ไทยขอสหรัฐฯ พิจารณาต่ออายุให้สิทธิ GSP หลังหมดไปเมื่อปลายปี 63

นนทบุรี 13 มี.ค.-รมว.พณ.หารือรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ พร้อมสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้า ส่งเสริมความเข้มแข็งห่วงโซ่อุปทาน และขอให้สหรัฐฯ พิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิ GSP ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับนางจีนา เอ็ม. เรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ พร้อมด้วยสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทางการค้า เน้นย้ำการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ร่วมมือกันขับเคลื่อนการเจรจา IPEF และผลักดันการต่ออายุโครงการ GSP ตลอดจนการปลดไทยออกจากบัญชี WL ด้านทรัพย์สินทางปัญญา

ทั้งนี้ กับผู้บริหารสหรัฐในครั้งนี้ เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในการส่งเสริมการค้าและโอกาสทางธุรกิจกับประเทศในภูมิภาคต่างๆ ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกัน โดยเน้นย้ำว่าไทยและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาเป็นเวลานานกว่า 190 ปี และกระทรวงพาณิชย์ของไทยพร้อมร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน


อย่างไรก็ตาม ได้นำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญของไทยแก่สหรัฐฯ อาทิ นโยบาย Soft Power การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ การสร้างดุลยภาพของผลประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้บริโภค การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศโดยการร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Digital Wallet การส่งเสริม MSMEs การผลักดันการส่งออก ตลอดจนการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ของไทย รวมทั้งการมุ่งแก้ไข/ปรับปรุงข้อจำกัดทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคทางการค้าเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถและโอกาสทางธุรกิจของภาคเอกชน

ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน โดยไทยพร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่ของสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด การบิน ยาและเวชภัณฑ์ และสหรัฐฯ ก็พร้อมสนับสนุนภาคเอกชนของสหรัฐฯ ให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ไทยได้แสดงความยินดีต่อการเจรจาความตกลง IPEF ซึ่งมีความก้าวหน้าที่ดีในปี 2566 ที่ผ่านมา และพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ และประเทศหุ้นส่วนในการเจรจาเพื่อหาข้อสรุปความตกลง IPEF ร่วมกันในเสาที่ 1 เรื่องการค้า (Pillar 1 Trade) ซึ่งสหรัฐฯ พร้อมที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้ IPEF ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานกับไทยและประเทศในภูมิภาคต่อไป


นอกจากนี้ ไทยยังได้ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิ GSP ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ อีกทั้ง ไทยได้แสดงให้สหรัฐฯ เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยในการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาในด้านต่าง ๆ รวมถึงการตอบสนองต่อทุกข้อกังวลของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้สามารถปรับสถานะของไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List: WL) และจากทุกบัญชีให้ได้ต่อไป

“ตนได้แนะนำหม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทยเป็นตัวกลางคุยกับสหรัฐฯในการดำเนินการต่างๆ หลังจากนี้เราจะลงในรายละเอียดต่อไป ซึ่งการหารือในวันนี้เป็นบวก สหรัฐฯเชื่อมั่นในรัฐบาลไทยและยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้คุยกัน ทำให้เกิดความเข้าใจกันเป็นอย่างดีอยากสร้างความสัมพันธ์และยกระดับ ซึ่งท่านรัฐมนตรีจะมาผลักดันเองให้สิ่งที่คุยกันวันนี้เป็นจริง เป็นนิมิตหมายอันดีเรามีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นและรู้ใจกันการร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก” นายภูมิธรรมกล่าว

อย่่างไรก็ตาม ในปี 2566 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 2 ของไทย โดยมีมูลค่าการค้ารวม 68,358.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ 48,864.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขณะที่สหรัฐฯ เป็นแหล่งนำเข้าลำดับ 3 ของไทย มีมูลค่าการนำเข้าจากสหรัฐฯ 19,493.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบเป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน