กรุงเทพฯ 11 มี.ค. – สรรพสามิตจับมอเตอร์ไซค์ในร้านขายอุปกรณ์การเกษตรที่บุรีรัมย์ ตรวจสอบพบไม่เสียภาษีสรรพสามิต ยอมขอโทษ หลังโพสต์ ตำหนิเจ้าหน้าที่
ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดิโอในโลกโซเชียลสงสัยว่าไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิตในร้านขายอุปกรณ์การเกษตรที่จังหวัดบุรีรัมย์นั้น กรมสรรพสามิตได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวในโลกโซเชียล เป็นส่วนหนึ่งจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น โดยผู้ที่ได้รับชมอาจได้รับทราบข้อมูลไม่ครบถ้วนจนทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน จึงได้เข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ณ ร้านขายอุปกรณ์ทางการเกษตร ถนนนางรอง – ลำปลายมาศ ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ GPX RACING ขนาด 125 ซี.ซี. (สีน้ำเงิน) จำนวน 1 คัน เป็นรถจดประกอบ ต้องสงสัยว่าไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต พบกับนายภัทร์ธนศักดิ์ เจ้าของร้านได้มีการนำเอกสารสัญญาซื้อขายรถจักรยานยนต์ และใบเสร็จการชำระภาษีกรมสรรพสามิตพื้นที่สมุทรปราการ 1 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 มาแสดง ตรวจพบว่าเอกสารดังกล่าวมีหมายเลขเครื่องและหมายเลขตัวถังไม่ตรงกัน จึงได้ชี้แจงข้อกฎหมายให้ทราบ พร้อมทำการอายัดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว
โดยแจ้งเจ้าของร้านให้นำเอกสารชำระภาษีตามที่กล่าวอ้าง นำมาสำแดงต่อเจ้าหน้าที่สรรพสามิตภายใน 15 วัน โดยไม่ถูกเปรียบเทียบปรับแต่อย่างใด ในช่วงเวลาต่อมา นายภัทร์ธนศักดิ์ ได้ทำการโพสต์ข้อความ รูปภาพ และวีดิโอของคลิปการเข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่ได้มีการเบลอหน้าเจ้าหน้าที่สรรพสามิต รวมถึงได้มีถ้อยคำและข้อความในลักษณะทำให้ได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จึงได้ดำเนินการเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ ได้มีการพูดคุย รวมถึงการสร้างความเข้าใจในข้อกฎหมายให้นายภัทร์ธนศักดิ์ ถึงความผิดฐานครอบครองสินค้าที่ไม่ได้ชำระภาษีสรรพสามิต ซึ่งนายภัทร์ธนศักดิ์ เข้าใจและดำเนินการชำระค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 9,920 บาท พร้อมทั้งกล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่สรรพสามิต รวมถึงได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ถอนแจ้งความจากกรณีที่ตนได้นำคลิปวีดิโอบางส่วนจากการเข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ และการโพสต์ข้อความในลักษณะที่สร้างความเสียหายให้แก่เจ้าหน้าที่สรรพสามิต ซึ่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้ทำการถอนแจ้งความดังกล่าวให้หลังจากที่ได้มีการขอโทษและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่นายภัทร์ธนศักดิ์แล้ว
ดร.นิตยา กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่สรรพสามิตสามารถทำการตรวจสอบได้ว่ามีการชำระภาษีสรรพสามิตแล้วหรือไม่ โดยใช้หมายเลขเครื่อง/หมายเลขตัวถัง ทำการตรวจสอบในระบบ โดยรถทุกคัน เมื่อทำการชำระภาษี จะทำการบันทึกข้อมูลในระบบรับชำระภาษี เชื่อมมาที่ระบบตรวจสอบการรับชำระภาษี ในกรณีรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เมื่อไม่มีการชำระภาษีสรรพสามิต จึงได้ดำเนินการอายัดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไว้ ผู้ครอบครองสินค้าที่มิได้ชำระภาษีสรรพสามิต มีโทษปรับ 2-10 เท่าของค่าภาษี และมาตรา 204 ระบุไว้ว่า กรณีขายหรือมีไว้เพื่อขาย หากตรวจพบการกระทำผิด จะถูกดำเนินคดี โดยกำหนดโทษปรับไว้ที่ 5-15 เท่าของค่าภาษี ดังนั้น การซื้อขายรถจากช่องทางออนไลน์ จึงควรตรวจสอบข้อมูลการชำระภาษีสรรพสามิต เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นรถที่ถูกกฎหมาย สามารถทำการสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานสรรพสามิตทุกพื้นที่ทั่วประเทศหรือกรมสรรพสามิต หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแส หรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมลล์ excise_hotline@excise.go.th. -515- สำนักข่าวไทย