“กรุงไทย” เปิดตัวเงินฝากสีเขียวมาตรฐานสากล 

กรุงเทพฯ 20 มี.ค.-“กรุงไทย” เปิดตัวเงินฝากสีเขียวมาตรฐานสากล นำร่องโครงการบริหารสภาพคล่องเชื่อมโยงเป้าหมาย ESG กับ “ปตท. และ ปตท.สผ.” ครั้งแรกในไทย


กรุงไทยสร้างบรรทัดฐานใหม่ของธนาคารพาณิชย์ไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “เงินฝากสีเขียว” (Green Deposits) ทั้ง สกุลเงินบาท และ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้หลักเกณฑ์การจัดหาเงิน และการปล่อยสินเชื่อเพื่อโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Financing Framework) โดยมี ISS Corporate Solutions (ISS-ESG) เป็นผู้สอบทานภายนอก ตามมาตรฐานด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อมระดับสากล พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทางการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม (ESG Financial Solution) จับมือบริษัท ปตท.และ ปตท.สผ. ลงนาม “โครงการบริหารสภาพคล่องเชื่อมโยงเป้าหมายด้าน ESG ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว” ครั้งแรกในประเทศไทย ตอบโจทย์ทั้งการบริหารเงินลงทุนของบริษัท ในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด และสนับสนุนนโยบายการเติบโตแบบยั่งยืน โดยภายใต้โครงการความร่วมมือนี้ 

ธนาคารจะนำเงินฝากสีเขียวจาก ปตท. และ ปตท.สผ. ไปให้สินเชื่อที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) โครงการขนส่งด้วยพลังงานสะอาด (Clean Transportation) โครงการอาคารสีเขียว (Green Building) อีกทั้งมีการตั้งเป้าตัวชี้วัดด้าน ESG โดยธนาคารจะสนับสนุนผลตอบแทน หรือคาร์บอนเครดิตเพิ่มเติม หาก ปตท. และ ปตท.สผ. ดำเนินงานตามเป้าหมาย ESG ได้สำเร็จ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้ง 3 องค์กรในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนระยะยาวในทุกภาคส่วน


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ตลอดจนประยุกต์แนวคิดเรื่องสิ่งแวดล้อมกับการบริหารจัดการทางการเงินให้พัฒนาไปพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุดได้มีการลงทุน “เงินฝากสีเขียว” (Green Deposits) ของ   กลุ่ม ปตท. กับธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อแก่โครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการพลังงานหมุนเวียน โครงการขนส่งด้วยพลังงานสะอาด โครงการอาคารสีเขียว ตลอดจน ในกรณีที่ ปตท. และ ปตท.สผ. ดำเนินการตามเป้าหมาย ESG ได้สำเร็จ ธนาคารกรุงไทยยังจะสนับสนุนผลตอบแทนเพิ่มเติม หรือคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน T-VER อีกด้วย 

ความร่วมมือระหว่าง  กลุ่ม ปตท. กับ ธนาคารกรุงไทย ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการเชื่อมโยงแผนธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน เข้ากับผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) และเงินฝากสีเขียวเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงความตั้งใจของกลุ่ม ปตท. ในการปรับเปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นการลงทุนในธุรกิจคาร์บอนต่ำ ที่นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของกลุ่ม ปตท. และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงให้กับประเทศไทยแล้ว ยังช่วยสนับสนุนให้กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2050 พร้อมจุดพลังขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 


เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามแผนกลยุทธ์ โดยการขับเคลื่อนธุรกิจหลักด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการบริหารจัดการการลงทุนในโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่มีคาร์บอนตํ่า การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต เช่น การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CCS (Carbon Capture and Storage) และการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนและป่าบก 

รวมทั้ง การขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และเพื่อเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 ด้วย ซึ่งการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการบริหารจัดการทางการเงินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของปตท.สผ. ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) รวมทั้ง ยังเป็นการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันอีกด้วย

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ธนาคารมุ่งมั่นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงินมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม สนับสนุนการทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาโลกร้อน และขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก (Net Zero Emission) ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสร้างคุณค่า ตอบโจทย์ลูกค้า สู่ความยั่งยืน” โดยยึดหลักการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ  

เมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารได้จัดทำหลักเกณฑ์การจัดหาเงินและการปล่อยสินเชื่อเพื่อโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Financing Framework) ตามมาตรฐานด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อมในระดับสากล เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในการออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแบบครบวงจร  สร้างมาตรฐานการให้บริการการเงินสีเขียวครบวงจร ครอบคลุมเงินฝาก สินเชื่อ และบริการทางการเงินอื่นๆ ที่สอดคล้องตามมาตรฐานสากล เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน 

ธนาคารได้รับการสนับสนุนจาก ปตท. และ ปตท.สผ. เข้าดำเนินโครงการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องที่ครอบคลุม Green Deposits และเชื่อมโยงกับตัวชี้วัดด้าน ESG หาก ปตท. และ ปตท.สผ. ดำเนินการตามเป้าหมาย ESG ได้สำเร็จ ธนาคารพร้อมสนับสนุนผลตอบแทนเพิ่มเติม หรือคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน Verra และ T-VER ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทั้ง 3 องค์กร ได้ร่วมสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ให้ตลาดเงินและตลาดทุนไทย หลังประสบความสำเร็จจากการทำ The 1st Carbon Credit Linked FX Derivatives และ The 1st ESG Linked Derivatives กับ ปตท. และ ปตท.สผ.  โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการจัดการบริษัทที่ดี เพื่อผลลัพธ์ทางการเงินที่ยั่งยืนในระยะยาว และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับประเทศไทย.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ฝนตกหนักบางแห่ง กลางตอนล่าง-ตะวันออก-ใต้

กทม. 7 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่างรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย […]

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]

โซเชียลแห่ติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

6 มิ.ย. – ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการส่งกำลังใจให้ผู้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ด้วยแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ที่กำลังร้อนแรงในโลกโซเซียลขณะนี้ หลัง “กองทัพบก Royal Thai Army” เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานปกป้องประเทศชาติ บทเพลงต่างๆ ที่สื่อถึงความรักประเทศไทย ก็ถูกนำมาโพสต์ลงโซเซียลในช่วงนี้เช่นกัน หรือจะเป็นกระแสหกเดือนหก ที่นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี ทางกองทัพก็สามารถนำมาโยง ให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล อย่างกองทัพอากาศ โพสต์ภาพ ทหารติดระเบิดบนเครื่องบินรบ นามเรียกขาน “Lightning” พร้อมบรรยายด้วยข้อความ สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย แสดงถึงการพร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย เช่นเดียวกับ เพจกองทัพบก โพสต์ภาพทหารโดดร่ม พร้อมข้อความ Army ส่งด่วน และ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไม่เพียงแต่เหล่าทัพที่จุดกระแสรักชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประกาศจุดยืน ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดน […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]