กรมธุรกิจพลังงานเตือนประชาชนใช้ LPG อย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัย

กรุงเทพฯ 19 มี.ค. – กรมธุรกิจพลังงาน กำชับปั๊มก๊าซ LPG ห้ามเติมลงถังก๊าซหุงต้มฝ่าฝืนมีความผิด โดยมีสินบนนำจับ พร้อมเตือนประชาชนใช้ LPG อย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัย


นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า กรมธุรกิจพลังงานรับทราบปัญหาการลักลอบเติมก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงถังก๊าซหุงต้ม ในปั๊มก๊าซ LPG โดยได้ดำเนินการตรวจสอบ และกำกับดูแลอย่างต่อเนื่องในประเด็นปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีข้อกฎหมายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า “ไม่ให้มีการบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้มภายในสถานีบริการ” ซึ่งตาม พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 มาตรา 66 กำหนดไว้ว่า ผู้ใดประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 โดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 7 ระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานได้ยกระดับมาตรการในการกำกับดูแลทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น การประสานความร่วมมือกับศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ศปนม.) ในการตรวจตราที่มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และการเปรียบเทียบปรับอัตราเต็มขั้นต่อผู้ประกอบกิจการที่กระทำผิด ทั้งนี้ยังได้กำชับ และเน้นย้ำให้ตระหนักถึงความปลอดภัยต่อประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากการกระทำดังกล่าวนอกจากจะมีความผิดตามกฎหมายแล้ว ยังก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยทั้งในระหว่างการเติมและการใช้ถังก๊าซหุงต้มของประชาชน ซึ่งกรมธุรกิจพลังงานได้ประสานความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงพลังงานจังหวัด ทั่วประเทศ ในการประชาสัมพันธ์ แจ้งเบาะแส หากพบการกระทำความผิดลักลอบเติมก๊าซ LPG ลงถังก๊าซหุงต้มในสถานีบริการ มีสินบนนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแส ไม่น้อยกว่า 3,750 บาทต่อกรณี โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมธุรกิจพลังงาน กองความปลอดภัยธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว กลุ่มสถานีบริการ โทร. 02 794 4814 (ในวันเวลาราชการ)


นอกจากนี้ กรมธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างทบทวนแนวทางดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายเพื่อเพิ่มโทษ กับสถานีบริการและผู้ปฏิบัติงาน กรณีพบการกระทำผิดซ้ำ ตามมาตรา 54 และอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต ตามมาตรา 55 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 เพื่อยกระดับมาตรการในการกำกับดูแลไม่ให้เกิดการกระทำผิด และกรมธุรกิจพลังงานจะดำเนินการสุ่มตรวจร่วมกับสำนักงานพลังงานจังหวัดเป็นระยะต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ก๊าซหุงต้มอย่างปลอดภัย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ผู้เสียหายแจ้งความถูกร้านทองหลอกขายกรอบทองคำรูปสัตว์มงคล

ผู้เสียหายแจ้งความถูกร้านทองดังหลอกขายกรอบทองคำรูปสัตว์มงคล ราคารวม 1 ล้านบาท ผ่านมา 8 ปี เอะใจนำทองไปเผา สุดท้ายเป็นเพียงพลาสติก

ทวงหนี้โหด

มอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทวงหนี้โหดยิงดับต่อหน้าลูก

ยอมมอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทวงหนี้โหด บุกถึงห้องยิงดับต่อหน้าลูกชาย หนีจับแม่ค้าเป็นตัวประกัน ตำรวจพาแม่และญาติเกลี้ยกล่อมสำเร็จ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม

ข่าวแนะนำ

เสด็จเยือนภูฏาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ในการเสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ในการเสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ

ยกย่องมรดกไทย

ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2568

ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย “สมุดไทยคำหลวง – พระเจ้าช้างเผือก – เอกสารอาเซียน” เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2568 ตอกย้ำบทบาทสำคัญของชาติไทยในประวัติศาสตร์โลก

อุตุฯ เตือนไทยตอนบน เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน-ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน ฝนถล่ม ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

ตำรวจไล่ล่าพรานป่าสาละวิน ฆ่าชาวบ้านแล้ว 2 ราย

เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งไล่ล่าตัวพรานป่าสาละวิน ที่แม่ฮ่องสอน ก่อเหตุฆ่าชาวบ้านไปแล้ว 2 ราย พร้อมเสริมกำลังรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้าน เพราะผู้ก่อเหตุยังมีอาวุธปืนและเหลือกระสุนอยู่เกือบสิบนัด หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วครอบครัวของพรานป่ารายนี้แจ้งความกับตำรวจว่าหายตัวไปหลังเข้าไปหาของป่า จนกระทั่งพบว่าลงมือก่อเหตุฆ่าชาวบ้านไป 2 ศพ กลายเป็นบุคคลอันตราย และพบประวัติใช้สารเสพติด