ตลท.เดินหน้าโรดโชว์ต่างประเทศเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน

กรุงเทพฯ 11 มี.ค.-ตลท. เดินหน้าจัดโรดโชว์ต่างประเทศ ตลอดปี 2567 เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน เผยสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติพุ่งกว่า 50% ขณะที่เดือน ก.พ.2567 นโฟล์วไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทย สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตลทท.ได้เข้าร่วมแนะนำข้อมูลตลาดหุ้นไทย (โรดโชว์) ที่ประเทศออสเตรเลีย ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลียสมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) ซึ่ง ตลท.ได้ร่วมให้ข้อมูลกับกองทุนขนาดใหญ่ของประเทศออสเตรเลีย ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) กว่า 2 ล้านล้านบาท และงานอาเซียน – CEO โรดโชว์ ซึ่งเป็นกิจการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ 6 แห่งในอาเซียนร่วมกันจัดขึ้นที่เมืองเมลเบิร์น ซึ่งมีกองทุนจากประเทศออสเตรเลียร่วมงานจำนวน 17 กองทุน หรือมีมูลค่า AUM รวมกว่า 6 ล้านล้านบาท โดยธีมการลงทุนที่นักลงทุนต่างชาติสนใจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Healthcare , Wealth Being , Green Energy , Solar หรือการประหยัดพลังงาน รวมถึงสนใจบริษัทที่มีผลคะแนน ESG ค่อนข้างดี ซึ่งที่่ผ่านมาได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก


โดยในปี 2567 ตลท. เตรียมเดินสายโรดโชว์ ให้กับนักลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดและเพิ่มสัดส่วนความหลากหลายของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนตลาดหุ้นไทยมากขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นและอัพเดตข้อมูลว่าตลาดหุ้นไทยมีการพัฒนาอย่างไรบ้าง หลังจากนี้มีแผนจะเดินทางไปโรดโชว์ ในกลุ่มตะวันออกกลาง, สิงคโปร์, อังกฤษ, ฮ่องกง และสหรัฐฯ ทั้งนี้ สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 50% สูงกว่าอดีตที่เคยอยู่ระดับ 35-40% ซึ่งเป็นผลมาจาก ตลท.สร้างฐานผู้ลงทุนในประเทศได้เร็วไม่ทันกับฐานนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งมูลค่าการซื้อขายของทั้งสองกลุ่มไม่ได้ลดลง แต่เพิ่มขึ้นในระดับที่ค่อนข้างต่างกัน โดยฐานนักลงทุนต่างชาติจะโตเร็วมาก เพราะเวลามีการโรดโชว์ต่างประเทศๆจะมีนักลงทุนขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างมาก

สำหรับนักลงทุนในประเทศ ทาง ตลท. จะมีการส่งสริมและพัฒนาให้มากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้มีการการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) อย่างเหมาะสม คือ การกระจายการลงทุนไปในหลาย ๆ สินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ กระจายความเสี่ยงของการลงทุน ช่วยให้ลดความผันผวนให้กับพอร์ตการลงทุน


นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท. เปิดเผยว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2567 แม้ผู้ลงทุนจะลดความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยของ FED เหลือเพียง 3 ครั้งในปีนี้ แต่หากมองภาพรวมในสินทรัพย์เสี่ยงกลับยังร้อนแรง โดยเฉพาะบิตคอยน์และหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน และทองคำยังปรับสูงขึ้นจากคาดการณ์เงินสกุลดอลล่าร์มีแนวโน้มอ่อนค่า

โดยเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลจากการปรับลดคาดการณ์ GDP ไทย โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567 ไปอยู่ที่ 2.2 – 3.2% ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจมาจากการกลับมาขยายตัวของการส่งออกสินค้าตามการฟื้นตัวของการค้าโลก และการขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว โดยนักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการกำไรของบริษัทในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ราคาหลักทรัพย์กลุ่มดังกล่าวเริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากทั้งในและต่างประเทศ นักวิเคราะห์ให้คำแนะนำกับผู้ลงทุนเข้าซื้อหุ้นตามธีม High Dividend เพราะนอกจากจะได้รับกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ (Passive Income) หุ้นกลุ่มนี้ยังมีผลตอบแทนชนะ SET Index อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหุ้น High Dividend ยังมีคุณลักษณะเป็นหุ้นปลอดภัย (Defensive) โดยสังเกตจากค่า Beta ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด

ทั้งนี้ ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 SET Index ปิดที่ 1,370.67 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้าซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ปรับลดลง 3.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ กลุ่มเกษตรและอาหาร และ กลุ่มทรัพยากร


มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 47,265 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า 29.5% โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน 2 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 47,185 ล้านบาท ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,246 ล้านบาท ทำให้ใน 2 เดือนแรกของปีนี้ ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 27,624 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 22

มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. เอ็นแอล ดีเวล ลอปเมนต์ (NL) และ บมจ. ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) และใน mai 3 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. เพเนเล่ส์มาติก โซลูชั่นส์ (PANEL) บมจ. แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ (NAT) บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO)

Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อยู่ที่ระดับ 14.3 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.9 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 16.3 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.3 เท่า.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย