SCB EIC ปรับลดจีดีพีปี 67 เหลือ 2.7%  คาด กนง.ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งภายครึ่งปีแรก

กรุงเทพฯ 14 มี.ค.-  SCB EIC ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2567 เหลือ 2.7% ชี้ภาคการผลิตไทยปรับตัวช้าฉุดเศรษฐกิจระยะยาว มองดอกเบี้ยไทยจะปรับลด 2 ครั้งภายในครึ่งแรกของปี คาดหาก digital wallet เกิดขึ้นในปีนี้ จะดันจีดีพีขึ้นอีก 1-2%


นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) และรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร  ธนาคารไทยพาณิชย์  เปิดเผยว่า SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจโลกในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโต 2.6% ใกล้เคียงปีก่อน มุมมองปรับดีขึ้นจากแรงส่งที่ดีในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวได้ดีในช่วงต้นปีนี้ โดยกิจกรรมในภาคบริการขยายตัวเร่งขึ้น ขณะที่กิจกรรมในภาคการผลิตเริ่มกลับมาขยายตัวจากที่หดตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกจะได้รับแรงสนับสนุนจากการค้าโลกที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้นและอัตราเงินเฟ้อโลกที่ชะลอตัวลง แต่ยังมีแรงกดดันจากผลกระทบของภาวะดอกเบี้ยสูง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ และปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลกจากปัญหาการขนส่งบริเวณทะเลแดงและคลองปานามาที่แห้งแล้ง

ธนาคารกลางกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักจะเริ่มปรับทิศการใช้นโยบายการเงินไตรมาส 2 ปีนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง รวม 75 BPS ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง รวม 100 BPS ตามทิศทางเงินเฟ้อที่ปรับชะลอลง ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง รวม 20 BPS ซึ่งเป็นการยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ขณะที่ธนาคารกลางจีนจะยังใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพยุงเศรษฐกิจต่อเนื่อง


สำหรับมุมมองต่อเศรษฐกิจไทย SCB EIC ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2567 เหลือ 2.7% (เดิม 3%) แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องได้ จากแรงขับเคลื่อนของการท่องเที่ยวและภาคบริการรวมถึงเศรษฐกิจด้านอุปสงค์อื่นที่กลับมาขยายตัวเร่งขึ้นในหลายองค์ประกอบ โดยเฉพาะการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มดีขึ้น แต่แรงส่งภาครัฐจะยังหดตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกจากความล่าช้าของการประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2567 กอปรกับปัญหาสินค้าคงคลังสะสมสูงจากปีก่อนจะยังไม่สามารถคลี่คลายได้เร็ว ส่วนหนึ่งจากปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคการผลิตไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออกไทยที่สูญเสียความสามารถในการแข่งขัน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยจะยังฟื้นช้าต่อเนื่องมาในปีนี้

”อย่างไรก็ตาม มองว่าหากนโยบาย digital wallet 5 แสนล้านบาท เกิดขึ้นทันภายในปีนี้ ก็อาจจะส่งผลให้จีดีพีของไทยปรับเพิ่มขึ้นอีก 1-2% แต่มองว่าการลงทุนภาครัฐจะช่วยกระต้นเศรษฐกิจได้มากกว่า“ นายสมประวิณ

ส่วนเงินเฟ้อไทยที่ติดลบต่อเนื่องหลายเดือน SCB EIC ประเมินว่า ไทยยังไม่เผชิญภาวะเงินฝืด โดยเงินเฟ้อจะกลับมาเป็นบวกตั้งแต่เดือน พ.ค. เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือด้านราคาพลังงานจะสิ้นสุดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันในประเทศที่จะเริ่มปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ เงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงด้านสูงท่ามกลางความเสี่ยงห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักจากสถานการณ์ทะเลแดง สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายควบคุมการส่งออกของบางประเทศที่อาจทำให้ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดเพิ่มขึ้น เช่น ข้าวและน้ำตาล เงินเฟ้อทั่วไปในช่วงครึ่งหลังของปีจึงจะเร่งกลับไปแตะกรอบเงินเฟ้อได้ โดย SCB EIC ประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2567 อยู่ที่ 0.8% และ 0.6% ตามลำดับ


ในระยะยาว ปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคการผลิตไทยที่รุนแรงขึ้นยังกดดันให้ศักยภาพเศรษฐกิจไทยปรับลดลงจากประมาณการในอดีต SCB EIC ประมาณการศักยภาพเศรษฐกิจไทยในช่วงก่อนเกิดโควิด (ปี 2560 – 2562) อยู่ที่ระดับ 3.4% ขณะที่ศักยภาพเศรษฐกิจไทยในระยะยาวเติบโตต่ำลงเหลือ 2.7% (จากเดิม 3% ประเมิน ณ เดือน ธ.ค. 2566) ซ้ำเติมเทรนด์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวที่มีทิศทางลดลงอยู่ก่อนแล้ว สาเหตุหลักมาจาก 1) ผลิตภาพการผลิต (Total factor productivity) ของไทยต่ำลงเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งจากปัญหาผลิตภาพแรงงานไทยลดลงและกฎเกณฑ์ภาครัฐจำนวนมากที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ 2) ปัจจัยทุน (Capital) ของไทยที่มีแนวโน้มลดลงจากสัดส่วนการลงทุนในประเทศที่ลดลงกว่าครึ่ง เหลือประมาณ 24% ของ GDP ในช่วง 2 ทศวรรษหลัง และความสามารถในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (FDI) ของไทยต่ำลงหากเทียบประเทศในภูมิภาคอาเซียน และ 3) ปัจจัยกำลังแรงงาน (Labor) ที่มีแนวโน้มลดลงจากการเข้าสู่สังคมสูงวัยเร็ว

SCB EIC ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะทยอยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบันที่ 2.5% มาอยู่ที่ 2% ภายในครึ่งแรกของปีนี้ เพื่อรักษาบทบาทนโยบายการเงินที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจไว้เช่นเดิม ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้นอกจากจะเป็นการปรับ Stance ของนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่เปลี่ยนไปได้ทันสถานการณ์แล้ว จะยังมีผลช่วยบรรเทาภาระหนี้สูง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจและครัวเรือนเปราะบางที่อาจได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้นมากกว่ากลุ่มอื่น รวมถึงช่วยเพิ่มปัจจัยบวกต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของไทยท่ามกลางแรงส่งภาครัฐที่ยังติดขัดในปีนี้ได้อีกทาง

ค่าเงินบาทในระยะสั้นจะทรงตัวในกรอบ 35-36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากปัจจัยต่างประเทศมีผลทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากแล้ว เงินบาท ณ สิ้นปีมีแนวโน้มแข็งค่าในกรอบ 33.50-34.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่จะอ่อนค่าลงตามการลดดอกเบี้ยของ Fed และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น

ประเทศไทยมีความท้าทายสำคัญจากปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคการผลิตอุตสาหกรรม แม้การผลิตในปี 2567 จะมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้จากแรงส่งของสินค้าอุปโภคบริโภคที่ฟื้นตัวตามอุปสงค์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมของไทยยังผูกโยงกับห่วงโซ่อุปทานเก่าอยู่มาก กอปรกับการที่เศรษฐกิจไทยเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีนและห่วงโซ่การผลิตจีนมากท่ามกลางกระแสภูมิรัฐศาสตร์โลก รวมถึงความสามารถของภาคการผลิตไทยในการปรับตัวกับห่วงโซ่การผลิตโลกใหม่และรูปแบบความต้องการสินค้าในตลาดโลกที่เปลี่ยนไปได้ช้า ทำให้การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคส่งออกไทยยังทำได้ค่อนข้างจำกัด สะท้อนจากส่วนแบ่งยอดขายสินค้าส่งออกของไทยในตลาดโลกที่ยังใกล้เดิมมาตลอดทศวรรษ ดังนั้น การปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยให้สอดรับกับกระแสความยั่งยืน การยกระดับขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยี และการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงและเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานโลกใหม่ จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อภิปรายนายก

“บิ๊กป้อม” ซักฟอก 10 นาที นายกฯ แจงที่พูดมาไม่เป็นความจริง

“บิ๊กป้อม” ลุกอภิปรายครั้งแรก ซัดแรง “ประเทศไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” ชี้ มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศ เหตุเศรษฐกิจล้มเหลว-เสี่ยงเสียดินแดนปม MOU44-กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ ลั่น เคยใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศสำเร็จหลายอย่าง แนะ นายกฯ เห็นประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว-พวกพ้อง ขณะที่ นายกฯ ลุกขึ้นแจงสภาครั้งแรกย้อนกลับ คำพูด “ประวิตร” ทุกอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง

ลดราคาน้ำมัน

“พีระพันธุ์” ลดราคาน้ำมัน 1 บาท ช่วงสงกรานต์ ตรึง LPG -หาทางลดค่าไฟ

“พีระพันธุ์” ประธาน กบน.ใช้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประกาศข่าวดี ผลงานเด่น ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงสงกรานต์ ตรึงราคาแอลพีจี และเตรียมหาทางลดค่าไฟฟ้าลงอีก

สกัดจับรถตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงขนยาเสพติดข้ามประเทศ

ตำรวจขยายผลสกัดจับยาบ้าลักลอบขนมาจากตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลง ข้ามชายแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบพฤติกรรมผู้ต้องหาเปิดบริษัทซื้อรถบรรทุกขนตู้คอนเทนเนอร์ส่งน้ำข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับดัดแปลงรถตู้คอนเทนเนอร์นำยาเสพติดเข้าประเทศ

Noon Varanuch in China

“นุ่น วรนุช” ลุคสวยสะกด ร่วมรายการวาไรตี้จีน

ฉางซา 24 มี.ค. – “นุ่น วรนุช” ดารานักแสดงชื่อดังของไทย โชว์ความสามารถในรายการ “ไรด์ เดอะ วินด์” (Ride The Wind) หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 ของช่องแมงโกทีวี (Mango TV) ในจีน ซึ่งเริ่มต้นออกอากาศตอนแรกเมื่อวันศุกร์ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นุ่น วรนุช นักแสดงหญิงชาวไทย เข้าร่วมบันทึกเทปรายการไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 โดยเธอได้ร้องเพลง “พิง” ของนนท์ ธนนท์ ฉบับภาษาไทย-ภาษาจีน บนเวทีริมทะเลที่อำเภอปกครองตนเองหลิงสุ่ย กลุ่มชาติพันธุ์หลี มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 ไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง เป็นรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดังที่ออกอากาศมา 6 ซีซันแล้ว เปิดโอกาสให้ดารานักแสดงหญิงจากทั่วโลกมาทำการแสดงด้วยเป้าหมายส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับนานาชาติ โดยซีซันก่อนหน้านี้มีนักแสดงหญิงชาวไทยอย่างใหม่ ดาวิกา […]

ข่าวแนะนำ

โรมอภิปรายนายใหญ่

“โรม” จัดหนักพุ่งเป้า “นายใหญ่”

“โรม” จัดหนักชั่วโมงกว่า พุ่งเป้า “นายใหญ่” สงสัย “นายกฯ แพทองธาร” ดีลปีศาจพาพ่อกลับบ้านหรือไม่ ท้าตอบคำถามเอง ในฐานะประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์มากที่สุด

ภาษีนายกฯ

นายกฯ บอกฝ่ายค้านยื่นสอบปมภาษีได้เลย ยันทำตามกฎเกณฑ์

นายกฯ บอกฝ่ายค้านยื่นสอบปมภาษีได้เลย ยันทำตามกฎเกณฑ์ทุกอย่าง งง! ยกเรื่องรัฐบาลอื่นมาใส่ “แพทองธาร” ชี้ “ทักษิณ” มอนิเตอร์เหมือนชาวบ้านท่านหนึ่ง เมินโซเชียลบอกเสียคะแนนให้ “บิ๊กป้อม”

ตำรวจทำร้ายตำรวจ

ผบช.สตม.จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “ด.ต.” ทำร้าย รอง สวป.สภ.สัตหีบ

ผบช.สตม.จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “ด.ต.” ทำร้าย รอง สวป.สภ.สัตหีบ ขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือหญิงสาว หลังเห็นภาพชัด

กีกี้

“กีกี้” ทำสภาวุ่น “ภราดร” ลุกขึ้นเพื่อให้สมาชิกนั่งลงตามข้อบังคับ

“กีกี้” เป็นเหตุ ทำสภาวุ่น จน “ภราดร” ลุกขึ้น เพื่อให้สมาชิกนั่งลงตามข้อบังคับ หลัง สส. โวย ประธานปิดไมค์ ด้าน “ภูมิธรรม” บอกให้เปิดกูเกิ้ล ดูความหมายของคำ