตัวอยู่ในเกณฑ์ดี และสูงกว่าปีที่แล้ว


ส่วนมันสำปะหลัง กิโลกรัมละ 3.48 บาท เป็นราคาที่ดีกว่าปีที่แล้วเช่นกัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทรงตัว ที่กิโลกรัมละ 9.50- 9.60 บาทถือเป็นราคาดีที่เกษตรกรพอใจ ขณะที่ราคาผลปาล์มน้ำมันเฉลี่ยที่ 5.70-5.80 ยังสูงต่อเนื่องสอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบ หรือ CPO 34.13 บาท ส่วนน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เฉลี่ยขวดลิตรละ 45.19 บาทแต่ในห้างต่างๆ นำมาจัดโปรโมชั่น ในราคาขวดละ 43-45 บาท ซึ่งขณะนี้สตอกน้ำมันปาล์มดิบ อยู่ในเกณฑ์ที่บริหารจัดการได้ประมาณ 220,000 ตัน และผลผลิต กำลังทยอยออกสู่ตลาด ตั้งแต่เดือนนี้จนถึงเดือนพฤษภาคม

ส่วนราคายางพาราถือว่าปรับขึ้นเยอะ โดยราคายางแผ่นดิบ เฉลี่ย 85 บาทต่อกิโลกรัม สูงกว่าปีที่แล้วมาก ที่เฉลี่ยเพียง 47.58 บาทและยังสูงกว่าเดือนที่แล้วที่ 70 บาท ราคาน้ำยางสดเฉลี่ยที่ 77.50 บาทต่อกิโลกรัม จากปีที่แล้วเฉลี่ยเพียง 48.25 บาท และยังมีแนวโน้มขยับขึ้นอีก จากมาตราการบริหารจัดการผลผลิตผลที่ดี

ขณะที่ ราคาเนื้อหมู ยังทรงตัวระดับเฉลี่ยกิโลกรัมละ 124-128 บาท ซึ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามรักษาระดับราคาไม่ให้ต่ำไปกว่านี้ เนื้อไก่ มีทั้งปรับเพิ่มขึ้นและลดลง ตามชิ้นส่วน โดยเนื้อน่องติดสะโพกเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 82.31 บาท ชิ้นส่วนน่องกิโลกรัมละ 81 บาท ชิ้นส่วนสะโพกกิโลกรัมละ 85 บาท และ เนื้อหน้าอกกิโลกรัมละ 76 บาท ส่วนไข่ไก่ ราคาย่อลงเล็กน้อย เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 3.76-3.79 บาท ขณะที่ ปลา ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว โดยปลานิลกิโลกรัมละ 74.50-75.00 บาท ปลาดุกกิโลกรัมละ 75.80 บาท ปลาทับทิมราคาย่อลงเล็กน้อย อยู่ที่กิโลกรัมละ 104 บาท ปลากะพงเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 139 บาทเป็นต้น

ส่วนผักที่ราคาปรับลดลงเล็กน้อยเฉลี่ยอยู่ที่ 33-34 บาทต่อกิโลกรัม ถั่วฝักยาวเฉลี่ยอยู่ที่ 46 บาทต่อกิโลกรัม ผักบุ้งจีน 31.20 บาทต่อกิโลกรัม ผักชี เฉลี่ยกิโลกรัมละ 82.50 บาท โดยรวมถือว่าเป็นการปรับขึ้นลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมาและขอย้ำกรมกาคค้าภายในมีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทุกประเภทอย่างใกล้ชิด หากพื้นที่ใดเอารัดเอาเปรียบจำหน่ายสินค้าแพงเกินจริงหรือไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้าประชาชนสามารถร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 ได้ทันที.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]